Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจ้าหนูจำไม
•
ติดตาม
31 ส.ค. 2020 เวลา 06:30 • หนังสือ
ตายแล้วไปไหน
เรียบเรียงโดย พายุแห่งความเปรมปรีดิ์
“ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” เป็นคำที่เราทุกคนคงคุ้นเคยดี และก็เป็นความจริงที่ว่าทุก ๆ คนจะต้องตาย ไม่มีใครหนีพ้นได้ คำถาม “ตายแล้วไปไหน” จึงเป็นคำถามที่ผู้คนต่างแสวงหาคำตอบกันมานานแสนนาน แน่นอนว่าไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริงนอกจากคนที่จะเคยตายไปแล้ว และฟื้นกลับมาบอกความจริงนี้เท่านั้น
แม้ว่าเราจะไม่รู้คำตอบที่แท้จริงของชีวิตหลังความตาย แต่เราก็สามารถวิเคราะห์โดยใช้หลักของเหตุและผล บางคนก็อาจใช้หลักของความเชื่อ เพื่อคาดเดาคำตอบ ซึ่งพอจะสรุปคำตอบต่าง ๆ ได้ดังนี้
1. ตายแล้วดับสูญ ไม่มีโลกหน้า
ตายแล้วไปไหน ดับสูญหรือว่ามีชีวิตหลังความตาย รีบหาคำตอบก่อนที่จะสายเกิน
ไป
ที่มา : https://www.flickr.com/photos/keesssss/5050613253
ถ้าการตายแล้วดับสูญเป็นจริง หลาย ๆ คนก็คงจะมีความสุข เพราะสามารถใช้ชีวิตในโลกนี้ยังไงก็ได้ ไม่ต้องคิดถึงผลกรรมต่าง ๆ ที่จะตามมา ความเชื่อที่ว่าตายแล้วดับสูญนั้น จะพูดอีกแง่มุมนึงก็คือ ความเชื่อที่ว่าคนเรามีแค่ชีวิตด้านร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่จะไม่มีจิตวิญญาณ เมื่อไม่มีวิญญาณ ร่างกายเมื่อตายไปทุกอย่างก็จบสิ้น กลายเป็นผงคลีดินเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลาย ๆ คนเชื่อว่าคนมีจิตวิญญาณ ซึ่งจิตวิญญาณนี้จะไม่มีในสัตว์ เพราะเราไม่เคยเห็นสัตว์แม้แต่ชนิดเดียวเข้าวัด ไปโบสถ์ อธิษฐาน หรือกราบไหว้บูชารูปเคารพต่าง ๆ มีแต่คนเท่านั้นที่ทำ และนี่คือข้อพิสูจน์ว่าคนเราประกอบไปด้วย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ แต่นี่คือข้อสรุปที่ถูกต้องหรือ?
เราไม่รู้ว่านี่คือหลักฐานที่แท้จริงหรือเป็นเพียงความเชื่อที่เราอยากจะเชื่อ เพราะอย่างที่รู้ว่าคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และสิ่งที่คนเราไม่สามารถหาคำตอบหรือพิสูจน์ได้ เราก็พยายามจะหาคำตอบให้ได้ และนั่นจึงเป็นที่มาของ “ความเชื่อ” การที่เราไม่รู้ว่าหลังจากตายแล้วจะเป็นอย่างไร เราจึงพยายามแสวงหาหนทางเพื่อให้ตนเองปลอดภัย และนี่อาจเป็นที่มาของการที่มนุษย์เรามีศาสนา มีการกราบไหว้บูชาสิ่งต่าง ๆ ซึ่งสัตว์ไม่สามารถทำได้
ความเชื่อที่ว่าถ้าจิตวิญญาณมีจริง จิตวิญญาณน่าจะเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์จึงพยายามทดลองและพิสูจน์ความมีอยู่จริงของจิตวิญญาณ โดยทำการทดลองคนที่เพิ่งตายและดูว่ามีพลังงานออกมาจากร่างกายหรือไม่ แต่จนถึงปัจจุบันวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าคนมีจิตวิญญาณหรือไม่
เมื่อเราไม่สามารถสรุปได้ว่าคนมีวิญญาณหรือไม่ เราก็ไม่สามารถตัดประเด็นเรื่องการตายแล้วดับสูญทิ้งไป อย่างไรก็ตามหากเราใช้หลักความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์มาวิเคราะห์เรื่องนี้ เราจะพบว่าความเชื่อเรื่องตายแล้วดับสูญเป็นความเชื่อที่ไม่น่าจะเชื่ออย่างยิ่ง เนื่องจากถ้าหากการตายแล้วดับสูญเป็นจริง คนที่ทำดีกับทำชั่วก็ไม่แตกต่างกัน ตายไปก็สูญหายหมด แต่ถ้าหากเราตายแล้วมีชีวิตหลังความตายละ คนที่ใช้ชีวิตอย่างประมาท ใช้ชีวิตตามใจตนเองโดยไม่คิดถึงศีลธรรมที่ดีคงต้องแย่แน่ ๆ หากจะต้องรับผลของสิ่งที่ตนได้กระทำเอาไว้
2. มีชีวิตหลังความตาย มีโลกหน้า
นั่นคือการเชื่อว่าคนเราประกอบไปด้วยร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เมื่อเราตาย เราตายแต่ร่างกายเท่านั้น แต่จิตวิญญาณของเรายังคงอยู่ ซึ่งความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายยังแบ่งออกเป็นความเชื่อต่าง ๆ ดังนี้
ที่มา : https://www.esenciaymisterio.com/evidencias-cientificas-que-prueban-que-la-reencarnacion-existe/
ตายแล้วไปไหน ดับสูญหรือว่ามีชีวิตหลังความตาย รีบหาคำตอบก่อนที่จะสายเกินไป
2.1 มีการเวียนว่ายตายเกิด
เป็นความเชื่อที่ว่าการกระทำบนโลกนี้มีผลต่อชีวิตหลังความตาย ถ้าทำบาปกรรมไว้มากก็จะไปเกิดเป็นสัตว์ต่าง ๆ แต่ถ้าทำกรรมดีเยอะ ผลบุญก็จะทำให้ได้เกิดเป็นคนอีกครั้ง และจุดสูงสุดของความเชื่อนี้คือการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือการพ้นทุกข์นั่นเอง
อย่างไรก็ตามเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดก็มีข้อสงสัยบางประการ เช่น ใครเป็นผู้ตัดสินว่าคนไหนควรจะไปเกิดเป็นอะไร คนไหนควรจะพ้นทุกข์ พ้นจากกฎแห่งกรรม เพราะจุดสูงสุดของความเชื่อแบบนี้คือการดับสูญ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก คนที่บรรลุถึงจุดสูงสุดของความเชื่อแบบนี้จึงไม่สามารถตัดสินว่าใครควรกลับชาติไปเกิดเป็นอะไร
2.2 ความเชื่อเรื่องนรก สวรรค์
คือเชื่อว่าการกระทำของเราขณะที่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้จะส่งผลถึงโลกหน้า
ถ้าทำดี ทำบุญไว้เยอะ ตายไปก็จะได้อยู่บนสวรรค์ แต่ถ้าทำบาปทำกรรมก็จะต้องตกนรก อย่างไรก็ตามแนวคิดเรื่องนรกสวรรค์ยังแบ่งเป็นแบบชั่วคราวและแบบถาวร
ตายแล้วไปไหน ดับสูญหรือว่ามีชีวิตหลังความตาย
รีบหาคำตอบก่อนที่จะสายเกินไป
ที่มา : http://cookxl.info/heaven-and-hell-painting/heaven-and-hell-painting-bottom-song-from-hell-on-hieronymus-boschs-masterpiece-played-templates/
- แบบชั่วคราว
ความเชื่อแบบนี้เชื่อว่าเมื่อเราทำกรรม เราก็ต้องชดใช้กรรมในนรก เมื่อกรรมหมดก็กลับไปรับผลบุญที่ทำไว้บนสวรรค์ และเมื่อผลบุญหมดก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ สร้างบุญ สร้างกรรม กันอีกครั้ง อย่างที่กล่าวไว้ว่าการเวียนว่ายตายเกิดยังมีข้อสงสัยอยู่ แนวคิดนี้จึงยังคงมีคำถามที่ยังหาคำอธิบายที่เหมาะสมไม่ได้
- แบบถาวร
ความเชื่อแบบนี้จะมีมาตรฐานในการดำรงชีวิตบนโลกนี้ ถ้าหากทำตามมาตรฐานได้ก็จะได้อยู่บนสวรรค์นิรันดร์ แต่หากความประพฤติเรายังคงบกพร่องไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เมื่อตายไปก็ต้องรับโทษในนรก
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าความเชื่อที่เราน่าจะยึดถือมากที่สุดก็คือความเชื่อที่ว่า เมื่อเราตายไปยังคงมีอีกโลกนึงรอเราอยู่ มีนรก มีสวรรค์ ซึ่งเราต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นเป็นนิจนิรันดร์ ความเชื่อเรื่องอยู่ในนรกและสวรรค์เป็นนิจนิรันดร์ก็ยังมีหลายความเชื่อ ศาสนาอิสลามก็ว่าอย่างนึง ศาสนาคริสต์ก็ว่าอีกอย่าง อย่างไรก็ตามในที่นี้อยากจะขอกล่าวเรื่องชีวิตหลังความตายว่า “ตายแล้วไปไหน” ตามอย่างที่พระคัมภีร์ไบเบิลได้บอกเรา ดังนี้
ชีวิตหลังความตายตามไบเบิล
1. จิตวิญญาณมีจริงหรือ
ตามหลักพระคัมภีร์แล้วเชื่อว่าร่างกายคนเราประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เมื่อเราตาย ร่างกายก็เน่าเปื่อยไป เหลือแต่จิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ โดยพระคัมภีร์ได้บันทึกความจริงดังกล่าวไว้ดังนี้
1.1 คำพูดของคนที่ยังไม่ตาย
- ใน 2 โครินธ์ 5:6-8 อาจารย์เปาโล (หนึ่งในอัครทูตของพระเยซูคริสต์) บอกว่าขณะอยู่ในร่างกายนี้เราอยู่ห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เราจะได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเมื่อเราออกจากร่างกายนี้ หรือตายนั่นเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนมีจิตวิญญาณ
- ใน ลูกา 23:46 ก่อนสิ้นพระชนม์พระเยซูได้ฝากจิตวิญญาณไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า แสดงว่าเมื่อร่างกายตาย จิตวิญญาณของพระองค์ได้ออกจากร่างไป
- กิจการ 7:59 สเตเฟน (เป็นสาวกที่ตายเพราะความเชื่อในพระเยซู) ได้อธิษฐานให้พระเจ้ารับจิตวิญญาณของเขาหลังจากที่ตายไป
1.2 หลักฐานจากคนที่ฟื้นจากตาย
- 1 พงษ์กษัตริย์ 17:21-22 เอลียาห์ได้ช่วยชีวิตลูกของหญิงม่ายให้ฟื้นขึ้นจากตาย ชีวิตของเด็กคนนี้จะเข้ามาในตัวเด็กอีกครั้งไม่ได้ ถ้าหากไม่ได้มีการจากไปก่อนหน้านี้
- ลูกา 8:54-55 ได้พูดถึงการที่พระเยซูทำให้ลูกสาวของไยรัสฟื้นจากตาย เมื่อวิญญาณจิตของเด็กนั้นกลับเข้าไปในร่าง เขาก็ลุกขึ้น
1.3 หลักฐานอื่น ๆ
- มัทธิว 17:1-8 ได้บันทึกว่าพระเยซูได้พูดคุยกับโมเสสซึ่งได้ตายไปนานแล้ว นี่เป็นการยืนยันว่าชีวิตหลังความตายมีจริง
- ลูกา 23:43 พระเยซูบอกหนึ่งในโจรบนกางเขนว่าจะอยู่ด้วยกันกับพระองค์ที่เมืองบรมสุขเกษม แสดงว่าจิตวิญญาณมีจริงและได้ออกจากร่างหลังจากตาย
ที่มา : http://cookxl.info/heaven-and-hell-painting/heaven-and-hell-painting-bottom-song-from-hell-on-hieronymus-boschs-masterpiece-played-templates/
เมื่อพระคัมภีร์ไบเบิลยืนยันว่าจิตวิญญาณมีจริง คำถามต่อมาก็คือ เมื่อเราตายไป จิตวิญญาณของเราจะไปอยู่ที่ไหน?
2. ตายแล้วไปไหน - ก่อนพระเยซูสิ้นพระชนม์
2.1 สมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม
ในสมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมได้บอกว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว เมื่อตายไปจิตวิญญาณของเขาจะไปอยู่ในแดนคนตาย
- ปฐมกาล 37:35 ยาโคบ (ผู้เป็นต้นตระกูลของคนอิสราเอล) คร่ำครวญว่าจะไปแดนคนตายเพื่อหาลูกชายที่ได้ตายไป
- สดุดี 31:17 บอกว่าคนอธรรมก็อยู่ในแดนคนตายด้วยเช่นเดียวกัน
- 1 ซามูเอล 28:13-14 กล่าวว่าหญิงคนหนึ่งอ้างว่าวิญญาณของซามูเอล (ซึ่งเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่คนอิสราเอลให้ความเคารพนับถือ) ขึ้นมาจากแผ่นดิน ซึ่งแสดงว่าแดนคนตายต้องอยู่ข้างล่างแผ่นดินโลก
- อิสยาห์ 14:9 ให้ข้อมูลเช่นเดียวกันว่าแดนคนตายนั้นอยู่เบื้องล่าง
- กันดารวิถี 16:30-32 แผ่นดินได้แยกออกและได้กลืนคนของโคราห์ให้ลงไปยังแดนคนตาย
- อิสยาห์ 38:10, โยบ 17:16 ยังได้บอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับแดนคนตายว่าคล้าย ๆ กับเมืองที่มีประตูเข้าออก
- ปัญญาจารย์ 9:10 บอกว่าแดนคนตายไม่มีการทำงาน ไม่มีปัญญาหรือความรู้ใด ๆ
จากข้างต้นพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมได้ให้บอกว่าหลังจากที่ทุกคนตายไป ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว จะต้องไปอยู่ในแดนคนตาย ซึ่งอยู่ข้างล่างของแผ่นดินโลก เป็นที่ที่มีประตูเข้าออก และที่นั่นไม่มีการทำงาน ไม่มีความรอบรู้ ความคิด หรือสติปัญญาใด ๆ
2.2 สมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่
พระเยซูได้บอกเราเกี่ยวกับแดนคนตายในลูกาบทที่ 16:19-31 โดยพระเยซูได้เล่าถึงชีวิตของคน 2 คน ดังนี้
19 “มีเศรษฐีคนหนึ่งนุ่งห่มผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อดี อยู่อย่างรื่นเริงฟุ่มเฟือยทุก ๆ วัน
20 และมีคนยากจนคนหนึ่งชื่อลาซารัส เป็นแผลทั้งตัว นอนอยู่ที่ประตูรั้วบ้านของเศรษฐี
21 เขาอยากจะกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของเศรษฐีคนนั้น แม้สุนัขก็มาเลียแผลของเขา
22 ต่อมาคนยากจนนั้นตาย และพวกทูตสวรรค์นำเขาไปอยู่กับอับราฮัม ส่วนเศรษฐีคนนั้นก็ตายด้วย และถูกฝังไว้
23 และเมื่อเขาเป็นทุกข์ทรมานอยู่ในแดนคนตาย เขาแหงนหน้าดู เห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล และลาซารัสก็อยู่กับท่าน
24 เศรษฐีจึงร้องว่า ‘อับราฮัมบิดาเจ้าข้า ขอเมตตาข้าพเจ้าเถิด ขอใช้ลาซารัส
เอาปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็น
เพราะข้าพเจ้าต้องทุกข์ระทมอยู่ในเปลวไฟนี้
25 แต่อับราฮัมตอบว่า ‘ลูกเอ๋ย เจ้าจงระลึกว่าเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่
เจ้าได้สิ่งที่ดีสำหรับตัว และลาซารัสได้แต่สิ่งเลว เวลานี้เขาได้รับการปลอบโยนแล้ว แต่เจ้าได้รับแต่ความทุกข์ระทม
26 ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างเรากับพวกเจ้าก็มีเหวใหญ่ตั้งขวางอยู่ เพื่อว่าถ้าใครอยากจะข้ามจากที่นี่ไปถึงพวกเจ้าก็ทำไม่ได้ หรือถ้าจะข้ามจากที่นั่นมาถึงเราก็ทำไม่ได้
27 เศรษฐีคนนั้นจึงกล่าวว่า ‘ถ้าอย่างนั้น บิดาเจ้าข้า ขอท่านใช้ลาซารัสไปที่บ้าน
บิดาของข้าพเจ้า
28 เพราะว่าข้าพเจ้ามีน้องชายห้าคน ให้ลาซารัสไปเตือนพวกเขา เพื่อไม่ให้เขาต้องมาอยู่ในที่ทุกข์ทรมานแห่งนี้
29แต่อับราฮัมตอบว่า ‘เขามีโมเสสและพวกผู้เผยพระวจนะแล้ว ให้พวกเขาฟังคนเหล่านั้นเถิด
30 เศรษฐีคนนั้นจึงกล่าวว่า ‘ไม่ได้ อับราฮัมบิดาเจ้าข้า แต่ถ้ามีใครสักคนหนึ่งจากพวกคนตายไปหาพวกเขา เขาคงจะกลับใจใหม่’ 31อับราฮัมจึงตอบเขาว่า ‘ถ้าพวกเขาไม่ฟังโมเสสและพวกผู้เผยพระวจนะ แม้จะมีใครเป็นขึ้นมาจากตาย เขาก็ยังจะไม่เชื่อ
สิ่งที่สอดคล้องจากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดินก็คือทุกคนที่ตายจะต้องลงไปยังแดนคนตาย แต่ข้อมูลที่พระเยซูให้เพิ่มขึ้นมาก็คือ แดนคนตายประกอบไปด้วย 2 ฝั่ง คือฝั่งที่สุขสบายและฝั่งทุกข์ทรมาน นั่นก็คือเมื่อเราตายไป
คนที่ผ่านมาตรฐานที่พระเจ้าวางไว้ก็จะไปอยู่ฝั่งหนึ่งซึ่งมีแต่ความสุข ส่วนคนที่ไม่ผ่านกฎเกณฑ์ที่พระเจ้าตั้งไว้ก็ต้องไปอยู่อีกฝั่งที่มีแต่ความทรมาน ต้องทุกข์ระทมในเปลวไฟ
จุดที่น่าสังเกตุอย่างหนึ่งก๊คือต่างคนต่างเห็นซึ่งกันและกัน แต่ไม่สามารถข้ามไปหากันได้เพราะมีเหวลึกขวางอยู่
3. ตายแล้วไปไหน – หลังพระเยซูสิ้นพระชนม์และฟื้นขึ้นจากความตาย
ในกิจการ 2:27 บอกว่า “เพราะพระองค์จะไม่ทรงละข้าพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งจะไม่ทรงให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์เปื่อยเน่าไป” เปโตรได้อ้างถึงสิ่งที่กษัตริย์ดาวิดพูดใน สดุดี 16:10 ซึ่งเล็งถึงพระเยซูคริสต์ นั่นก็หมายความว่ามีคำพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าพระเยซูจะต้องฟื้นขึ้นจากตาย ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้น เพราะพระเยซูทรงคืนพระชนม์ในวันที่ 3 ต่อหน้าพยานหลายคน คำถามต่อมาก็คือระหว่าง 3 วัน
ที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์นั้น จิตวิญญาณของพระองค์ไปอยู่ที่ใด?
แม้ว่าพระคัมภีร์จะไม่ได้บอกเราอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น แต่เราก็พอที่จะคาดเดาจากข้อมูลอื่น ๆ ในพระคัมภีร์ได้ ใน 1 เปโตร 3:18 – 20 บอกว่าพระเยซูเสด็จไปหาพวกวิญญาณที่ติดคุกอยู่ นั่นก็คือพระองค์ทรงเสด็จไปยังแดนคนตาย แต่ใครคือพวกวิญญาณที่ติดคุกอยู่? บางคนเชื่อว่าเป็นคนที่ตายในสมัยโนอาห์ที่น้ำท่วมโลก เพราะมีแค่ 8 คน ที่รอดชีวิต แต่บางคนก็เชื่อว่าเป็นทุกคนที่ตายก่อนที่พระเยซูจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มใดก็ตาม ที่แน่ ๆ ก็คือ พระเยซูทรงไปยังแดนคนตายฝั่งที่ทุกข์ทรมาน ทรงบอกเรื่องราวของพระองค์ให้คนในฝั่งนั้นฟัง แต่เป็นการบอกเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเทศนาเพื่อให้คนที่อยู่ในฝั่งทุกข์ทรมานเชื่อและกลับใจ เพราะพระคัมภีร์ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าทุกคนมีโอกาสแค่ตอนยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น หลังจากตายไปก็จะมีการพิพากษาว่าจะได้รางวัล หรือตกนรก ดังที่บอกไว้ใน ฮิบรู 9:27
ที่มา : http://thecripplegate.com/did-christ-go-to-hell-after-he-died/
หลังจากนั้นพระเยซูได้เสด็จไปยังฝั่งสุขสบาย หรือฝั่งของอับราฮัมด้วย เพราะใน ลูกา 23:43 พระเยซูได้พูดกับโจรคนหนึ่งที่ถูกตรึงพร้อมกับพระองค์ว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” นั่นก็คืออยู่ในแดนคนตายฝั่งสุขสบายนั่งเอง นอกจากนี้ใน เอเฟซัส 4:8 – 10 ยังได้บอกว่าเมื่อพระเยซูเสด็จไปสวรรค์ พระองค์ทรงนำเชลยกลุ่มใหญ่ไปด้วย นั่นก็หมายความว่าแดนคนตายฝั่งสุขสบายตอนนี้ไม่ได้อยู่ข้างล่างอีกต่อไป แต่ได้ย้ายขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครสามารถเข้าสวรรค์ได้ เพราะมีพระคัมภีร์ได้บอกเราว่าในวันสุดท้ายเมื่อมีการพิพากษา คนไม่เชื่อก็ต้องถูกพิพากษาตามการกระทำของตน และถูกลงโทษในบึงไฟนรก วิวรณ์ 20:15 ส่วนผู้ที่เชื่อพระเยซูก็เข้าสู่พิพากษาเหมือนกัน แต่เป็นการพิจารณารางวัลหรือบำเหน็จที่แต่ละคนจะได้รับ และได้อยู่ในสวรรค์ร่วมกับพระเจ้าเป็นนิจนิรันดร์ เพราะใน 1เธสะโลนิกา 5:9-10 บอกว่าพระเจ้าไม่ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับเรา แต่ให้เรารอดและได้มีชีวิตอยู่กับพระเยซู
จากข้างต้นเราจึงรู้ว่าในปัจจุบันหลังจากที่เราตายไปแล้ว คนที่ไม่เชื่อพระเยซูนั้นจิตวิญญาณของเขาจะต้องไปยังแดนคนตายฝั่งทุกข์ทรมานซึ่งอยู่ด้านล่าง รอการพิพากษาลงโทษในบึงไฟนรกในวันสุดท้าย ส่วนคนที่เชื่อพระเจ้าจะไปอยู่เมืองบรมสุขเกษมที่อยู่ข้างบน รอคอยวันสุดท้ายที่พระเจ้าจะเสด็จมาเช่นกัน แต่ไม่ใช่เพื่อการพิพากษาลงโทษ แต่เป็นการประทานรางวัลให้ และจะได้อยู่ในสวรรค์ร่วมกับพระเจ้าเป็นนิจนิรันดร์
คำถามว่า “ตายแล้วไปไหน” จึงไม่น่ากลัวสำหรับคนที่เชื่อในพระเจ้า แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักพระองค์ วันนี้ท่านยังมีโอกาส ท่านจะตัดสินใจอย่างไร เพราะสิ่งที่แน่นอนก็คือเราทุกคนต้องตาย แต่เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะไปที่ไหนต่อหลังจากที่จากโลกนี้ไปแล้ว ไม่มีใครตัดสินใจแทนท่านได้ จงรีบตัดสินใจก่อนที่มันจะสายเกินไป
ที่มา:
https://www.siamchristian.com/truth/where-do-we-go-when-we-die.html
บันทึก
4
2
4
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย