“สังขละบุรี-อีต่องปิลอค ...กาญจนบุรีครั้งนี้ไม่คนรู้จัก”
สวัสดีค่าาทุกคน จ๋ากลับมาแล้ว
ห่างหายไปนาน เพราะเที่ยวหนักมากจนลงไม่ทัน5555
เรียกว่าออกทุกสัปดาห์ไม่มีเว้น
กลับมาครั้งนี้พร้อมกับทริปที่เพิ่งไปมาเมื่อปลายเดือนสิงหา
ไม่ใกล้ไม่ไกล กาญจนบุรีนี่เอง แต่กาญจนบุรีครั้งนี้มันพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เพราะกาญจนบุรีครั้งนี้ ไม่มีคนรู้จักเลย ...
...ก่อนหน้านี้เวลาจะไปเที่ยว ถ้าไม่มีใครไปด้วยก็ไปคนเดียวซะเลย
แต่ครั้งนี้คิดว่าจะถ้าจะนั่งรถจากกทมไปลงทองผาภูมิ กระโดดขึ้นสองแถว ฝ่า399โค้งคนเดียว เราทำได้แหละแต่ที่บ้านคงหัวใจวายก่อน 55555
เลยตัดสินใจลองไปเที่ยวกับคนแปลกหน้า จากเพจ เพจนึงในเฟสบุ้ค
ไม่ได้คิดไว้ก่อนเลยว่าจะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าจะมีใครคุยกะชั้นมั้ย 5555
รู้แต่ว่าอยากไปมานานแล้ว สังขละ-อีต่อง เป็นกาญจนบุรีโซนที่ไม่เคยขึ้นไปถึงซะที
ฉันต้องไปให้ได้อีต่องหน้าฝนเนี่ย
แล้วก็แบบฝนนน ฝนจริงๆ ฝนสมใจอยาก ตลอด2วันไม่มีเวลาในที่ตัวแห้งเลยจ้ะแม่
ฟ้าปิด พระอาทิตย์ไม่โผล่มาสักแอะ
เวลาถ่ายรูปก็ได้แต่คิดว่าจะทำยังไงให้ทุกคนรู้ว่าที่นี่คือที่ไหนคะ มันมัวไปหม้ดดด
แต่ถึงสภาพอากาศมันจะมัวซัว แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือความประทับใจและมิตรภาพดีๆที่ได้กลับมา กาญจนบุรีครั้งนี้จะเป็นกาญจนบุรีที่จ๋าไม่มีวันลืมได้เลย
เพื่อนร่วมทริปของเรา เป็นผู้หญิงหมดเลย รวมจ๋าเป็น 6 คน
ทุกคนมาคนเดียวและไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน
แต่กลายเป็นว่าคุยกันถูกคออย่างไม่น่าเชื่อ
อาจจะเพราะมีอุดมการณ์เป็นผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้เหมือนกัน
พวกเราออกเดินทางกันวันศุกร์กลางคืน
ไปถึงสังขละบุรีประมาณตี 5
ซึ่งแน่นอนว่า เราเป็นกลุ่มแรกที่ไปถึง
สะพานมอญทั้งสะพานเป็นของเรา ฝนตกตลอดเวลา ชุ่มฉ่ำตั้งแต่ก้าวแรก
สะพานมอญ ตี5
กิจกรรมที่ไม่ทำแล้วเหมือนจะมาไม่ถึงสังขละ ก็คือการเปลี่ยนชุดเป็นสาวมอญ รอใส่บาตรยามเช้า
จะมีเด็กน้อยชาวมอญมาขายดอกไม้ พร้อมบริการแปะแป้ง
ใส่บาตรเสร็จ ก็ต่อด้วยนั่งเรือชมวัดรอบๆสังขละ ทั้งหมด3วัด
วัดแรก วัดศรีสุวรรณ หรือโบสถ์จมน้ำ
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ
วัดสมเด็จ เก่า (วัดชาวไทย)
จ๋าชอบความรู้สึกตอนนั่งเรือรอบสังขละมาก อากาศมันดี มีหมอกลอยเหนือน้ำ เหมือนหลุดไปอีกโลกนึง รู้สึกจิตใจได้รับการฟื้นฟูจากการทำงานหนัก
เราอยู่สังขละบุรีกันประมาณครึ่งวัน จริงๆก็เที่ยวครบเลย
แต่ถ้าใครอยากมาชิวๆ มีเวลานั่งดูวิถีชีวิต ถ่ายรูปเก็บมุมstreetสวยๆ ก็อาจจะค้างสักคืน
ออกจากสังขละ เรามุ่งหน้าไปยังไฮไลท์ของเราในทริปนี้ ก็คืออีต่องปิล็อค หมู่บ้านกลางสายหมอก
การเดินทาง เอาจริงๆก็ไม่ได้ถือว่าลำบาก เพราะรถไปถึง
แต่เหมือนเป็นการทดสอบว่าคุณทนความเมารถได้แค่ไหน
โดยเฉพาะช่วง 30 km สุดท้ายก่อนถึงหมู่บ้าน
ไม่ใช่แค่ฝ่า 399 โค้ง แต่ยังต้องฝ่าหลุมบ่ออีกประมาณ 10,000หลุม
ใครปวดฉี่ง่ายแนะนำว่าอย่ากินน้ำ ใครเมารถก็แนะนำให้กินยาแล้วหลับไปเลย เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะต้องกลั้นทั้งอ้วกทั้งฉี่ ไม่ดีแน่ๆค่ะ 55555
จุดชมวิวระหว่างทาง
โชคดีที่ยังมีจุดชมวิว ให้แวะพักระหว่างทาง
กว่าจะถึงหมู่บ้านอีต่อง ก็เป็นเวลาเกือบๆห้าโมงเย็น พร้อมกับฝนระดับพายุที่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุด 5555
แต่ด้วยความสู้ ถ้าไม่สู้ก็ไม่ได้ภาพค่ะ
หยิบเสื้อกันฝนคนละตัว ร่มคนละคัน แล้วก็ออกไปลุยกัน 555
ญี่ปุ่นหรือเปล่า😂
เช้าวันรุ่งขึ้น
ตามแผนของเราคือไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่เนินช้างศึก
เราตื่นนอนตามแผน ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
สิ่งเดียวที่ไม่ตามแผน คือฝนจ้าา ฝนไม่หยุด หมอกแน่นๆ ฟ้าปิด พระอาทิตย์ไม่โผล่ 5555
รูปที่ได้เลยเป็นประมาณนี้
ไม่เห็นอะไรเลยค่า เหมือนถ่ายกับกำแพงบ้าน5555
แต่ถึงจะไม่เห็นอะไรเลย แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความประทับใจ
ทุกคนพร้อมลุยไปด้วยกันมากๆ เปียกไม่กลัว กลัวไม่ได้รูป 555
ลมจะพัด ร่มจะหัก โทรศัพท์จะพัง ก็ยังไปต่อ 😂
มาถึงที่เที่ยวสุดท้ายก่อนเราจะยิงยาวเข้าตัวเมือง
คือ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำตกนี้มีเพียงชั้นเดียวความสูงประมาณ 34 เมตร
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่า เป็นชื่อเพี้ยนมาจากคำเดิมว่า “ก๊อกกระด่าน” จ๊อก หรือ ก๊อก หมายถึง หิน และ กระดิ่น หรือกระด่าน หมายถึง น้ำตก
มีความหมายรวมกันว่า เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินผา
ส่วนตัว จ๋ามาทริปนี้ เพราะน้ำตกนี้แหละ 555
เคยเห็นในรูปแล้วรู้สึกว่ามันอลังการ มันสวยมาก เราต้องไปให้ได้
การเดินทางก็มาไม่ยาก ขับรถเข้ามาได้เลย เดินต่ออีกประมาณ300เมตร มีทางเดินเข้าไปถึงตัวน้ำตก
แต่วันที่ไป ฝนตัวร้ายก็ยังไม่หยุดตก เราต้องเดินฝ่าฝนกันเข้าไป ส่วนน้ำตกนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงๆ เพราะเหมือนจะเป็นน้ำป่า
พี่เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาเตือน ว่าอย่าลงเล่นน้ำ
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
ขอปิดท้ายกันไปด้วยภาพที่ลงทุนลงแรงทั้งคนถ่ายคนถูกถ่าย เปียกกันไปทั้งตัว 😂
การเดินทางครั้งนี้มันทำให้จ๋าได้เห็นมุมใหม่ๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้รู้จักคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน
จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อกัน มีแพลนไปออกทริปด้วยกัน
มานั่งนึกตอนนี้ก็รู้สึกขอบคุณตัวเองที่กล้าพาตัวเองออกไปทำอะไรใหม่ๆ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคนที่เข้ามาเป็นความทรงจำดีๆของกันและกัน
ใครที่ยังลังเล หรือกลัวการออกไปเที่ยวคนเดียว หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ได้ไม่มากก้น้อยนะคะ 😊
ขอบคุณภาพสวยๆจากเจ้าของเพจ
ไปกดlikeกดติดตามกันได้ค่า
เข้ามาพูดคุยเรื่องเที่ยวเรื่องทริปกันได้ที่
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
