1 ก.ย. 2020 เวลา 12:23 • ธุรกิจ
มีแฟนเป็นลูกน้อง
เพื่อนๆคนไหนเคยทำงานร่วมกันกับแฟนบ้างมั้ยครับ?
การมีแฟนเป็นลูกน้องหรือเป็นหัวหน้า ดีหรือไม่ดี ?
ออฟฟิศโลกแตก
บทความนี้ยังคงอยู่กับเรื่องของ หัวหน้ากับพนักงานเช่นเคยนะครับ
แต่จะต่างจากเดิมคือ การที่ต้องทำงานร่วมกันกับแฟน
เรื่องราวนี้ผมจำได้ว่า เพื่อนผมเคยมาปรึกษากับผมตอนช่วงปลายปีที่แล้ว และวันนี้อยู่ดีดี เรื่องนี้ก็นึกมาในหัวเลยอยากเอาแชร์
เพื่อนผมคนนี้ชื่อ โฟค ครับเป็นคนตลก อารมณ์ดี แต่บทจะจริงจังก็น่ากลัวเลย ปัจจุบันโฟคมาทำบาร์เป็นของตัวเอง แต่เรื่องราวที่ผมจะนำมาเล่าคือก่อนที่เพื่อนผมจะมาทำบาร์เป็นของตัวเอง เค้าเคยเป็นพนักงานร้านคาเฟ่มาก่อน
ปีที่แล้วครับ โฟคเป็นผู้ช่วยเจ้าของร้านคาเฟ่ร้านหนึ่ง หน้าที่ของคุณโฟคคล้ายๆกับผู้จัดการร้าน แต่คุณโฟคไม่ได้ต้องมาทำเรื่อง บัญชีหลังร้านอะไร หน้าที่หลักคือดูแลพนักงาน ในร้าน ดูแลความเรียบร้อยหน้าร้าน ทุกๆอย่าง
ในร้านคาเฟ่นี้ พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แถมน่ารักด้วย
บุคลิกการทำงานของคุณโฟคคือ คนที่จริงจังและค่อนข้างดุ แต่นอกเวลางาน คือเป็นคนที่ตลกมากๆ ยิงมุขไม่หยุดจริงๆ และคนรอบข้างก็จะชอบเค้าเพราะเค้าตลกและอารมณ์ดี
คุณโฟคทำงานได้เกือบปีที่คาเฟ่ก็ตกหลุมรัก บาริสต้า ที่คาเฟ่นี้ เค้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ทั้งมีความสามรถ น่าตาดี และ ขี้เล่นด้วย
1
ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่คิดครับ หยอกกัน เล่นกัน แซวกันทุกวัน สุดท้ายก็กลายเป็นแฟนกัน
และเรื่องราววุ่นๆ ปัญหาต่างๆก็เริ่มขึ้น
คุณโฟคมาบ่นกับผมว่า “ เราก็ทำงานปกติของเรานะ แต่ทำไมหลังๆ แฟนเราชอบงอลเราตอนกลับบ้าน”
คุณโฟคบอกว่า เรื่องราวเกิดขึ้นจาก คุณโฟคชอบดุแฟน ในที่ทำงาน ทั้งที่บางครั้งแฟนคุณโฟคก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากขนาดนั้น
อ้าว! ก็รู้นิ แล้วทำไป ทำไม?
คุณโฟคมาปรึกษาว่า ตอนเวลาทำงานด้วยกัน ทำตัวไม่ถูกว่าจะวางตัวยังไง ปกติก็แบบชอบหยอกน้อง
หรือแซวน้องเล่นๆ แต่พอมาเป็นแฟนกันแล้ว ก็ทำตัวไม่ถูก
1
แต่ทุกคนในร้านก็รู้นะว่าเป็นแฟนกัน แต่สิ่งที่คุณโฟคกังวลก็คือ กลัวว่าตัวเองจะลำเอียง เอาแต่แฟนตัวเอง ให้อภิสิทธิ์แฟนตัวเองมากเกินไป โดยไม่รู้ตัว แล้วคนอื่นจะไม่พอใจ หรือหมั่นไส้เอา
1
มันเลยกลายเป็นการป้องกันสิ่งนั้นออกมาโดยการแสดงออกไปแบบนั้น แต่แฟนไม่เข้าใจ
ถามว่า เราคุยกันมั้ยเราก็คุยนะ เค้าก็เข้าใจ แต่บางทีเค้าก็แทบไม่ได้ทำไรผิดจริงๆแระ แต่เราก็ดุเค้าไปจริงๆแบบไม่รู้ตัว
บางทีก็แอบเห็นใจเค้านะ อยากบอกว่าเราไม่ตั้งใจจริงๆ แต่ปากดุออกไปแล้ว จะเข้าไปโอ๋ตอนนั้นเลยก็เกรงใจ เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ กะว่าจะรอกลับมาโอ๋ที่บ้านเค้าก็งอลไปแล้ว
แต่สิ่งที่ทำไปทั้งหมด คืออยากรักษาน้ำใจเพื่อนร่วมงานคนอื่นว่าเราไม่ได้เป็นคนที่ลำเอียง จะเอาใจแฟนหรือเข้าข้างแฟนตัวเองอย่างเดียว แต่มันอาจจะแสดงออกมากเกินไปหน่อย
จนกลายเป็นเราไม่รักษาน้ำใจแฟนของเราเอง
และนี่แระก็เลยเป็นปัญหากับแฟน เพราะบางทีเราไม่ได้ตั้งใจจะว่าแฟนนะ มันออกไปเอง เหมือนเรามีกำแพงไปแล้วว่าอย่าเข้าข้างแฟนตัวเองเกินไปนะ อะไรประมาณนี้
และนี่ก็เลยเป็นสิ่งที่เรากับแฟนงอลกันมาตลอดหลังเลิกงาน
ผมก็เลยให้คำปรึกษาไปว่า เรื่องนี้มันคือการไม่เข้าใจกัน ต้องคุยกันกับเเฟนแล้วปรับความเข้าใจก่อน
ส่วนตัวคุณโฟคเองก็อาจจะต้องใช้เหตุให้เยอะๆขึ้น ถึงจะไม่ได้ตั้งใจในสิ่งที่ทำก็ตาม
สรุปคือหลักจากนั้นไม่นาน คุณโฟคก็ลาออกจากงาน
แล้วมาเปิดบาร์ของตัวเอง และ แฟนคุณโฟคก็ยังคงทำงานอยู่ที่เดิม แต่ไม่ได้เลิกกันนะครับ
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไร อาจจะเพราะคุณโฟคอยากออกมาทำอะไรที่เป็นของตัวเองเพื่อช่วยกันหาเงิน
หรือออกมาเพราะความสบายใจของเค้าทั้งคู่ในการทำงาน
เพราะผมทักไปถามว่า ออกจากคาเฟ่แล้วหรอ คุณโฟคก็ตอบมาแค่ “ ใช่ๆ “ ฮ่าๆๆ
สรุปไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมให้คำปรึกษาที่ผิดๆรึป่าว ก็ยังคงค้างคาใจอยู่ 55555555555
แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งคือ ดูจากในไอจีเค้าสองคนดูมีความสุขกันขึ้นมาก ดูสวีทกัน มากกว่าตอนที่ทำงานด้วยกัน
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่คุณโฟคย้ายออกมาก็ได้ เพื่อที่จะมีพื้นให้กันอย่างสบายใจทั้งคู่
.....หรือป่าว ? เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับ เป็นเพราะเค้าปรับความเข้าใจกันแล้ว หรือ เพราะผมแนะนำผิดวิธีกันแน่ 5555 ฮ่าๆ
เพราะตัวผมเองก็ยังไม่เคยได้ทำงานร่วมกันกับแฟนในองค์กรเดียวกัน
ถ้าเพื่อนๆมีความคิดเห็นยังไงบ้าง คอมเม้นมาแชร์กันได้เลยนะครับ
ออฟฟิศโลกแตกขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
โฆษณา