3 ก.ย. 2020 เวลา 01:03 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Laika สิ่งมีชีวิตแรกที่ได้โคจรรอบโลก
ภาพถ่าย Laika
เช้าวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ.1957
ตามเวลาท้องถิ่น จรวด Sputnik 8K71PS
ก็ส่งเสียงคำรามสนั่น หลังจากถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวดไบโคนูร์คอสโมโดรม ณ ประเทศคาซัคสถาน (อดีตเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต)
การปล่อยดาวเทียม Sputnik-2
เป็นเวลาเพียงแค่ 30 วัน หลังจาก Sputnik-1
สร้างความฮือฮาให้กับคนทั้งโลก
สหภาพโซเวียตก็ทำการปล่อยดาวเทียม
ขึ้นสู่วงโครจรโลกเป็นดวงที่ 2
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในวาระฉลองครบรอบ 40 ปี
การก่อตั้งสหภาพโซเวียต
พร้อมกับเสียงจากฝั่งอเมริกา อีหยังวะ!
(อันนี้เติมเองครับ)
ชื่อของมันคือ "Sputnik-2"
ดาวเทียม Sputnik-2 credit: http://mentallandscape.com
ภารกิจ Sputnik-2 ฟังดูน่าจะคล้ายๆ กับ Sputnik-1
แต่สิ่งที่ต่างไปคือ รอบนี้มีการส่งสิ่งมีชีวิต
ขึ้นไปโคจรรอบโลกเป็นครั้งแรกของโลกด้วย !!!
สร้างความตื่นเต้นให้กับโลกอีกครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน
ชื่อของสิ่งมีชีวิตนี้คือ "ไลก้า (Laika)"
สุนัขฮัสกี้เพศเมีย วัย 3 ขวบ
ภาพถ่ายเจ้า Laika credit : https://en.wikipedia.org
ตามประวัติ Laika เป็นสุนัขจรจัด
ข้างถนนในกรุงมอสโก
มันถูกจับมาก่อนวันปล่อยดาวเทียม Sputnik-2
ประมาณ 1 สัปดาห์ พร้อมกับสุนัขจรจัดอีก 5 ตัว
สาเหตุที่นักวิทยาศาสตร์เลือกสุนัขจรจัด
คงเพราะคุณสมบัติความเป็นนักสู้ของพวกมัน
ที่มากพอกับการเอาชีวิตรอดจากความอดยาก
และความหนาวเย็นในท้องถนนของกรุงมอสโก
เป้าหมายของการส่งเจ้า Laika
ขึ้นไปสู่วงโคจรโลกครั้งนี้
เพื่อทำการทดสอบความปลอดภัย
และทดสอบผลกระทบรุนแรง
ที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตในขณะที่ขึ้นสู่อวกาศ
ก่อนที่จะส่งนักบินอวกาศคนแรกขึ้นไป
แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
และความเร่งรีบ ณ ตอนนั้น
จรวดจึงยังไม่สามารถออกแบบให้กลับมายังโลกได้
นั่นทำให้ Laika จะไม่มีโอกาส
ได้กลับมายังโลกตลอดกาล !!
นักวิทยาสาสตร์กำลังสวมชุดให้ Laika credit : https://fluentwoof.com
เนื่องจากภารกิจนี้เป็นภารกิจพลีชีพของ Laika
นักวิทยาศาสตร์จึงออกแบบระบบภายในห้องนักบิน
ที่มีความสูง 80 ซม. ให้มีอาหาร น้ำและ Oxygen
เพื่อมีชีวิตได้ 10 วัน ขณะโคจรรอบโลก
เมื่อครบกำหนด ยานจะให้ยาพิษแก่ Laika ผ่านอาหาร
เพื่อทำให้เจ้า Laika เสียชีวิตแบบสงบ
ภายในเวลาไม่กี่วินาที
นักวิทยาศาสตร์โซเวียตที่เลือก Laika ให้พลีชีพ
บางทีพวกเขาอาจไม่ใช่คนใจร้าย
แต่เป็นหน้าที่ภาระงาน
1 ในกลุ่มนักวิทยาศาตร์ผู้ดูแล Likra
ชื่อ Vladimir Yazdovsky ได้นำ Laika กลับบ้าน
เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนปล่อยยาน
เค้าบอกว่าอยากจะขอทำสิ่งดีๆ เล็กๆ น้อยๆ
ให้กับ Laika บ้าง
ภายในห้องนักบินสูง 80 ซม. ของ Laika credit : https://sputniknews.com/
เมื่อถึงวันปล่อยดาวเทียม Sputnik-2
Laika ต้องเจอกับแรง G(แรงโน้มถ่วงโลก)
เป็นขนาดถึง 5 เท่า จากสภาวะปกติ
เสียงที่ดัง แรงสั่นสะเทือนและความกดดันต่างๆ
ขณะปล่อยยานนั้น สร้างความหวาดกลัว
ให้กับ Laika เป็นอย่างยิ่ง
อุปกรณ์ Biometric Sensors ที่ติดให้กับ Laika credit : http://mentallandscape.com
อัตราการเต้นของหัวใจของ Laika
ขณะนั้นพุ่งไป 3 เท่าจากสภาวะปกติ
และสภาวะต่างๆ เริ่มดีขึ้น
เมื่อ Laika เข้าสู่สภาวะไร้น้ำหนัก
แต่โชคร้าย อุปกรณ์เซนเซอร์ได้หยุดส่งข้อมูล
ของ Laika หลังเริ่มภารกิจไป 5-7 ชม.
อัตราการเต้นหัวใจของ Laika credit : http://mentallandscape.com
ในขณะนั้นสหภาพโซเวียต
แจ้งว่าภาระกิจเป็นไปได้ด้วยดี
Laika มีชีวิตไปอีก10 วัน และเสียชีวิต
ในวันที่ 10 พ.ย. 1957 ตามแผนที่ได้วางไว้
แต่ในภายหลัง Oleg Gazenko
นักวิทยาศาตร์ชาวโซเวียต
ที่มีส่วนดูแล laika ในขณะนั้น ได้ให้ข้อมูลว่า
Laika เสียชีวิตเร็วกว่าที่วางแผนไว้
เนื่องจากเกิดอุบัติเหตแผ่นอุปกรณ์กันความร้อน
แตกหัก ขณะยานกำลังขึ้นสู่วงโครจรโลก
อุณหภูมิภายในห้องนักบินสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
ทำให้ Laika เสียชีวิตจากความร้อน
และสภาวะสูญเสียน้ำ ในขณะที่กำลังโคจรรอบโลก
ได้ไม่กี่ชั่วโมง
6 วันหลังจากการปล่อยจากฐาน
ดาวเทียม Sputnik-2 ได้หยุดการส่งข้อมูลต่างๆ เนื่องจากแบตเตอรี่หมด(ออกแบบไว้แค่นี้)
แต่ตัวดาวเทียมยังคงโคจรรอบโลก
ไปอีกเป็นระยะเวลา 5 เดือน
และสิ้นสุดภารกิจในวันที่ 14 เม.ย. 1958
อนุสาวรีย์แห่งความทรงจำของ Laika credit : https://englishrussia.com/
ปี 2008 รัสเซียได้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความทรงจำ
ของ Laika ขึ้นในกรุงมอสโก
เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าสุนัขน้อย Laika
ความกล้าหาญของ Laika นี่เอง
เป็นส่วนหนึ่งที่ปูทางให้มนุษยชาติ
สามารถทะลายกำแพงการเดินทางด้านอวกาศได้
Laika
โฆษณา