สถานการณ์การแพร่ระบาทของโรค covid - 19 ทั่วโลกตอนนี้กำลังอยู่ในเกณฑ์ที่หนักหนาสาหัสอยู่เป็นอย่างมาก ปัจจุบันทั่วโลกมีคนติดเชื้อไปแล้วเกือบ 26 ล้านคน และเสียชีวิตไปกว่าแปดแสนหกหมื่นคน แต่การระบาดก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่มีท่าทีจะลดลง โดยเฉพาะประเทศใหญ่อย่างอเมริกา บลาซิล อินเดีย รัสเซีย แต่ละประเทศยังมียอดผู้ติดเชื่อรายใหม่ในแต่ละวันหลักพันราย
ปัจจุบันในประเทศไทยเองถือได้ว่าควบคุมการระบาดไว้ได้แล้วในระดับหนึ่ง ไม่พบการติดเชื้อจากคนในประเทศ จะมีก็แต่เคสการติดเชื้อของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น แม้อย่างนั้นทางรัฐบาลเองก็ยังคงมาตรการต่างๆ ไว้รับมือการแพร่ระบาดอยู่ รวมทั้งมีความเข้มงวดในการคัดกรองคนที่เข้าออกภายในประเทศ ทั้งทางน้ำและทางอากาศอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดกลับมาในระลอกที่ 2
แต่ตอนนี้ เรากำลังจะต้องเจอกับความท้าทายของการระบาดในรอบใหม่ จากประเทศเพื่อนบ้านของเราทางฝั่งตะวันตก ซึ่งกำลังมีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
ประเทศพม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนทางบกติดต่อกับประเทศไทยกว่า 2 พันกิโลเมตร ตอนนี้ในประเทศพม่ามีผู้ติดเชื้อที่ 938 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย (2ก.ย.) โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 13-31สิงหาคมมียอดผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้น 400 กว่าราย มากขึ้นเป็นเท่าตัวจากช่วงแรก และใช้เวลาในการเพิ่มจำนวนสั้นกว่ามาก สิ่งที่น่าวิตกคือ ทางการพม่าเองมีการตรวจคัดกรองเคสผู้ต้องสงสัยไปได้เพียง หนึ่งแสนห้าหมื่นรายเท่านั้น ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะยังมีผู้ติดเชื้ออีกจำนวนมากที่ยังตรวจไม่พบ
หากรัฐบาลของประเทศพม่าไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดลงได้ ประเทศไทยก็จะมีส่วนได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน ซึ่งผลกระทบดังกล่าวอาจมากกว่าที่เราจะคาดคิดถึงก็เป็นได้
ผลกระทบทางด้านสาธารณสุข
มีความเป็นไปได้สูง ที่อาจมีการแพร่ระบาดของโรค covid - 19 ผ่านทางพรมแดน ด้วยไทยกับพม่ามีพรมแดนติดกันยาวเป็นพันกิโลเมตร มีช่องทางธรรมชาติให้เล็ดลอดเข้ามาได้มากมาย บางจุดแค่เดินข้ามลำธารเล็กๆ ก็สามารถข้ามมาฝั่งไทยได้แล้ว การป้องกันทางพื้นดินจะต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรในการเฝ้าระวังจำนวนมาก จึงยากกว่าการป้องกันทางอากาศและทางน้ำหลายเท่า บวกกับมีคนที่เห็นแก่ตัว ใช้โอกาสนี้แสวงหาผลประโยชน์ จากการลักพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศ จะยิ่งทำให้การป้องกันยากขึ้นไปอีก
โรงพยาบาลในจังหวัดชายแดนต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรับมือกับการระบาดของโรค จากเดิมก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว รัฐบาลอาจต้องดึงทรัพยากรด้านสาธารณสุขจากจุดอื่นมาเพิ่มเติม ทำให้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในประเทศ ต้องนำมาใช้เพื่อการป้อง กันการระบาดในจุดนี้
ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ
การปิดด่านชายแดนเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำหากมีการแพร่ระบาดของ covid-19 แบบควบคุมไม่ได้ แต่ก็จะส่งผลกระทบกับธุรกิจตามแนวชายแดนเป็นอย่างมาก ยิ่งปิดนานความเสียหายยิ่งมากตาม เนื่องจากไม่สามารถทำการค้าขายกันได้ตามปกติ
และการปิดด่านทำให้การเคลื่อนย้านแรงงานเป็นไปได้ยากขึ้น ในอนาคตเราอาจเจอปัญหาขาดแคลนแรงงานเพิ่มขึ้นไปอีก โดยก่อนหน้านี้ได้มีแรงงานชาวพม่ากลับประเทศไปจำนวนมากแล้วครั้งหนึ่ง และปัจจุบันก็ยังไม่สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ ซึ่งงานส่วนใหญ่ที่แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ทำ เป็นงานที่แรงงานไทยปฏิเสธที่จะทำ เช่นงานประมง งานกรรมกรก่อสร้าง งานแบกหามต่างๆ หากการระบาดควบคุมไม่ได้และต้องปิดด่านชายแดนนานๆ อุตสาหกรรมประมง อุตสาหกรรมก่อสร้าง และ บริษัท SME ขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบโดยตรง จากการขาดแคลนแรงงานมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศชะลอตัวตามไปด้วย
จะเห็นได้ว่าหากมีการระบาดหนักในพม่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะโลกทุกวันนี้ ทุกประเทศต่างมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันไปทั้งหมด ผลกระทบที่เกิดในประเทศหนึ่ง ย่อมส่งผลไปสู่ประเทศใกล้เคียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยอาจต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ไม่ใช่แค่เป็นการช่วยเขาตามหลักมนุษยธรรม แต่ช่วยเพื่อให้ตัวเราเองอยู่รอดปลอดภัยด้วยเหมือนกัน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
