2 ก.ย. 2020 เวลา 10:13 • ไลฟ์สไตล์
#ขี่ควายไปตกปลา
ในวัยเด็กช่วงปิดเทอม แม่จะส่งฉันมาอยู่กับก๋งและย่า ที่ พนัสนิคม ทุกครั้งที่มาอยู่ฉันชอบมาก เพราะมีเพื่อนเล่นวัยเดียวกัน เป็นลูกชายของอา ฉันจึงเล่นทะโมนปีนป่ายตามกับพี่น้องผู้ชาย
บ้านก๋ง เป็นบ้านทรงไทย มีเรือนชานกว้างขวางมาก ฝั่งของก๋ง ย่า เป็นเรือนหลังใหญ่ โล่ง มีห้องไว้เก็บของ ส่วนใหญ่ เป็นและโตกทองเหลือง ซ้อนเรียงกันสูงมาก หลายสิบอัน เพราะย่าทำบุญเลี้ยงพระบ่อย บางครั้งก็จัดใส่โตกมีสำรับคาวหวานหาบไปทำบุญที่วัดนามะตูม ครอบครัวจะทำบุญประจำที่วัดนี้เพราะหลวงปู่ดู่ มีศักดิ์เป็นลูกผู้พี่ของก๋ง
เรือนไทยหลังเล็กอีกฝั่งจะเป็นที่อยู่ของอา สองคน มีลูกหลานอยู่ฝั่งนี้ หลายคน โตไล่เรี่ยกัน พวกเรา 5-6 ก็เล่นตามประสา ปีนต้นไม้ เก็บผลไม้มากิน เก็บทางมะพร้าวมาสานเป็นรูปร่างต่างๆ โดยก๋งจะเป็นคนสอนให้ทำ
บางครั้งย่าใช้ให้ไปเก็บไข่ไก่มาทำกับข้าว ฉันก็ไถลลื่นตัวเองลงทางล่องชั้นพื้นต่างระดับลงไปใต้ถุน เก็บไข่ไปตะโกนถามย่าไปว่ากี่ฟองถึงจะพอ จนย่ารำคาญ บอกเก็บ ไข่ตามใจเอาเอง ฉันก็จะเลิกเก็บ เดินเองไข่มาให้อาผู้หญิงทำกับข้าว
ถัดจากบ้านจะมีคอกควายร่วมสิบตัว อาสะใภ้จะมีหน้าที่คอยสุมไฟไล่ยุงตอนกลางคืนให้ควาย เคยถามก๋งว่าทำไมมีควายแยะจัง ก๋งบอกว่าบ้านเรามีนาแยะ ควายที่มีเวลาออกไปไถนาก็ไม่เพียงพอ เพราะนาบางแปลงอยู่ไกล ต้องให้พี่เบิ้มลูกชายของป้าไสว เป็นคนไปไถนาแปลงที่อยู่ไกล ๆ ส่วนแปลงใกล้ ก๋ง ย่าและพวกผู้หญิงเป็นคนทำนา
ฉันเกิดอยากขี่ควายเล่น ไปขอย่า ก๋งเลยให้พี่เบิ้มเป็นคนพาฉันขี่ควายไปแปลงนาที่ไกลบ้าน มีพี่น้องเฮตามไปกับพี่เบิ้มอีกหลายคน อาผู้หญิง จัดการห่อข้าวเหนียวกับเนื้อเค็มทอดให้ไปคนละห่อ ส่วนใหญ่ทุกคนขี่ควายกันเป็น มีแต่ฉันคนเดียวที่ไม่เคยขี่ควาย พี่เบิ้มอุ้มฉันนั่งบนหลังควายแล้วจูงควายเดินไปแปลงนา
ฉันแอบบอกพี่เบิ้มว่าอยากตกปลาดูบ้าง จะได้เอาปลามาให้อาทำกับข้าวกินตอนเย็น คณะเด็ก รวม 6 คน มีอุปกรณ์ตกปลาง่าย ๆ ที่พี่เขาทำให้จากวัสดุกิ่งไม้ที่หาได้ข้างทาง ส่วนใส้เดือนพี่เบิ้มบอกไปหาตามทางมีมากมาย
ฉันนั่งบนหลังควายมาได้ไม่นานก็เจอแหล่งน้ำใกล้ กับแปลงนา พี่น้องเขาจัดเตรียมคันเบ็ด หาใส้เดือนกันด้วยความชำนาญ มีฉันคนเดียวที่ทำอะไรไม่เป็น พี่เบิ้มเป็นคนเตรียมให้ จับใส้เดือนมาเกี่ยวที่ขอเบ็ด ส่งให้ฉันถือไปนั่งใกล้ ริมหนองน้ำ เด็กส่งเสียงเฮเมื่อตกปลาได้ ฉันนั่งรออยู่นานมากไม่มีปลาติดเบ็ดเหมือนของคนอื่น ยกคันเบ็ด ขึ้น-ลง หลายรอบ จนพี่เบิ้มมาห้ามไม่ให้ยกเบ็ดบ่อย ต้องรอให้ปลาติดเบ็ดก่อนค่อยยกขึ้นมา
คณะที่มาด้วยกันตกปลาได้มาหลายตัว ฉันไม่ได้ปลากับเขาเลย จนพี่เขาร้องบอกว่าปลาติดเบ็ดแล้ว ฉันร้องเฮ ฮา ดีใจ ยกเบ็ดขึ้นมา ปรากฎว่าได้ลูกปลาหมอตัวเล็ก พรรคพวกพากันหัวเราขำขัน
ฉันเห็นปลาดิ้นอยู่ที่เบ็ด ร้องตกใจเพราะไม่เคยตกปลา พี่เขาเข้ามาปลดปลาอกจากเบ็ดโยนปลาลงไปในกระแป๋ง(แถวบ้านย่าเรียกว่ากระแป๋ง) ฉันมองตามปลาที่หล่นไปในกระแป๋งเห็นปลาดิ้นไปมา แล้วปลาก็หยุดดิ้น
ฉันตกใจร้องไห้โฮ บอกว่าปลาตายแล้ว ร้องไห้จะกลับบ้าน คณะไม่ยอมกลับ พี่เบิ้มต้องจับฉันนั่งหลังควาย แล้วจูงควายพาฉันมาส่งบ้าน จำได้ว่าฉันร้องไห้มาตลอดทาง
เมื่อถึงบ้าน ก๋ง ตกใจที่เห็นฉันร้องไห้ หันไปดุพี่เบิ้มว่าทำอะไรน้อง พอก๋งรู้เรื่องก็นั่งหัวเราะ บอกให้ฉันหยุดร้องไห้อธิบายว่าปลาคืออาหารของเรา ถึงเราไม่ไปตกปลามา ก็จะมีคนอื่นไปจับมากิน ปลาที่เรากินทุกตัวก็ต้องจับมากินแบบนี้ ถ้าเราไม่ออกไปหา เราก็จะไม่ได้ปลามากิน
ฉันพยักหน้าเข้าใจที่ก๋งอธิบาย แต่ภาพที่ฉันตกปลามาได้แล้วเห็นปลาดิ้นกระแด๋วจนปลาหยุดดิ้น มันเป็นภาพฝังใจ และไม่เคยคิดไปตกปลาอีกเลย .
ธิดา อักขิโสภา
2 กันยายน 2563
โฆษณา