3 ก.ย. 2020 เวลา 01:00 • ปรัชญา
ครั้งนึงตอนที่กำลังพยายามฝึกทำข้อสอบอยู่
ตั้งเป้าไว้ที่ 95% พยายามวางแผน จัดเวลาอ่านไว่ว่าวันนั้นจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องได้วัดผลภาษาจากข้อสอบ แต่ผลที่ออกมาอยู่ราวๆ 85-90%
ไม่ว่าจะพยายามทำจนเข้าฉบับที่ 50
ทำซ้ำชุดเดิมหลายครั้ง ผลก็ไม่ต่างไปจากเดิม
ลองตั้งใจกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นใหม่ ผลก็ไม่ต่างจากเดิมอีก ขนาดที่ว่าใจที่ปลุกมาอย่างดียังท้อ
เลยมานั่งมองข้อสอบที่ทำไป แล้วลองวงข้อที่ผิด
พอเอามาเทียบกันก็พบว่าในบรรดาข้อที่ผิด มันผิดเรื่องเดียวกันหมด เลยกลับไปอ่านเฉพาะเรื่องที่มันผิด คะแนนออกมากระโดดเลย อารมณ์ตอนนั้นดีใจมากๆ ที่ข้ามกำแพงที่หวังมาได้แล้ว ที่ดีใจคือค้นพบแล้วว่าเราเรียนรู้ได้จากความผิดพลาด
ความผิดพลาดจะบอกเราเสมอว่าเราไม่รู้อะไร
วันนั้นถือเป็นอีกวันนึงที่สำคัญกับชีวิตมากๆ วันธรรมดาๆกลางทะเล แล้วก็ใช้แนวคิดนี้ในการก้าวผ่านปัญหามาจนถึงวันนี้แหละ
พอล้มเหลวเลยใช้เวลากับความเสียใจน้อยลง
แล้วก็ยิ้มบอกกับตัวเองว่า
อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าเราไม่รู้อะไร
เพราะมันคือสิ่งสำคัญมากสิ่งนึง
การที่เราไม่รู้ว่าโอ่งที่เรามีมันรั่วแล้วเราก็พยายามตักน้ำใส่ไปเรื่อยๆ จนสังเกตุกี่ทีน้ำก็ยังไม่เพิ่มจากเดิมตามที่คาดไว้ มันไม่ใช่เราพยายามไม่พอแต่เพราะโอ่งมันรั่วจะให้มันเก็บน้ำอยู่ได้ยังไง
ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แต่หากพยายามแบบหลับหูหลับตาไม่เคยสังเกตุจุดบอด เราก็จะต้องพยายามไปเรื่อยๆ โดยที่บางครั้งอาจจะพูดกับตัวเองว่ามันยังไม่ถึงเวลาของเรา จริงๆแล้วแค่ไปหาอะไรมาอุดโอ่งนั้นไว้แล้วตักน้ำใส่ใหม่ก็จบแล้ว
โฆษณา