4 ก.ย. 2020 เวลา 00:00 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าที่ 2
ในช่วงเช้าของวันนี้ ผมเริ่มด้วยการตื่นนอนตามเวลาปกติเพื่อที่ทำภารกิจช่วง เช่น การอาบน้ำ กินข้าว แต่งตัวเพื่อไปทำงานเหมือนปกติ
ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรอเวลาออกจากบ้าน ในหัวกลับฉุกคิดถึงช่วง Gap Year ตอนเรียนจบมหาลัยใหม่ๆ ได้ ตอนนั้นแพลนไว้ว่าอยากจะหยุดพักสมอง พักร่างกายจากการเรียน 4 ปี สัก 3 - 4 เดือน (ไม่ควรเรียกว่า Gap Year 555)
ความคิดที่ลอยขึ้นมาในช่วงเช้านั้น ทำให้นึกตัวเองช่วง 3 - 4 เดือนที่เราจะวางแพลนไว้ว่าจะพักผ่อน จะไปเที่ยวก่อน ค่อยหางานทำ หลายๆคนอาจจะมองว่าคงจะแฮปปี้น่าดู แต่สำหรีบตัวผมเองช่วงนั้น เป็นช่วงที่ความรู้สึกมันดิ่งสุดๆ จากที่เราเคยวางแผนไว้กับชีวิตว่า เรียนจบ พักผ่อน หางานทำ แบ่งเบาภาระครอบครัว กับกลายเป็นว่า ผมเหมือนเป็น Midlife-Crisis หรือไม่ก็กำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อย่างใดอย่างหนึ่งแหละ
ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ตัวเองไม่มีเป้าหมายที่จะไป ไม่มีแรงบันดาลใจ รู้สึกเบื่อกับกิจวัตรประจำวันต่างๆ รู้สึกเบื่อกับ Loop เดิมๆ ของชีวิตที่ตื่นมาทำงาน (พาร์ทไทม์แค่วันละ 2-3 ชั่วโมง) หลังจากนั้นก็หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ทั้งๆที่ จบมาตอนแรก ผมก็ไปเที่ยวแบบกระจุยกระจาย ทั้งกับเพื่อน คนเดียว ไปหมดแต่ทุกครั้งที่กลับมาหรือระหว่างที่กำลังเดินทางอยู่ก็กลับมารู้สึกแบบเดิม นั่งคิดไปถึงขั้นว่า ถ้างานประจำทำได้แล้ว ทำงาน เก็บเงิน แต่งงานมีครอบครัว แล้วจะมีอะไรอีก จนสุดท้ายก็ไปจบที่การตาย(แต่ไม่คิดจะฆ่าตัวตายนะครับ5555) ไม่ว่าจะไปคิดแบบไหน จะหลากหลายรูปแบบเท่าไหร่ สุดท้ายก็เข้าใจกับสัจธรรมที่ว่า คนเรายังไงท้ายที่สุดก็จบลงที่การตายจากโลกนี้ไป
มันเลยทำให้ผมตกผลึกได้ และก็กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ ไม่ใช่เพราะใช้ไปเพื่อรอวันตายนะครับ แต่มาพร้อมความคิดที่ว่า "พยายามทำทุกอย่างที่อยากทำในทุกๆวัน เพราะกลัวว่าเมื่อไหร่ที่วันสุดท้ายของชีวิตมาถึงจะไม่มีโอกาสได้ทำมันอีก"
โฆษณา