3 ก.ย. 2020 เวลา 02:19 • ความคิดเห็น
วิธีรับมือกับคนที่ชอบเสี้ยมให้คนทะเลาะกัน
(ในที่ทำงาน)
1
โอ้ยจั่วหัวมาขนาดนี้ แสดงว่าต้องเจออะไรมาแน่ ๆ เลย ในที่ทำงานแต่ละที่เราเลือกไม่ได้เลยว่าเราจะเจอเพื่อนร่วมงานแบบไหน ถ้าที่ไหนมีเพื่อนร่วมงานดีช่วยเหลือกันดี พูดคุยภาษามนุษย์เดียวกันคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราพูดจาภาษามนุษย์ แต่อีกคนพูดกันคนละภาษาคงคุยกันยาก
เรื่องของเรื่องเราทำงานในที่เพื่อนร่วมงานคุยกับเราคนละภาษา นินทาลับหลัง กระแนะกระแหนต่อหน้า กัดจิกทุกครั้งที่มีโอกาสที่สำคัญคือเสี้ยมลูกน้องในทีมให้เกลียดกันอีก ดีงาม! อะไรจะเพอร์เฟคปานนั้นครบเครื่องจริง ๆ นี่คือวิธีรับมือคนประเภทนี้
พวกขี้นินทา การไม่ได้ยินกับหูตัวเองการไม่รับรู้
ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้ว่าป้าคนนั้น พี่คนนี้ อีเจ๊คนนู้นขี้นินทาและมั่นใจว่าจะต้องเอาเราไปนินทาแน่ ๆ อย่าเพิ่งไปเดือดร้อน ต่อให้ใครต่อใครเอาเรื่องมาเล่าให้เราฟังว่าบุคคลเหล่านั้นนินทาเรา ให้เฉยไว้ตราบใดที่เราไม่ได้ยินกับหูตัวเองจัง ๆ นั่นหมายถึงเราไม่ได้ยิน การไม่ได้ยินคือการไม่รับรู้ เมื่อไม่รู้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปโกรธหรือเกลียดใคร เพราะเราอยู่ของเราเฉย ๆ สบาย ๆ ในแบบของเรา ถ้าเมื่อไหร่เราได้ยินกับหูค่อยไปลุยตอนนั้นก็ยังไม่สาย
2
พวกใส่ร้ายป้ายสีให้คนอื่นเข้าใจเราผิด==> อยู่เฉย ๆ อย่าไปดิ้นตามเกมส์เขา
มี! คนแบบนี้มีอยู่จริงเป็นประเภทว่าเห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ ใส่ร้ายมันเลยให้คนอื่นมองมันไม่ดีเหมือนที่ตัวเองคิด ถ้าหากคนที่รับฟังแล้วเขาเชื่อมีประโยชน์อะไรที่เราจะต้องไปเสียเวลาสาธยายตัวเองให้คนที่เลือกจะเชื่อคนอื่นเล่าเรื่องของเราเองให้เขาฟัง เขาเลือกจะเชื่อสิ่งที่คนอื่นบอกแต่ไม่ฟังเราในฐานะที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เรื่องส่วนตัวของเราเอง ยิ่งถ้าเขาซุบซิบกันโดยที่เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็ยิ่งไม่ต้องแก้ตัว เป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิมเวลาจะพิสูจน์ให้เห็นเราเป็นคนอย่างไร พยายามมีความสุขกับคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในเกมส์และมองเราในแบบที่คนปกติเขามองกัน นอกจากจะได้เพื่อนใหม่เพิ่มแล้วเรายังมีความสุขมากขึ้นด้วย สรุปคืออยู่เฉย ๆ และหาเพื่อนกลุ่มใหม่ที่คิดว่าถูกจริตและเคมีตรงกันกับเราดีกว่า
ถ้าเปรียบคนใส่ร้ายป้ายสีเป็นขี้ คุณจะเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับขี้หรืออยู่ห่าง ๆ มัน แบบไหนจะดีกว่ากัน
 
พวกชอบเสี้ยมให้คนอื่นเกลียดเรา ทำงานของตัวเองให้ไม่บกพร่อง พัฒนาตัวเองไม่หยุดยั้งให้เขาจับผิดเราไม่ได้
2
คนที่ชอบเสี้ยมมักจะไม่อยากให้เราน่ารักหรือเป็นที่รักในสายตาคนอื่น เพราะฉะนั้นเขาจะหาข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราเพื่อทำให้คนอื่นเข้าใจผิด หรือแม้กระทั่งเราไม่ได้บกพร่องอะไรเขาก็เอาคำพูดของเราไปบิดเบือนให้คนฟังเข้าใจผิดและเกลียดเราได้เหมือนกัน ที่บอกให้เราทำงานตัวเองให้ดีไม่บกพร่องและพัฒนาตัวเองไม่หยุดเพราะว่า อย่างน้อยเราไม่อยู่กับที่และที่สำคัญเราปิดประตูความผิดพลาดให้ใครมาจับผิดไม่ได้! และที่สำคัญเราจะก้าวหน้าเป็นที่วางใจของผู้บริหารได้ในที่สุด เราเคยเจอเพื่อนในทีมยุแยงให้ลูกน้องเกลียดเรา ลูกน้องคนนั้นก็กล้ามาถามเหมือนกันว่าเราพูดแบบนั้นจริงไหม เราได้แต่หัวเราะแล้วบอกว่า "ไม่เคย!"
2
พร้อมกับย้อนถามว่าเคยเห็นเราจู้จี้กับเขาไหมถ้าไม่มีก็นั่นแหละสิ่งที่เราเป็น และเราจะตบท้ายแบบจิตวิทยาให้ลูกน้องรู้สึกดีเสมอว่า "พี่เห็นอยู่ว่าเราเป็นคนทำงานดีมีความรับผิดชอบงานตัวเองได้ เพราะฉะนั้นไม่พี่ไม่เคยจู้จี้งานของหนูเลย" แต่.....สุดท้ายเขาก็เลือกจะเชื่อคนที่เสี้ยมอยู่ดี มันคงสะใจและโดนใจเขามากกว่า 55++
เป็นตัวของตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีความสุขกับการทำงานทุกวัน
หากจะคิดว่าปากหอยปากปูจะเงียบไปเอง ไม่สนใจเรื่องของเราแล้ว....ยาก! คนแบบนี้จะไม่หยุดจนกว่าเขาจะพอใจและเราไม่มีทางรู้ว่าจุดไหนที่เขาจะพอใจ ทางที่ดีที่สุดหยุดโฟกัสที่เขาและหันมาโฟกัสที่ตัวเราแทน เราเปลี่ยนคนอื่นให้เป็นแบบที่เราต้องการไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเราเองได้...พยายามเป็นตัวของตัวเอง มีจุดยืนให้ได้และสร้างความสุขในแบบตัวเองขึ้นมาอย่าหวังจะได้จากคนเหล่านั้น เช่น ยิ้มให้ตัวเองวันละครั้ง ยิ้มให้เพื่อนแผนกอื่นทุกครั้งที่เจอกัน (รอยยิ้มเป็นใบเบิกทางไปหาเพื่อนใหม่) หาเพื่อนใหม่จากแผนกอื่นบ้าง ซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ รปภ. สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีความสุขไม่หมกมุ่นที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป และที่สำคัญเลิกงานแล้วอย่าเอาเรื่องคนที่ทำงานมาใส่ใจ
"เขาไม่ได้คิดถึงเราไม่ได้แคร์ที่พูดหรือทำร้ายเราแม้แต่วินาทีเดียวหลังเลิกงานเขาไปมีความสุขกับคนรักและครอบครัว จะมีประโยชน์อะไรที่เราจะนึกถึงเขาล่ะ"
4
หลายคนทำงานแล้วมีปัญหา บางครั้งไม่ได้มีปัญหากับงานแต่มีปัญหากับคนพาลให้ไม่อยากทำงานต่อ ถ้าคุณไม่ชอบงานหรือมีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่าลาออกเถอะ...แต่ถ้าคุณรู้สึกงานมันไม่แย่แต่คนมันแย่ ลาออกอาจแก้ปัญหาได้ชั่วคราว ไปที่ใหม่มั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เจอคนแบบนี้อีก คนแบบนี้มีอยู่ทุกที่เรียนรู้ที่จะจัดการปัญหาดีกว่าแล้วเราจะแกร่งผ่านปัญหาได้ในที่สุด ยิ่งเจอปัญหามากให้ท่องไว้ว่าเรากำลังมีวิธีจัดการกับปัญหาเพิ่มมากขึ้นด้วย
1
ที่มา 👇
เจอบทความนี้อ่านเเล้วสะดุดใจเลยยกมาทั้งดุ้น
ในฐานะที่จะกลับไปทำงานประจำ
เต็มรูปเเบบ..ในทีมงามเดิมที่ฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่
โฆษณา