ผู้เขียนได้มีโอกาสต้อนรับคณะนักวิจัยจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายผังเมืองและการพัฒนาเมือง ณ ห้องประชุม 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 - 12.00 น. โดยผู้เขียนได้บรรยายแลกเปลี่ยนในประเด็น “ข้อบัญญัติเมืองชิคาโกว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่โดยรองสถานีขนส่งมวลชน” หรือ “Chicago Transit Oriented Development Ordinance 2015” ให้คณะนักวิจัยฯ ได้ทราบว่าเมืองชิคาโก (City of Chicago) เป็นมหานครชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่และเดินทางเข้ามาทำงานในใจกลางเมืองเป็นจำนวนมาก มีความสำคัญทั้งในทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจการเงิน การคมนาคม สังคมและวัฒนธรรม พร้อมกับประชากรในมหานครชั้นนำเช่นว่านี้ต่างก็ต้องเดินทางไปมาหาสู่กันภายในใจกลางเมืองชิคาโกหรือเดินไปไปมาหาสู่กันระหว่างใจกลางเมืองชิกาโกไปยังพื้นที่ปริมณฑลที่ขยายออกจากเขตใจกลางเมืองโดยใช้บริการขนส่งมวลชนระบบรางในเขตเมือง (Urban Rail Transit)
การดำเนินบริการสาธารณะด้านการขนส่งมวลชนระบบรางที่จัดทำขั้นโดยเมืองชิคาโกนั้น ย่อมต้องมีการพัฒนาสถานีขนส่งมวลชนระบบราง (Mass Transit Rail Station) ให้สามารถรองรับการบริการด้านคมนาคมขนส่งระบบรางที่เมือง ชิคาโกได้จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการสัญจรด้วยระบบราง สถานีขนส่งมวลชนระบบรางกิจการไม่เพียงจะต้องอยู่ในการกำกับดูแลหรืออยู่ในความควบคุมของเมืองชิคาโกเพื่อสนองความต้องการของประชาชนในการเข้าถึงบริการขนส่งมวลชนระบบรางแล้ว หากแต่เมืองชิคาโกยังต้องมีหน้าที่และภารกิจสำคัญในการพัฒนาพื้นที่สถานีขนส่งมวลชนระบบรางและพื้นที่โดยรอบกับพื้นที่เชื่อมต่อสถานีขนส่งมวลชนระบบรางควบคู่กันไปอีกด้วย
ผู้เขียนจึงได้อธิบายให้แก่ผู้วิจัยฯ รับฟังเกี่ยวกับสาระสำคัญของกฎหมายของเมืองชิคาโก (อนุบัญญัติท้องถิ่น) ว่าด้วยการวางผังพื้นที่สถานีขนส่งมวลชนระบบรางและการวางแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบกับพื้นที่เชื่อมต่อสถานีขนส่งมวลชนระบบราง เพื่อสร้างการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งระบบรางให้ตอบสนองประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันกฎหมายของเมืองชิคาโกเช่นว่านี้ย่อมวางเกณฑ์ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เมืองที่มีอยู่อย่างจำกัดและใช้ประโยชน์ในสาธารณูปโภคด้านคมนาคมขนส่งระบบรางให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชนสูงสุด
ผู้เขียนจึงขอแบ่งปันถ่ายทอดประสบการณ์จากการบรรยายแลกเปลี่ยนระหว่างนักวิจัย ฯ ให้ผู้อ่านทั่วไปได้รับทราบเกณฑ์และข้อกำหนดที่น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาด้านกฎหมายผังเมืองและการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ดังต่อไปนี้
“Chicago Transit Oriented Development Ordinance 2015” ได้แก่ กฎหมายท้องถิ่นเมืองชิคาโกว่าด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน โดยนำเอาหลักการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development หรือ หลัก TOD) มาบรรจุเอาไว้ในข้อบัญญัติท้องถิ่นอันมีจุดมุ่งหมายให้ลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลบนท้องถนนในบริเวณพื้นที่ใจกลางเมืองชิคาโกและสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสถานีขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก ผ่านการออกแบบพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชนหรือพื้นที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสถานีขนส่งมวลชนให้เอื้อต่อการเชื่อมต่อโครงข่ายการเดินทางในใจกลางเมืองหรือเดินทางระหว่างใจกลางเมืองกับปริมณฑล (หรือชานเมือง) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมืองชิคาโกได้พัฒนาเกณฑ์ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาพื้นที่รองสถานีขนส่งมวลชนภายใต้หลัก TOD เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินและการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชนที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้รองรับกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ในทำนองเดียวกันเมืองชิคาโกก็ยังได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการลงทุนของภาคธุรกิจที่มาลงทุนพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รอบสถานีขนส่งมวลชนหรือมาลงทุนประกอบกิจการค้าในบริเวณพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน อีกทั้งข้อบัญญัติเช่นว่านี้ยังได้วางเกณฑ์ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเดินทางจากที่พักอาศัยหรือศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่บริเวณรอบสถานีขนส่งมวลชนในระยะเดินเท้า (Walking Distance) เพื่อถึงสถานีขนส่งมวลชนได้อย่างสะดวกด้วยการเดินเท้าเพียงไม่กี่นาที
สำหรับ “Chicago Transit Oriented Development Ordinance 2015” ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ที่สำคัญ อาทิ
(ก) Off-street parking requirements
ข้อกำหนดจำกัดพื้นที่จอดรถยนต์ (parking space) ในบริเวณอาคารที่ตั้งอยู่รอบสถานีขนส่งมวลชน โดยกฎหมายฉบับนี้มุ่งลดสัดส่วนที่จอดรถยนต์ในอาคารที่มีผู้คนพักอาศัย (Residential Use) ถึงร้อยละ 50 ของพื้นที่จอดรถยนต์เดิมหรือมุ่งห้ามไม่ให้มีที่จอดรถยนต์ในอาคารที่ไม่มีผู้คนพักอาศัย (Non-residential Use) ถึงร้อยละ 100 ของพื้นที่จอดรถยนต์เดิมเกณฑ์นี้ย่อมทำให้อาคารเช่นว่านี้มีที่จอดรถยนต์รองรับประชาชนผู้สัญจรโดยรถยนต์ในจำนวนไม่มากหรือไม่มีที่จอดรถยนต์เลย ประชาชนที่เข้ามาทำงาน อยู่อาศัยหรือมาใช้บริการอาคารดังกล่าวก็ต้องเดินทางสัญจรโดยรถสาธารณะแทนที่จะใช้รถยนต์เดินทางแทน ในขณะเดียวกันการไม่มีที่จอดรถยนต์ในบริเวณอาคารก็ย่อมดึงดูดให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาเดินทางด้วยการเดินหรือสัญจรด้วยยานพาหนะทางเลือกอื่นๆ ในลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เหตุนี้เองพื้นที่จอดรถยนต์แต่เดิมก็อาจถูกแทนที่โดยพื้นที่จอดรถจักรยาน (bicycle space) อันเป็นยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพื้นที่ใช้สอยของอาคารในการออกแบบพัฒนาพื้นที่จอดจักรยานได้มากกว่ารถยนต์ รวมทั้งอาคารที่ตั้งอยู่รอบสถานีขนส่งมวลชนก็จะต้องถูกออกแบบก่อสร้างให้ได้มาตรฐานทางเท้า (standards of pedestrian streets) ในทำนองที่สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปและผู้พิการสามารถเดินทางสัญจรบนทางเท้าได้อย่างสะดวกและสามารถเดินจากอาคารที่ตั้งอยู่รอบสถานีขนส่งมวลชนไปยังสถานีขนส่งมวลชนได้อย่างสะดวกโดยใช้เวลาไม่มาก