แกเร็ธ เบล...อนาคตยังไงต่อดี?!?
กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่อนาคตยังไร้ซึ่งความแน่นอนใดๆ และ ตกเป็นข่าวพัวพันเรื่องการย้ายทีมมาแทบตลอดทั้งปี สำหรับ “แกเร็ธ เบล” ตัวรุกของเรอัล มาดริด ที่ซึ่งแม้เจ้าตัวจะออกมาบอกว่าพร้อมย้ายไปหาทีมใหม่เล่นแล้ว แต่ก็ยังโดนทางต้นสังกัดเล่นแง่ไม่ยอมปล่อยตัวไปง่ายๆอยู่ดี ทำให้บางที่เราได้เห็นภาพเขาทำตัวไม่สนโลกเหมือนจะประชดทีมอยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นไวรัลอยู่บนโลกออนไลน์อยู่เป็นประจำ
สุดท้ายแล้วเส้นทางค้าแข้งของดาวเตะวัย 31 ปี รายนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ย้ายไปโกยเงินที่ลีกจีนดีไหม? กลับไปหาความสุขในอังกฤษอีกครั้งดีหรือเปล่า? หรือ ไปหาความท้าทายที่ฝรั่งเศสให้รู้แล้วรู้รอดกันไป? บทสรุปจะเป็นอย่างไรน่าสนใจดีจริงๆ…
"เบล" กับอนาคตการค้าแข้งที่ยังไม่มีอะไรชัดเจน
>>> สถิติของ “เบล” ในลา ลีกา ฤดูกาล 2019/20
- เล่น 16 เกม
- เล่น 1091 นาที
- ประตู 2 ลูก
- แอสซิสต์ 2 ครั้ง
- สร้างโอกาส 12 ครั้ง
จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ตัวรุกเลือดเวลส์ ได้โอกาสลงให้ทัพ “ราชันชุดขาว” เพียงแค่ 20 เกม และ หากนับเฉพาะกลับมาจากช่วง “รีสตาร์ท” เพิ่งได้โชว์ฝีเท้าในสนามไป 2 เกมเท่านั้น ขณะที่ ซีเนดีน ซีดาน ผู้เป็นเจ้านาย ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเจ้าตัวเองนั่นแหละที่ไม่อยากลงเล่นให้ทีม (เกมชปล.นัดพบ แมนฯ ซิตี้ ) ซึ่งก็เหมือนเป็นการส่งสัญญานกลายๆมาแล้วว่า “กรูไม่อยากอยู่แล้วโว้ยยยย” นั่นเอง
>>> กลับ “สเปอร์ส” ถิ่นเดิมเคยสร้างชื่อ
“สปอร์ต” สื่อในสเปนตีข่าวไว้ว่า หาก เบล อยากกลับไปถิ่น เดอะ เลน จริง เรื่องค่าตัวอาจตกลงกันไม่ยากเพราะคงอยู่ที่ราวๆ 15 ลป. แต่ปัญหาคือเรื่องค่าเหนื่อยที่รับอยู่ที่ 534,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ที่ถือเป็นเรททะลุเพดานของทัพ “ไก่เดือยทอง” ไปไกลอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้ตัวมาร่วมงานกันจริงก็ดูไม่น่าใช่เรื่องยาก เพราะทาง โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของทีม ก็แอบชื่นชอบฝีเท้าเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนธ.ค. 2019 ก็เป็น “เฮียมู” นี่แหละที่เคยออกตัวอยากได้ เบล มาเล่นด้วยสมัยตอนคุมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ถ้าได้คงปวดหัวเรื่องการจัดทัพไม่น้อย เพราแนวรุกมีตัวหลักอย่าง ซน เฮือง มิน กับ แฮร์รี่ เคน ยืนพื้นอยู่แล้ว แถมยังมีทั้ง สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, ลูคัส มูร่า และ เอริค ลาเมล่า พร้อมสอดแทรกแย่งตำแหน่งอยู่ด้วย ถ้ากลับมาแล้วไม่ได้เป็นคนสำคัญเหมือนเดิมยังจะอยากลับอยู่หรือเปล่า
>>> “ผีแดง” เส้นขนานที่รอวันได้บรรจบ
ในอดีต เบล เคยตกเป็นข่าวต่อเนื่องกับทัพ “ผีแดง” มาตั้งแต่สมัยที่ยังมี เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมอยู่แล้ว แต่สุดท้ายเมื่อกาลเวลาผ่านไป และ อายุของเจ้าตัวเริ่มเพิ่มมากขึ้นๆ โอกาสที่ดีลนี้จะเป็นจริงขึ้นมาได้ก็ดูห่างไกลออกไปทุกทีๆ ซึ่งสุดท้ายแม้จะได้ตัวแข้งที่มีสไตล์คล้ายคลึงกันอย่าง อเล็กซิส ซานเชส มาใช้งานแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดีเหมือนดั่งที่คิดไว้ ช่วงนี้ข่าวลือกับ เบล จึงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งนี้แม้ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือใหญ่ของทีม จะมีแนวทางชัดเจนว่าต้องการสร้างทีมด้วยขุนพลพลังหนุ่มเป็นแกนหลัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องเจอเกมที่มีความกดดันสูง หรือ ทัวร์นาเมนต์ที่คู่แข่งกระดูกแข็งโป้กอย่างบอลถ้วยยุโรป กูรูหลายคนก็ยังมองว่าแข้งฝีเท้าดีที่มีประสบการณ์แน่นทั้งในการเล่นที่แดนผู้ดี และ ระดับทวีป ยังทำประโยชน์ให้ทีมได้ แต่ในมุมของ “โอเล่” ดูจะชอบยังบลัดมากว่า
>>> มุ่งสู่แดนน้ำหอมได้ทั้งเงิน-ทั้งกล่อง
หากพูดถึงสโมสรจากฝรั่งเศสแล้ว ทีมเดียวที่มีพาวเวอร์มากพอพร้อมเปย์ดึง เบล มาร่วมงานด้วยก็คงหนีไม่พ้น เปแอสเช ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยใช้แนวทางนี้ดึงแข้งดังดีกรีหรูมาร่วมทีมอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เดวิด เบ็คแฮม หรือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน จึงคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้า เบล จะเลือกย้ายมาเล่นที่นี่ แล้วยิ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวจะถูกส่งสลับตัวกับ เนย์มาร์ มาก่อนแล้วด้วย
ขณะที่แนวทางของสโมสรทางท่านชีค นาสเซอร์ อัล-เคลไลฟี ประธานสโมสร ยังพร้อมหนุนหลังให้ เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เป็นแกนหลักของทีมต่อไปอีกแบบยาวๆ แต่ถ้าดูจากการที่ตัวรุกอื่นๆ อย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ที่เริ่มมีอายุขึ้นมากแล้ว ขณะที่ เอดินสัน คาวานี่ ก็โบกมือลาทีมไปแล้วเรียบร้อย การเข้ามาเสริมทีมของ เบล ก็ถือว่าดูเหมาะสมลงตัวพอดี ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าพอใจกันในทุกฝ่าย
>>> คิดอะไรไม่ออกไปโกยหยวนดีกว่า
อย่างที่ทราบกันดีค่าแรงของ เบล คงมีเพียงไม่กี่สโมสรบนโลกนี้ที่พร้อมซัพพอร์ทให้สมใจเขาได้ หนึ่งในนั้นคือทีมเงินหนาจากแดนมังกร ไม่ว่าจะเป็น เจียงซู ซูหนิง หรือ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว ต่างก็เคยตกเป็นข่าวกับเจ้าตัวมาแล้วในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยต่างก็พร้อมเทเงินให้ถึงระดับ 1 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์เพื่อดึงเขาไปร่วมงานด้วย แต่สุดท้ายก็เป็น “ชุดขาว” เองอีกนั้นแหละที่ปฎิเสธจะขายให้ซะงั้น
แน่นอนว่าการย้ายไปเล่นนอกยุโรป สำหรับแฟนบอลแล้วจะมองนักเตะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนว่าจะเป็นการไปแค่กอบโกยซะมากกว่า แล้วการลงเล่นในศึกไชนีส ซูเปอร์ ลีก มันก็คงไม่ตื่นเต้นท้าทายเหมือนเล่นในพรีเมียร์ลีก หรือ บอลถ้วยุโรปอีกต่างหาก มันก็คงคล้ายๆกับเคสของ เดวิด เบ็คแฮม ที่เลือกไปเล่นที่สหรัฐฯในอดีต เพราะถึงเวลาจริงก็คงมีแต่ตัวเขาเองที่จะบอกได้ว่าพอใจกับอะไรกันแน่
สุดท้ายแล้วก็คงต้องมาลุ้นกันว่า เบล จะเลือกเส้นทางอาชีพของตัวเองต่อไปยังไงกันแน่ เพราะถ้าอยู่ต่อมันก็คงจะดูฝืนๆเกร็งๆไปหมดทุกฝ่าย...ความสุขแต่ละคนไม่เหมือนกันอยากได้แบบไหนก็เลือกเอา!!!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
