4 ก.ย. 2020 เวลา 14:09 • ยานยนต์
EP.6 มาเเล้วคร้าบบบ🚗💨
สวัสดีครับทุกคนนน วันนี้เป็นวันหยุดเเละเป็นวันที่พิเศษ เพราะ เพจรีวิวรถในตลาดไทย หรือ Carman🚗 ได้ขอให้เเอดเล่าเรื่องรถคันนี้ให้ฟัง วันนี้เเอดจะมาเล่าประวัติรถที่บ้านเเอดอีกครั้งเเต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เเอดจะบอกว่า EP นี้เป็น EP ที่พิเศษมากๆ เพราะรถรุ่นนี้เป็นรถที่คนไทยชื่นชอบมากๆ เเละที่บ้านเเอดมีรถรุ่นนี้มาตั้งเเต่บรรพบุรุษอากงจนมาถึงรุ่นลูก(เเอด) จนปัจจุบันบ้านเเอดก็มีอยู่ ซึ่งไม่เเปลกใจเลยที่เเอดอยากนำมาเล่ามากๆ นั้นก็คือ.... BMW Series 5 (ซีรีย์ 5) นั้นเอง หรือ 5 Series ขึ้นอยู่กับคนอ่านเอานะครับ เเอดลอง Series 5 มาทุกรุ่นเเล้วจนถึง ตัวเเรงอย่าง M5 ซึ่ง EP นี้เเอดเนี่ยเป็นสาย Bimmer ด้วยนะเเอดมาเเทบทุกงานเลย เเอดเก็บข้อมูลมาเยอะเอามากๆ เพราะเเอดถึงกับสละเวลาทำงาน(การบ้าน)เป็นเวลาหนึ่งวันเพื่อเล่าประวัติรถรุ่นนี้ให้ฟังเลย ซึ่งรถรุ่นนี้ในไทยขายดีสุดๆเเละฮิตเอามาก รวมถึงเเอดก็ยังอยากได้มากๆ เอาละมาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ....
BMW 5 series ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของรถเก๋งซีดานขนาดกลางสุดหรูของ BMW เลยก็ว่าได้ ซึ่งเเต่ก่อนเนี่ย BMW เขามีรถซีดานขนาดกลางอยู่เเล้วที่ใช้ชื่อว่า 501 ในปี 1952 เเล้วพอต่อมา BMW ก็ได้เปลี่ยนเป็น Series 5 ในปี 1972 นั้นคือตัวเริ่มเเรกของ Series 5 เพราะ 501 มันไม่ได้ใช้ชื่อว่า “Series” ในตอนนั้น ตอนนั้น BMW ได้คิดค้นซีดานสุดหรูในขนาดเล็กในชื่อ “Series 3” เลยอยากทำรถที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ ซึ่ง BMW Series 5 อยู่ในคลาส Exclusive Mid-size sedan หรือซีดานสุดหรูขนาดกลาง (E segment) ซึ่งรถยี่ห้ออื่นที่เเข่งขันก็มีเช่น Mercedes-Benz E Class, Audi A6,Hyundai Genesis, Volvo S90 ซึ่งพวกนี้เอาไปเทียบกันได้✔️ เเต่ห้าม✖️เอาไปเปรียบเทียบกับ Toyota Camry, Honda Accord, Mazda 6 เด็ดขาดเพราะรถพวกเนี่ยมันคนละระดับกันเลย คนละ Segment นะครับ ซึ่ง BMW Series 5 เริ่มทำรถ Prototype ในปี 1970 จนขายจริงในปี 1972 ซึ่งในไทยเรานั้นพึ่งเริ่มขายในปี 1972 เลย ตัว E12 Generation ที่ 1 เพราะตัว Generation เเรก บริษัทเเม่ยังไม่มาบริหารในไทยเลย เเต่ยนตรกิจเป็นคนนำเข้า พอต่อมาตัว E39 Gen ที่ 4 บริษัทเเม่เริ่มมาบริหารในไทยเเล้ว เเละทุก Generations มีเครื่องยนต์ เบนซินและดีเซล ตัวดีเซลพึ่งเริ่มใน E39 เเละมีตัวเเรงอย่าง M5, M550i, M550d ,(B5,D5(Alpina)) ด้วย
เเอดจะสรุปเป็นรุ่นเเละ Generations นะครับ
Generation ที่ 1 E12 (1972-1981)
BMW Series 5 E12 นับเป็นจุดเริ่มต้นของ BMW Series 5 โดยมันได้รับช่วงต่อมาจาก BMW 2000 ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบโดย Paul Bracq นักออกแบบชื่อดังชาวฝรั่งเศส จุดเด่นของ E12 คือความปลอดภัยของห้องโดยสารโดยมีการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการออกแบบเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น โฉมนี้เป็นโฉมที่สร้างความสำเร็จทางด้านยอดขายอย่างถล่มทลายให้กับ BMW เลยทีเดียว มีทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 5 สปีดด้วย
ขอบคุณภาพจาก
Generation ที่ 2 E28 (1981-1988)
BMW Series 5 E28 จำหน่ายในปี 1981 จนถึงปี 1988 เส้นสายบนตัวถังของโฉม E28 ยังคงเหมือนกับตัว E12 ไว้ แต่จะขยายกระจังหน้าและเปลี่ยนโคมไฟหน้าเล็กน้อยให้ดูทันสมัยขึ้น ช่วงล่างถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เริ่มมีการใส่ระบบความปลอดภัยเช่น เบรก ABS, Computer On-Board, และหัวฉีดแบบอิเล็กทรอนิคเข้ามาในโฉมนี้ แถมยังมีการปล่อยรุ่นสมรรถนะสูงตัวเเรงอย่าง M5 ออกมาเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก
ตัวสมรรถนะสูง ตัวเเรง M5
ซึ่งรถคันนี้ก็มีเเสดงในหนังด้วย คือ Mission Impossible ภาค Fallout เเอดบอกเลยว่ามันสวยมากถ้าสมัยก่อนเเอดอยู่ช่วงนั้นนะ เเอดจะซื้อเลย555🤣🤣
Generation ที่ 3 E34 (1988-1996)
BMW Series 5 E34 รุ่นนี้จำหน่ายในไทยเมื่อปี 1988โดยมันเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ไม่แพ้กับ 3 Series E30 และคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz E Class W124ในขณะนั้น โดยรุ่นย่อยที่ขายที่สุดคือ 525i เพราะเป็นรถที่แรงและทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์ M20 6 สูบ 2.5 ลิตร ต่อมาได้เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เป็น M50 และ M50U 6 สูบ 2.5 ลิตร รุ่นนี้ได้ขายเรื่อยๆ ไปจนถึงปลายปี 1996 แล้วลากขายรถในสต๊อกจนถึงปี 1997 โฉมนี้จัดเต็มเรื่องระบบความปลอดภัยมากเช่น มีการใส่ถุงลมนิรภัย, เบรก ABS, และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC มาให้ด้วย รุ่นนี้ยังมีรุ่นพิเศษในประเทศไทยโดยเฉพาะคือ 520iS โดยได้มีการปรับจูนเครื่องใหม่ให้แรงขึ้น และเป็นรุ่นที่มีการปรับแต่งเครื่องยนต์โดยยนตรกิจจากโรงงานโดยตรง เเละรุ่นนี้มีขายทั้ง ตัวซีดานเเละเเบบรถตู้ Wagon ด้วย ซึ่งมีตัว M5 ด้วย เเละตัว M5 ได้มีการปรับเครื่องยนต์อีกด้วย ซึ่ง M5 ก็มีหนังที่ใช้รถรุ่นนี้ด้วย ในหนัง Ronin ซึ่ง เป็นฉากไล่ล่าสุดท้ายที่มีการเเย่งชิง Suit case กัน ซึ่งในทีมได้เกิดการทะเลาะกันเลยมีการเเย่งชิงเเละไล่ล่ากันเกิดขึ้น
ขอบคุณภาพจาก
ซึ่ง M5 ก็มีหนังที่ใช้รถรุ่นนี้ด้วย ในหนัง Ronin 1995 ซึ่งเป็นฉากไล่ล่าสุดท้ายที่มีการเเย่งชิง Suit case กัน ซึ่งในทีมได้เกิดการทะเลาะกันเลยมีการเเย่งชิงเเละไล่ล่ากันเกิดขึ้น ซึ่งคนที่ขับ M5 เป็นผู้หญิงซะด้วย🤔🤔
ขอบคุณภาพจาก
Generation ที่ 4 E39 (1995-2003)
BMW Series 5 E39 เป็นรุ่นที่ต่อจาก E34 โดยจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปี 1997 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับปีที่เกิดเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อ กรกฎาคม 1997 พอดี รุ่นนี้ที่ขายในไทยมีอยู่ 4 รุ่นด้วยกันคือ 520i 523i 523iA และ 528i คู่แข่งของมันก็คือ Mercedes Benz E Class W210 และ Volvo 960 รุ่นตาเล็ก (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น S90 และจำหน่ายแทนที่โดย S80 ซึ่งเป็นรถขับล้อหน้าในปี 2542) รุ่นนี้ได้มีการใส่ของไฮเทคในยุคนั้นอย่างเต็มรูปแบบ เช่น พวงมาลัย Multi-Function, ระบบนำทางดาวเทียม(สเปกไทยไม่มีระบบนี้), เบาะ Active Seat, และ DSC รุ่นย่อยที่ขายดีที่สุดคือ 523i และ 523iA โดยใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 6 สูบ 170 แรงม้า รหัส M52 และ M52TU รุ่นนี้เป็นรุ่นที่จำหน่าย 2 สมัยในไทยคือ ยุคแรกขายโดยยนตรกิจ และหลังจากนั้นก็เป็นยุคบริษัทแม่มาขายเองเมื่อปี 1998 ต่อมาได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมในประเทศไทยเมื่อปี 2001 โดยยกเลิกจำหน่าย 520i และ 528i ทิ้งไป และได้เปลี่ยนรุ่นย่อยจาก 528i เป็น 530i ในปี 2003 E39 รุ่นปรับโฉมหรือ LCI ในประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เป็นรหัส M52TUB24 2.4 ลิตร 6 สูบ 184 แรงม้า ในรุ่น 523i และ 523iA และเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ 230 แรงม้า รหัส M54B30 ในรุ่น 530i โดยรุ่นย่อยของตัวปรับโฉมหรือตัว LCI ที่ขายในประเทศไทยมีดังนี้
523i/523iA : executive, comfort, sport
530i : M Sport
ซึ่งตัวนี้ยังมีตัวรถตู้ Wagon ด้วย เเละมีตัว M5 ออกมาจำหน่ายเเต่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ ที่ให้พละกำลัง 390 เเรงม้า E39 ได้ขายเรื่อยๆ จนยุติการจำหน่ายในไทยในปลายปี 2003 และลากขายจนหมดสต๊อกในปี 2004 ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง E60 ในเวลาต่อมา
(ขออนุญาตไม่เปิดหน้านะครับ ไว้ครบ 1000 Followers จะเผยหน้าให้ดูครับ^^ ในภาพรถของเเอดเป็นตัว 523i sport นะครับ ซื้อมาจากศูนย์ ตอนนี้ยังเก็บอยู่ ยังขับได้ตามปกติเเละไม่ขายครับ ถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าในครอบครัวเลย เเละรถยังสมบูรณ์ดี มีบางส่วนที่เสื่อมเช่น เสา A ที่ทำมาจากของ Recycle ทำให้รถดูเปราะบางเเต่จริงๆเเข็งเเรงมากๆ)
M5 เเต่ก่อนมีการใช้เครื่องยนต์ V6 เเต่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ ที่ให้พละกำลัง 390 เเรงม้า เเละตัวนี้เเรงกว่า Mercedes-AMG E55 มาก
ขอบคุณภาพจาก
Generation ที่ 5 E60, E61(Wagon)(2003-2010)
BMW Series 5 E60 เปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2004 โดยช่วงแรกจะจำหน่ายรุ่น 525i และ 530i เป็นรุ่นนำเข้า (CBU) ต่อมาได้มีการเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ(CKD) ในช่วงปลายปีเดียวกันและได้เพิ่มอีก 2 รุ่นเป็น 4 รุ่นคือ 520i 525i 525i-SE และ 530iในปี พ.ศ. 2006 รุ่นนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่โดยเพิ่มรุ่นเครื่องดีเซล 2.0 ลิตรเป็นทางเลือกใหม่ในรุ่น 520d ในวันที่ 9 กันยายน 2006 ก่อนจะมีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมหรือ LCI ในปี 2007 หรือ 1 ปีถัดมา หลังจากนั้นในปลายปี 2009 ได้เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ให้กับรุ่นขายดีอย่าง 520d คือ 520d Corporate โดยปรับราคาให้ดูน่าจับต้องได้ในราคา 2.999 ล้านบาท ก่อนที่จะถูกแทนที่โดย รุ่นที่ 6 หรือ F10 รุ่นนี้มีการใส่ระบบ iDrive เป็นอุปกรณ์มาตรฐานและระบบที่ไฮเทคขึ้นจากรุ่นก่อน เช่น Adaptive Cruise Control, เซนเซอร์ถอยจอด, Head-Up Display และมันยังเป็น 5-Series รุ่นแรกและรุ่นเดียวที่คอนโซลกลางไม่เอียงเข้าหาคนขับด้วยซึ่งตัวนี้ยังมีตัวรถตู้ Wagon ด้วย ใช้ชื่อรหัสว่า E61 เเละยังมีตัว M5 อยู่เหมือนเดิมเเต่เปลี่ยนเครื่องมาใช้ V10 จาก Audi R8, Lamborghini Gallardo และใช้เกียร์จาก Ferrari ด้วย ซึ่งมันยังเเรงกว่า Supercar บางคันซะอีก เช่น Mercedes-AMG SL65 V12 หรือ ยังชนะ Ferrari บางคันด้วยซ้ำ
ขอบคุณภาพจาก
ซึ่งยังมีตัว M5 อยู่เหมือนเดิมเเต่เปลี่ยนเครื่องมาใช้ V10 จาก Audi R8, Lamborghini Gallardo และใช้เกียร์จาก Ferrari ด้วย ซึ่งมันยังเเรงกว่า Supercar บางคันซะอีก เช่น Mercedes-AMG SL65 V12 หรือ ยังชนะ Ferrari บางคันด้วยซ้ำ ซึ่งเครื่อง V10 ให้กำลังพอๆกับ Lamborghini เลย เพราะตอนนั้น BMW กับ Lamborghini ได้มีการร่วมมือกัน จนต่อมา Lamborghini ก็ได้ยุติการทำโปรเจคนี้ BMW เลยตัดสินใจทำต่อซึ่งตัวนี้ยังเเรงกว่าตัว M5 F10 ที่เป็นตัวใหม่กว่า โอ้วว สุดยอดด....
Generation ที่ 6 F10, F11, F07, F18(2010-2016)
บีเอ็มดับเบิลยู 5 ซีรีส์ F10 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2010 มีการเปิดตัวครั้งแรกโดยเป็นรุ่นนำเข้าทั้ง 2 รุ่นคือ BMW 535i และ BMW 530d มีการเปิดตัว BMW 523i ใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ โดยมี 2 รุ่น ประกอบด้วย BMW 523i และ BMW 523i Highline มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็นรุ่น 520d และ 525d ซึ่งเข้ามาแทนที่ 530d รุ่นนำเข้า โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นรุ่นประกอบในประเทศมีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็นรุ่น 520d Touring Sport รถแวกอนพร้อมชุดแต่ง M Sport
มีการเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ในรุ่นเครื่องเบนซินอย่าง 520i, 528i, และ 528i Sport โดยทั้ง 3 รุ่น เข้ามาจำหน่ายแทน 523i มีการเปิดตัวรุ่น ActiveHybrid 5 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบมีการปรับอุปกรณ์ใหม่โดยเพิ่มระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง Rear Seat Entertainment (ยกเว้นรุ่น 520d, 520i และ 528i Sport) พร้อมจอขนาด 9.2 นิ้ว 2 ตำแหน่ง แยกการแสดงผลเป็นอิสระ พร้อมรีโมทคอนโทรล สามารถดูโทรทัศน์และภาพยนตร์จากแผ่น DVD, แผนที่จากระบบนำทางผ่านดาวเทียม, และแยกการฟังวิทยุผ่านทางหูฟังส่วนตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมหรือ LCI โดยมี 7 รุ่นย่อยคือ 520i, 520d, 525d M Sport, 525d Luxury, 528i M Sport, 528i Luxury และ ActiveHybrid 5
มีการตัดรุ่น 520d และ ActiveHybrid 5 ทิ้งไป
มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็นรุ่น 520d M Sport แทน 520d รุ่น base มีการเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ของคนรักรถดีเซลที่ต้องราคาที่จับต้องได้คือ 520d Elite โดยตัดชุดแต่ง M Sport / ล้อ M Sport ออกไป ได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วน Option พื้นฐาน และอุปกรณ์ต่างๆ ใกล้เคียงกับ 520d M Sport เดิม
ยุติการทำตลาดโดยถูกจำหน่ายแทนที่โดยรุ่นที่ 7 หรือ G30
F11 จะเป็นตัวรถตู้ Wagon
F07 จะเป็นตัวที่เขาเรียกว่า Fastback หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า GT ย่อมาจาก “Gran Turismo”
ส่วน F18 จะเป็นตัว LWB หรือ Long wheel base ฐานล้อยาวที่ทำตลาดเเค่ในประเทศจีนหรือตลาดตะวันออกกลาง
เเละก็ยังมี M5 อยู่เเต่จะถูกเปลี่ยนเครื่องยนต์ ให้เล็กลงให้เป็น V8 เเละมีตัว Editon ด้วย ที่เรียกว่า Competition ที่จูนเครื่องให้เเรงขึ้น
(ในภาพเป็นรถในครอบครัวซึ่งขายไปนานเเล้ว เเต่คนที่เคยซื้อรถเเอดเขาขอให้เเอดมาซื้อคืน ซึ่งเจ้าของอยู่เชียงใหม่ ซึ่งรถของเเอดเป็นรุ่น 525d M sport เป็นรถนำเขา CBU ซึ่งรถของเเอดพิเศษกว่าใครๆคือ หลังคา sunroof ระบบถอยหลังอัตโนมัติ ระบบ Blind spot (BSM) ซึ่งรถเเอดในปี 2012 เป็นตัวมาตราฐานในยุโรป ซึ่งในไทย options พวกนี้จะไม่มีซึ่งเเอดก็ งง มากว่ามันมีมาได้ยังไง เเละภาพสุดท้ายเป็นภาพรถมือสองที่บ้านเเอดขายเอง เพราะบ้านเเอดรับซื้อขายรถมือสอง เเต่ตอนนี้ขายเเล้วครับ ^^ )
F11 จะเป็นตัวรถตู้ Wagon
F07 จะเป็นตัวที่เขาเรียกว่า Fastback หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า GT ย่อมาจาก “Gran Turismo”
ส่วน F18 จะเป็นตัว LWB หรือ Long wheel base ฐานล้อยาวที่ทำตลาดเเค่ในประเทศจีนหรือตลาดตะวันออกกลาง ลองดูดีๆนะครับว่าประตูหลังมันจะยาวมากๆ
ยังมี M5 อยู่เเต่จะถูกเปลี่ยนเครื่องยนต์ ให้เล็กลงให้เป็น V8 เเละมีตัว Editon ด้วย ที่เรียกว่า Competition ที่จูนเครื่องให้เเรงขึ้น เเต่เเอดว่ามันสวยมากๆนะ ส่วนตัวเเอดชอบมากๆ
Generation ที่ 7 G30, G31, G38 (2016-ปัจจุบัน)
บีเอ็มดับเบิลยู 5 ซีรีส์ G30 เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 โดยทำตลาดดังนี้
เปิดตัวครั้งแรกโดยจำหน่าย 3 รุ่นย่อยคือ 520d Luxury, 520d Luxury (Limited) และ 530i M Sport โดยเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคัน มีการเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศเป็น 520d Sport ในเดือนสิงหาคม มีการเปิดตัว 530e Plug-in Hybrid ทั้ง 2 รุ่นย่อยคือ Luxury และ M Sport รุ่นประกอบในประเทศในงาน Motor Expo 2017 โดยเข้ามาจำหน่ายแทนรุ่นนำเข้า มีการเปิดตัว 530i Touring M Sport รถแวกอน 5 ประตู ครั้งแรกในงาน Motor Show 2018 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และ ได้จำหน่ายรุ่นสมรรถนะสูง M5 ราคา 13,339,000 บาท
การเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่เป็นรุ่น 520d M Sport โดยจำหน่ายแทนรุ่น 520d Sport เดิม มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 530e Highline เพื่อมาแทนรุ่น 530e Luxury เดิม มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 530e Elite ในราคา 2.999 ล้านบาท
ซึ่งตัวนี้ M5 บอกเลยว่าเเรงมากๆ มีตัว Competition ด้วย เเต่จะใช้รหัส F90
(รถทั้ง 2 คันนี้คันเเรก ป้ายเเดง เป็นตัว M sport ซึ่งคันแรกปัจจุบันยังใช้อยู่ ซึ่งขับดีมากเเอดเคยขับเเล้ว เเอดบอกเลยว่าเป็นรถที่ขับดีมากๆ ชอบมาก ปลื้มสุดๆ เเต่คันที่ 2 เป็นตัว sport เเอดขายไปเเล้วตอนเเรกซื้อมาป้ายเเดงเเล้วดูไม่สมกับตัวเองเลยขายไป เเต่เป็นตัว 520d ทั้งคู่ เเรงมากๆบอกเลย)
G31 ซึ่งตัวนี้ถือว่า เป็นตัว Rare มากเพราะ รถ Wagon สมัยนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กันเเล้วซึ่งเป็นตัว CBU ซะด้วยซึ่งขายได้ไม่เยอะเเต่ญาติเเอดคนนึงซื้อมาเเล้ว สวยมากๆเเอดชอบมากเลย เเต่อีกไม่นานตัว Wagon จะสูญพันธุ์ ไม่มีขายอีกเเล้ว
ขอบคุณภาพจาก
ส่วน G38 จะเป็นตัว LWB หรือ Long wheel base ฐานล้อยาวที่ทำตลาดเเค่ในประเทศจีนหรือตลาดตะวันออกกลาง ลองดูดีๆนะครับว่าประตูหลังมันจะยาวมากๆ
ขอบคุณภาพจาก
ซึ่งตัวนี้ M5 บอกเลยว่าเเรงมากๆ มีตัว Competition ด้วย เเต่จะใช้รหัส F90
ขอบคุณภาพจาก
Fun Fact 😁
วันนี้จะเล่าทั้ง 2 เรื่องเลยนะครับ จะมี เรื่อง LCI ของ BMW กับ ตัวเเรงๆอย่าง Alpina ที่เเรงไม่ซ้ำ M Power เลย
-เรื่องเเรก 1. LCI = Life Cycle Impulse เป็นการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับ Facelift ของ Mercedes-Benz นั้นเอง ซึ่งมันไม่ได้เปลี่ยนเเค่หน้านะ มันเปลี่ยนระบบภายในรถอีกด้วย เช่น ระบบ BMW Connected Drive ที่อยู่ในเรือนไมล์เเละจอในคอลโซลหน้า, ไฟ Daytime Running Light (DRL)เเบบใหม่ที่ไม่ซ้ำกับตัว All-New เป็นต้น
-เรื่องที่ 2 Alpina บริษัทเล็กๆ ของเยอรมนีแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ในเมืองบุชโล แคว้นบาวาเรีย ห่างจากเมืองมิวนิกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1 ชั่วโมง และมีอายุยาวนานประมาณ 46 ปีแล้ว Alpina มีช่างและวิศวกรเครื่องยนต์ที่ชำนาญงานในการดัดแปลงรถยนต์ยี่ห้อ BMW ให้มีคุณลักษณะและสมรรถนะในการขับขี่ควบคุมที่ดีขึ้นกว่ารถเดิมๆ ที่ออกจากโรงงาน โดยยังคงรักษามาตรฐานความเป็น BMW อยู่อย่างเปี่ยมล้น บริษัท Alpina ก่อตั้งโดย Burkard Bovensiepen และเริ่มต้นดำเนินงานในปี 1965 ด้วยรากฐานของ Burkard Bovensiepen KG ในเมือง Kaufbeuren ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี จากการสานต่อบริษัทผลิตเครื่องพิมพ์ดีดเล็กๆ ของบิดา Rudolf Bovensiepen วัตถุประสงค์คือเพื่อให้สำนักงาน และโรงงานขนาดเล็กสามารถก้าวเดินต่อไปได้ด้วยความมุ่งมั่นทุกวันนี้ ที่โรงงานเล็กๆของ Alpina มีเครื่องมือที่ใช้ในงานช่างกลเพื่อซ่อมและแก้ใขเครื่องจักรอยู่เต็มไปหมด Burkard Bovensiepen เริ่มลงมือประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ต่อมาเรียกกันว่า Alpina Kit หรือชุดแต่งของ Alpina โดยใช้เครื่องมือเก่าแก่ของพ่อในการปรับแต่ง ชุดแต่งแรกเริ่มของ Alpina นั้นประกอบด้วยคาร์บูเรเตอรคู่ของเว็ปเบอร์พร้อม ท่อดูดอากาศทรงสั้น กรวยไอดีขัดผิวเรียบ และไส้กรองอากาศแบบเปียกขนาดใหญ่ ราคารวมค่าติดตั้งของชุดKit ทั้งหมดนี้ไม่เกิน 1000 มาร์ค เมื่อทำการติดตั้งเสร็จสิ้นรถ BMW 1600 ที่โมโดย Alpina จะมีแรงม้าเท่ากับ รุ่น 1800 ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 13.1 วินาทีและมีความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับรถเครื่องยนต์ขนาดเล็กในยุค 70' อุปกรณ์เสริมความแรงของเครื่องยนต์หรือชุดแต่งดังกล่าวได้รับคำชมเชยจาก วิศวกรของ BMW และเมื่อย้อนเวลากลับไปในยุคนั้น บรรดาสำนักแต่งรถต่างๆ ยังไม่ค่อยจะได้รับความไว้วางใจกันมากนัก คาร์บูเรเตอร์แบบคู่ของ Alpina ถูกเหมารวมว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจูนอัพรถยนต์ ซึ่ง Alpina ไม่ชอบคำนี้และต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถทำในสิ่งที่น่า เชื่อถือได้ ตั้งแต่ยุค 1970 ถึงปัจจุบันสัญลักษณ์กรวยไอดีคู่และเพลาข้อเหวี่ยงยังคงถูก ใช้เป็นโลโก้ของบริษัท Alpina อยู่เสมอมาตลอดระยะเวลา 45 ปีของการดำเนินงานความสำเร็จของ Alpina ควบคู่ไปกับความสำเร็จของ BMW โดยปราศจากการแข่งขันและการชิงดีชิงเด่น ซึ่งเกิดจากความตั้งใจที่จะร่วมมือกันพัฒนาสมรรถนะของรถ BMW อย่างแท้จริง หลังจากผลิตชุด Carburetor Kit แล้วบริษัท Alpina ยังได้ทำการผลิตชิ้นส่วนคุณภาพสูงด้วยการสนับสนุนของค่าย BMW เช่น ลูกสูบหล่อแบบพิเศษ เพลากลางถ่วงสมดุลอย่างละเอียดซึ่งเป็นส่วนสำคัญของงานวิศวกรรมจักรกลที่ ละเอียดอ่อนซึ่งต้องผ่านทั้งการคำนวณ และทดสอบอย่างหนักก่อนผลิตออกจำหน่าย อดีตนักขับรถแข่งฟอร์มูล่าวันชื่อ Pol Ferrel เคยทดสอบและนำรถแข่งรุ่น 2002 กำลัง 165 แรงม้าที่โมดิฟายโดย Alpina ลงวิ่งในสนามวัลเยอลุงก้าให้คำชมเชยว่า มันวิ่งได้เร็วกว่ารถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์จากอิตาลีอย่าง Lamborghini Miura ถึง 1 วินาทีทั้งๆ ที่มีเครื่องยนต์ที่เล็กกว่ามาก แถมยังวิ่งได้เร็วกว่ารถ Porsche 911S ถึง 5.1 วินาทีเลยทีเดียว บริษัท Alpina ไม่ไช่บริษัทขนาดเล็กอีกต่อไป แต่เป็นสำนักงานตกแต่งรถ BMW ที่ได้รับความเชื่อถือและความนิยมในตัวผลิตภัณฑ์ อันทรงคุณภาพและความสวยงามบวกกับความร้อนแรงของพละกำลังที่ถูกปรับแต่งมา อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งตัวถังอย่างสปอยเลอร์รอบคัน ล้ออัลลอยลายใบพัดก้านเล็กๆ ที่น้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแกร่ง เครื่องยนต์ติดตั้งระบบอัดอากาศเพื่อเพิ่มสมรรถนะของตัวรถ การตกแต่งภายในห้องโดยสารในสไตส์ของ Alpina ที่มีทั้งความงามและประโยชน์ใช้สอยควบคู่กันไป บริษัท Alpina Burkard Bovensiepen GmbH Co. มีความภาคภูมิในการครองใจผู้ใช้รถ BMW และความร่วมมืออันยาวนานกว่า 45 ปีกับ ค่าย BMW ด้วยการได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหาร ถึงแม้ Alpina จะมีคู่แข่งโดยตรงเป็นสุดยอดบริษัทรับปรับแต่งรถ BMW อย่าง AC Schnitzer, Racing Dynamic, Hamann, แต่การทำงานและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Alpina ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใด Burkard Bovensiepen คิดอยู่เสมอว่า Alpina ไม่เพียงแค่ปรับแต่งรถ BMW ให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้นเท่า นั้น แต่ยังคงมุ่งเน้นไปที่การค้นคว้าและพัฒนาในจุดอื่นๆ ของตัวรถ BMW อีกด้วย จากปรัชญาเบื้องหลังความสำเร็จอันทรงคุณค่าในการทำงานของบรรดาวิศวกรและช่าง เครื่องยนต์ฝีมือฉมังด้วยคำจำกัดความว่า สะอาด แรง เร็วแต่ประหยัด เพื่อมุ่งมั่นในการผลิตรถยนต์ BMW สมรรถนะสูงให้เป็นรางวัลของลูกค้าในการเลือกซื้อจักรกลเพื่อการเดินทาง
หากข้อมูลผิดประการใดขออภัยด้วยนะครับ🙏🙏
อย่าลืม กดไลค์เเละกดติดตาม ให้เป็นกำลังใจด้วยนะครับ ขอโทษที่ไม่ได้โพสต์มานาน พึ่งมีเวลานะครับ วันนี้เป็นวันหยุด ใครที่กลับภูมิลำเนา เเอดขอให้กลับอย่างปลอดภัยนะครับ เเอดก็กลับภูมิลำเนาเหมือนกัน เเอดกลับนครศรีธรรมราช เเอดได้ไปขอพรที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่เเอดก็ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันหยุดด้วยนะครับ เดี๋ยวปลายเดือนกันยาก็วันเกิดเเอดเเล้ว ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวของผมเสมอครับ🙏🙏😊😊😘😘❤️❤️
โฆษณา