5 ก.ย. 2020 เวลา 08:19 • ธุรกิจ
ทำสองตำแหน่งแต่เงินเดือนเท่าเดิม
กลับมาอีกแล้วครับ topic นี้
เรียกได้ว่าเป็นปัญหายอดฮิตอีกอันเลย
ออฟฟิศโลกแตก
เรื่องราววันนี้นะครับ ถูกแชร์ผ่านคุณต้า ซึ่งเป็นพนักงาน ทัวร์โอเปอเรเตอร์
ซึ่งงานของคุณต้านั้นส่วนใหญ่จะเป็นงานกับลูกค้าต่างชาติ เพราะตัวออฟฟิศประจำอยู่ที่ ภูเก็ต
เรื่องราวของคุณต้านั้นจากที่ผมได้นั่งสัมภาษณ์มาคือมีเรื่องมีราวปัญหามากมายจริงๆ ฮ่าๆ
ไหนจะเป็นปัญหากับลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และตัวบริษัทเอง
แต่ปัญหาหลักๆ ที่คุณต้าอยากจะเอามาแชร์ ก็คือปัญหาของการทำหน้าที่หลายตำแหน่งซึ่งเงินเดือนเท่าเดิม
บริษัทของคุณต้าเป็นบริษัทใหม่ที่พึ่งเปิดอยู่ที่ ภูเก็ต ซึ่งคุณต้าก็สมัครไปทำในตำแหน่ง ทัวร์โอเรเตอร์ ที่มีหน้าที่ ดูแลประสานงานเรื่องลูกค้า เวลาที่ลูกค้าซื้อแพคเกตทัวร์ก็เป็นคนที่คอย ออแกนไนซ์ว่า จะหารถไหนไปรับลูกค้า หรือ หาบริษัทเรือไหนที่ไว้รอรับส่งลูกค้า ซึ่งนับต่อวันต้องหาเป็นร้อยๆดิลให้กับลูกค้านั้นก็เยอะแล้ว
แต่อยู่มาวันหนึ่งมีพนักงานตำแหน่งสำหรับรับลูกค้าที่สนามบินขอลาออกไป และทางบริษัทก็ยังไม่หาพนักงานเพิ่ม โดยช่วงแรกขอวานให้คุณต้าช่วยทำตำแหน่งนี้ไปก่อน
แต่เวลาผ่านไปสองเดือนทางบริษัทก็ยังไม่รับ พนักงานใหม่เข้ามาทำหน้าที่นี้ ซึ่งคุณต้าได้เล่าว่า นอกจากคุณต้าจะต้องรับผิดชอบงานตัวเองที่จะต้องคอยหาทั้งที่พัก หารถ และ หาเรือ ให้กับลูกค้าวันละร้อยๆดิล และยังต้องทำหน้าที่ไปรับลูกค้าที่สนามบินอีก
ซึ่งระยะทางจากสนามบินและออฟฟิศคุณต้าห่างกันประมาณ 20กว่ากิโล และต้องทำแบบนี้ไปรับลูกค้า วันละเกือบร้อยคนเลย บางวันคุณต้ากินและนอนที่สนามบินเลย และต้องเอาคอมติดตัวตลอดเวลาไปด้วยเพื่อทำงาน
คุณต้าเคยทำงานหนักสุด เลิกตี4และตอน 6 โมงเช้าไปรับลูกค้าต่อที่สนามบิน
แน่นอนว่ามันมีผลกระทบกับทั้งงานหลักและสุขภาพคุณต้า ไหนจะโดนต่อว่าจากลูกค้าจากทั้งสองทาง และแถมเหนื่อยฟรี
คุณต้าก็ได้บอกไปทางเจ้าของบริษัท ว่าให้หาคนมาทำตำแหน่งนี้เถอะเพราะคุณต้าทำไม่ไหว
แต่ท่าทีของเจ้าของบริษัทเหมือนกับว่า ไม่อยากเสียเงินกับตำแหน่งที่ต้องไปรับลูกค้าเพราะรู้สึกว่าสิ้นเปลืองและก็เห็นคุณต้าก็พอทำได้อยู่
ผมเลยขออนุญาตถามคุณต้าว่า ตอนนั้นได้เงินเดือนเท่าไร
คุณต้าบอกว่า 16,000บาท ไม่มีโอที ผมถึงกับตกใจมาก โอ้วทำหนักขนาดนี้นอกจากไม่ได้โอทีแล้ว ยังได้เงินแค่งานเดียวอีก
คุณต้าบอกว่า ถึงเงินเดือนเท่านี้ก็แทบไม่ได้ใช้เลยเพราะทำงานตลอดเวลา ค่าไฟห้องตอนนั้นเพียงแค่ 400-500 เพราะแทบไม่ได้กลับห้องเลย แต่ยอมรับว่าเหนื่อยมาก
ผมจึงถามคุณต้าว่า เค้ามีวิธีจัดการยังไง
คุณต้าได้บอกว่าพยายามขอเจ้าของบริษัทหลายครั้งแล้วแต่ก็เงียบหายไปเลย เพราะเค้าเห็นว่าเราทำได้ และคุณต้าเคยจะแกล้งว่าไม่ทำหรือทำเป็นไปรับลูกค้าไม่ได้ แต่ในใจลึกๆก็สงสารนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้เรื่องอะไร เลยทำไม่ลง
หลังจากคุณต้าทำแบบนั้นมาได้เกือบ4-5 เดือน คุณต้าบอกว่าร่างกายเริ่มไม่ไหว มีครั้งหนึ่งเคยจะเป็นลมตอนถือป้าย รอรับลูกค้าที่สนามบิน และคุณต้าเลยตัดสินใจลาออกขอพักผ่อนก่อนกลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน เพราะตลอดเวลาที่ทำงานที่นั้น ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย
อยู่ภูเก็ตจริง แต่ไม่เคยได้เที่ยวภูเก็ตเลย
จากที่ผมได้ฟังเรื่องราวคุณต้าก็เห็นใจและสงสารคุณต้าที่ต้องรับภาระหนักขนาดนั้น
ทำให้ผมคิดว่า ปัญหาจากเรื่องนี้คือ การบริหารองค์กรของบริษัท การเป็นองค์กรที่ดีควรจะเห็นใจและเข้าใจพนักงานด้วย เพราะคนเหล่านี้คือแรงขับเคลื่อนของบริษัท เค้าทุ่มเทให้บริษัท บริษัทก็ควรตอบแทนค่าเหนื่อยของพนักงาน เพื่อให้เค้ามีกำลังใจทำงาน หายเหนื่อย
อย่างน้อยถ้าไม่สามารถให้เงินเดือนเพิ่ม ควรให้ค่าเหนื่อยเป็นโอทีต่อเที่ยว เพราะสิ่งที่เค้าทุ่มเทและเต็มใจทำให้มันนอกเหนืองานที่เค้าต้องรับผิดชอบ
การที่บริษัทแฟร์กับเรา แน่นอนว่าเราก็อยากทำงานให้อย่างเต็มที่เหมือนกัน ดีกว่าการทำอะไรเหนื่อยฟรีแถมบริษัทไม่สนใจอีก นอกจากไม่มีกำลังใจทำงานแล้ว ยิ่งทำให้ท้อ
ออฟฟิศโลกแตกขอเป็นกำลังให้กับคุณต้านะครับ และเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังเจอปัญหาแบบเดียวกันกับคุณต้าด้วย
ถ้าเพื่อนๆมีความคิดเห็นยังไง ก้สามารถรวมเข้ามา
คอมเม้นแสดงความคิดเห็นแชร์มุมมองกันได้นะครับ
ออฟฟิศโลกแตกขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
โฆษณา