6 ก.ย. 2020 เวลา 12:04 • ความคิดเห็น
ทำอย่างไรให้เป็นสุดยอดพนักงาน ที่บริษัทขาดคุณไม่ได้
คำแนะนำโดย ผู้บริหาร ที่เริ่มต้นจากเป็นเด็กฝึกงาน
การเป็นสุดยอดพนักงาน เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้
ออฟฟิศโลกแตก
เรื่องรางวันนี้ผมได้นั่งฟังบรรยายจาก ผู้บริหารท่านหนึ่ง ที่เค้าเริ่มต้นจากการเป็นแค่เด็กฝึกงาน จนสามารถเป็นผู้บริหารองค์กร เลยอยากจะนำเอาข้อคิดจากเค้ามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
ผู้บริหารท่านนี้ชื่อ โจ ยิป หว่อง ปัจจุบันเป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัทเกี่ยวกับ นาฬิกา เครื่องระดับและ อสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย ในวัยแค่ 41 ปี
ผู้บริหารท่านนี้เค้าเปิดการบรรยายว่า ผมเคยเป็นคนที่เสริฟน้ำให้พวกคุณมาก่อน ในห้องบรรยายแบบนี้ ตอนที่เป็นเด็กฝึกงานของที่นี่ (เปิดประเด็นมาก็ผู้ขนลุกแล้ว)
คุณโจได้เล่าว่า เรื่องราวที่เค้าอยากมาพูดวันนี้ มันคือเรื่องของ คุณสมบัติของพนักงานทุกคนต้องมี และถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้แล้ว ฝึกฝนมันมากขึ้น คุณก็จะเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่น
ผมจะปรับพื้นฐานให้พวกคุณเท่ากันหมด โดยสิ่งที่ผมแนะนำ แล้วหลังจากนี้คุณเฝ้าดูเพื่อนคุณไว้ว่า ใครจะมาเป็นคนที่ยืนจุดนี้ต่อจากผมในองค์กร หรือ อาจจะเป็นตัวคุณเองก็ได้
ในใจตอนนั้นคือแบบ เชี่ย!!พึ่งเคยเห็นคนจีนพูดภาษาอังกฤษแล้วดูโคตรเท่ก็วันนี้แระ ขนลุกไปหมด
( ขออภัยนะครับที่ใช้คำไม่สุภาพ ผมอยากให้เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นจริงๆ)
คุณโจบรรยายว่า ตอนที่ผมเริ่มทำงานที่นี่ ผมบอกตัวเองเสมอว่า ผมต้องเป็นทรัพย์สินของที่นี่ให้ได้ ในขณะที่ผมเป็นแค่เด็กฝึกงาน มันดูค่อนข้างเพ้อฝัน และไกลจากความเป็นจริงมากๆ
แล้วเราจะเป็นทรัพย์สินที่นี่ได้ยังไง เริ่มต้นจาก เราต้องสร้าง value หรือ มูลค่าให้ตัวเองก่อน ถ้าเรามีคุณค่ามากพอ บริษัทก็จะขาดเราไม่ได้
เราอย่าพยายามเป็นคนที่มีตำแหน่งระดับสูงแต่ไร้ประโยชน์ในบริษัทเด็ดขาด เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว อย่าลืมนะครับว่าเด็กสมัยนี้เก่ง เพราะฉนั้น คนรุ่นใหม่ที่เก่งกว่าและทำได้เหมือนคุณ ลองคิดดูว่าบริษัทจะเลือกเก็บใครไว้
ผมจะใช้เวลาทั้งชีวิตผม พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าผมพอใจแล้วในจุดหนึ่ง ผมจะไล่ตัวเองออกเอง แล้วให้เด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน ( พร้อมเสียงหัวเราะของคุณโจ)
แล้วมีอะไรบ้างที่ผมจะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง สิ่งที่ผมจะพูดเป็นที่ธรรมดามากๆ คุณอาจจะเคยได้ยินมาในที่ต่างๆมาบ้าง แต่ผมข้อเน้นอย่างหนึ่งคือ ความเพียรและทำมันอยู่ตลอด
ถ้าคุณสามารถท่องสูตรคูณแม่2ได้ สิ่งที่ผมจะบอกหลังจากนี้คุณก็ควรจำให้ขึ้นใจเหมือนกัน
1. ควรนักเรียนรู้
สิ่งนี้คือสิ่งแรกที่ผมอยากพูดเพราะ มันคือสิ่งแรกเลยที่จะทำให้คุณเหนือจากคนอื่น คือความรู้ การที่เราเป็นนักเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และ หมั่นทบทวนอยู่เสมอ จะทำให้คุณกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมกลัว
ผมมีเรื่องตลกเล่าให้ฟัง มีครั้งหนึ่งผมไปซื้อกาแฟใต้ออฟฟิศที่สิงคโปร์ แล้วมีพนักงานที่ร้านกาแฟ อายุประมาณ 19-20 ปี เค้าแนะนำผมเรื่องกาแฟแต่ละประเภทให้ผมฟัง ในตอนนั้นสิ่งที่เด็กคนนั้นอธิบายมา ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าคืออะไร แล้วผมเจ็บใจมาก ที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมได้กลับไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับกาแฟ มาอ่านเลย หลังจากวันนั้นผมกับเด็กคนนั้นเราก็เป็นเพื่อนกันพูดคุยเรื่องกาแฟ ผมพยายามจะยกตัวอย่างว่า บนโลกนี้เรามันมีอะไรให้เราเรียนรู้อะไรอีกเยอะมาก เราจึงต้องเป็นคนที่รักการเรียนรู้อะไรตลอดเวลา
1
2. ทุ่มเทกับงาน
คุณอยากฟังเรื่องที่ผมอยู่ดีดีได้ย้ายมาเป็นตำแหน่งบริหารครั้งแรกมั้ยครับ ?
เพราะ ผมทำงาน2หน้าที่มา 3 ปี ที่ผมกำลังพูดไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนทำงานหลายๆหน้าที่นะครับ
แต่ผมกำลังจะพูดถึงการทุ่มเทให้กับงานมากขนาดไหนถึงมาอยู่จุดนี้ได้
ในตอนนั้นสาเหตุที่ผมทำถึง2 หน้าที่เพราะ ผมอยากพิสูจน์ตัวเองว่าผมสามารถทำมันออกมาได้มากแค่ไหน
โดยงานแรกคืองานหลักของผม งานที่2คือโปรเจคที่ผมเสนอไปในบรอดประชุมแล้วไม่ผ่าน แต่ผมอยากทำต่อเพราะเห็นว่ามันคือผลดีต่อบริษัท ในช่วงแรกทุกคนก็หัวเราะกับโปรเจคผมว่า “โปรเจคอะไร ทำคนเดียว”
ผมใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองถึง3ปี กว่าจะสำเร็จและโปรเจคที่ผมทำสำเร็จนั้นก็คือ แผนกที่คุณทุกคนนั่งทำงานอยู่ตอนนี้ ก็คือ การขยายธุรกิจแบรนด์ลูกไปในประเทศต่างๆนั้นเอง
ตลอดเวลา3ปีผมไม่เคยรู้สึกว่าง่าย แต่ผมตั้งใจและพยายามทำตลอดมา ผมตั้งเป้าว่า 5 ปี ถ้าไม่สำเร็จ ผมจะต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า เรามาถูกทางหรือป่าว
แต่สิ่งเหล่านี้ที่ผมทำ บริษัทไม่ได้บังคับให้ผมนะครับ ผมเลือกที่จะทำเพราะเห็นว่าคือผลดีของบริษัท และสุดท้ายผลลัพธ์มันออกมาได้ด้วยดี ผมก็เลยกลายขึ้นมาเป็นคนบริหารสิ่งนี้
1
มันเลยกลายเป็นมุกตลก เป็นโจ๊กในบริษัทว่า ผมปูทางให้ตัวเองมาบริหารสิ่งนี้เอง เลยกลายเป็นผู้บริหาร ผมก็ไม่เถียงนะครับ ออกจะดี เพราะถ้าผมไม่ทำสิ่งนี้ ตอนนี้ผมอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานโต๊ะๆข้างๆคุณก็ได้
3. คิดบวก และ สร้างความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ
ข้อนี้คืออีกคุณสมบัติหลักของสุดยอดพนักงาน
ทุกคนพอรู้กันมาแล้วบ้างว่า บริษัทเรามักจะส่งเสริมพนักงานทุกคนไปอบรมหรือเรียนรู้ต่อยอดในด้านต่างๆอยู่ตลอดถ้ามีความคิดสร้างสรรค์
-และเรื่องการคิดบวก คือสิ่งที่จะดึงดูดคนเข้ามาหาคุณไม่ว่าจะเป็นลูกค้า เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือแม้แต่โอกาสดีดี
มีใครบ้างที่ไม่ชอบอยู่ใกล้คนอารมณ์ดี คนมีความคิดดีดี เช่นตัวผมเอง ผมจะชอบอยู่กับคนที่คิดบวกมากๆเพราะงานผมค่อนข้างเครียด แต่ถ้ามีคนที่คิดบวกอยู่ใกล้ๆก็ทำให้บรรยากาศงานมันดีขึ้นได้
-ความคิดสร้างสรรค์ สิ่งนี้คือสิ่งที่จะต่อยอดความ
สามรถของคุณเอง ถ้าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำอะไรต่างๆ มันจะสร้างความโดดเด่นให้ตัวคุณเองด้วย
สังเกตมั้ยครับ ทุกวันนี้เราแทบตามโลกไม่ทันแล้วเพราะคนเอาความคิดสร้างสรรค์มาแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้น บริษัทเราจึงต้องการคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากๆ
4. คนซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบ
คุณสมบัติเบื่องต้นของทุกคนที่ต้องมี ไม่ว่าการทำงาน หรือการใช้ชีวิต
ถ้าคุณขาดสิ่งนี้ คุณไม่สามารถเข้าใกล้ความสําเร็จในชีวิตได้อย่างแน่นอน ถ้าคุณไม่ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบ
ผมกำลังพูดถึงการซื่อสัตย์กับตัวเองและองค์กร การที่คุณไม่มีความจริงใจกับองค์กร หรือคดโกงองค์กร ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดามากๆที่คุณจะไม่มีความเจริญก้าวหน้าเลย
ความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน ความรับผิดชอบทั้งกับเรื่องงานที่ได้รับมอบหมาย ความรับผิดชอบการตรงต่อเวลา เรื่องง่ายๆเหล่านี้เราควรฝึกเป็นนิสัยเราเลย
เพราะถ้าคุณทำข้อนี้ได้ ไม่ใช่แค่องค์กรจะรักคุณ
คนรอบข้างก็รักคุณด้วยเหมือนกัน
5. เป็นคนที่น่ารัก
ในข้อนี้ผมไม่ได้หมายถึงเรื่อง รูปลักษณ์ภายนอกนะครับ ผมกำลังหมายถึง การเป็นคนที่น่ารักกับองค์กรและเพื่อนร่วมงาน
หมายถึงยังไง? ก็คือ การถ่อมตัว การมีมารยาท สิ่งนี้คือสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะมันจะทำให้เราถึงความสําเร็จได้ง่ายมาก เพราะ มีแต่คนรักคุณ เวลามีอะไรคนอื่นก็อยากเข้ามาช่วย และถ้าคุณเป็นคนที่น่ารักกับองค์กร เมื่อคุณต้องการจะทำอะไร องค์กรก็จะพร้อมซัพพอร์ตคุณทุกอย่าง และองค์กรจะขาดคุณไม่ได้เลย
ทำยังไงถึงจะน่ารัก? ง่ายๆเลย การมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน การมีมารยาทเวลาทำอะไรต่างๆ และเวลาทำอะไรสำเร็จมา คือการถ่อมตัวไม่ไปกดคนอื่น และจะดีมากถ้าเรากล้าที่จะแบ่งเครดิตให้คนอื่นด้วย แม้เค้าจะช่วยคุณเพียงเล็กน้อยก็ตาม แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่อยู่ในใจเค้าได้เลย
5 ข้อนี้ที่ผมพูดมา มันไม่ได้มีอะไรที่มันยากเกินกว่าความพยายามของทุกคนเลย
สังเกตมั้ยครับ ผมไม่เคยขอให้คุณเป็นคนเก่งเลย
เพราะผมก็ไม่ใช่คนเก่งเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเก่งมากแบบ อัจฉริยะ
เพียงแค่ทำสิ่งที่ผมบอกคุณมาใน5 ข้อนี้ และพยายามทำอยู่เสมอ บริษัทก็ขาดคุณไม่ได้แล้ว
ครับผมและนี้คือเรื่องราวที่ผมอยากนำมาแบ่งปันเพื่อนๆในเพจออฟฟิศโลกแตก
เป็นเรื่องราวของการพัฒนาตัวเองง่ายๆ โดยที่คุณไม่ต้องเป็นคนที่เก่งมาก แต่เพียงแค่คุณทำตาม5ข้อนี้
อยู่เป็นประจำ บริษัทก็ขาดคุณไม่ได้แล้ว ย้ำนะครับทำอยู่ตลอดเป็นประจำ
ออฟฟิศโลกแตกหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
โฆษณา