6 ก.ย. 2020 เวลา 09:55 • ยานยนต์
ค่าส่วนร่วมซ่อม มักจะมาจากรอยแผลเก่าคือรอยเเผลที่เกิดก่อนทำประกัน หรือไม่ได้แจ้งเคลมรอยแผลมาจากบริษัทประกันเดิม หรือลืมแจ้งในศัพท์ประกันจะเรียกว่า “รอยแผลรีมาร์ค” หากแจ้งเคลมความเสียหายของรอยรีมาร์คบริษัทประกันที่ใหม่จะไม่รับผิดชอบรอยแผลที่มาติดมากับรถ แต่หากเกิดเหตุซ้ำแผลนั้นแล้วทำให้ความเสียหายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ประกันจะให้ความคุ้มครอง โดยผู้เอาประกันจะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อรายการความเสียหายชิ้นที่มีรอยแผลอยู่ก่อนแล้ว 50% ในอุปกรณ์ชิ้นนั้น แต่หลังจากมีการจัดซ่อมในความเสียหายนี้ร่วมกับประกันแล้ว ความเสียหายในครังต่อไป บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองเต็มจำนวน เพราะถือว่ามีการจัดซ่อมให้อุปกรณ์ชิ้นนั้นกลับสู่สภาพปกติแล้ว แล้วค่าส่วนซ่อมอะไรบ้างที่เราต้องมีค่าใช้จ่ายร่วมกับประกัน
การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของเครื่องยนต์กลไก ความเสียหายที่เป็นผลจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน การเสื่อมสภาพการใช้งาน กรมธรรม์ประกันภัยจะไม่คุ้มครองความเสียหายในกรณีดังกล่าว อันไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ แต่หากเกิดอุบัติเหตุจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองแต่จะต้องมีส่วนร่วมจ่ายในอุปกรณ์ชิ้นที่มีความเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
ความเสียหายแบตเตอรี่ ของเหลว กลไก
หากเกิดอุบัติเหตุจนถังเชื้อเพลิง หรือถังบรรจุของเหลวต่างๆ เสียหาย บริษัทประกัน จะมีส่วนร่วมในการจ่ายค่าของเหลวนั้นๆ โดยหักค่าเสื่อมราคาตามสมควรแต่ถ้าเป็นการเอารถเข้าซ่อมบำรุงที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุเจ้าของรถหรือผูเ้อาประกันภัยมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าของเหลว เช่น แบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรกด้วยตนเอง เว้นแต่ในกรณีที่ถูกรถคันอื่นชน อุบัติเหตุนี้จะสามารถเบิกเป็นค่าขาดประโยชน์ทดแทนได้
ความเสียหายต่อยางรถยนต์คุ้มครอง 50%
เฉพาะกรณีรถยนต์ประสบอุบัติเหตุเป็นเหตุให้ยางรถยนต์เสียหายบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครอง แต่หากยางเกิดการฉีกขาดหรือระเบิดจากสภาพการใช้งานปกติ ยางมีการเสื่อมสภาพ ความเสียหายนี้จะไม่ได้รับความคุ้มครอง เว้นแต่ในกรณีที่ถูกรถคันอื่นชน อุบัติเหตุนี้จะสามารถเบิกเป็นค่าขาดประโยชน์ทดแทนได้
ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจะต้องมีหน้าที่รักษารถยนต์ของตนให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีเพราะเมื่อเกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น หรือต้องประสบอุบัติเหตุอื่น เนื่องจากการใช้รถยนต์ก่อนที่จะมีการซ่อมแซม ไม่ได้มีการดูแล เมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ หรือเครื่องยนต์กลไกเสีย เสื่อมสภาพ ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้น เช่น เบรกใช้การได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือยางอยู่ในสภาพที่ไม่มีดอกยาง เสื่อมสภาพไม่พร้อมใช้งาน แต่หากยังมีการนำไปใช้ ก็จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงหรือหากในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้หม้อน้ำรั่วแต่ผู้เอาประกันภัยไม่แจ้งประกัน และยังฝืนขับขี่ต่อโดยที่ไม่มีน้ำในหม้อน้ำ ทำให้ความร้อนขึ้นสูงและเครื่องยนต์เกิดความเสียหายที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นความเสียหายดังกล่าวนั้นผู้เอาประกันภัยอาจจะต้องรับผิดชอบเอง
อย่างไรก็ดีการเคลมประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันจะจ่ายให้ตามความเสียหายที่แท้จริง ดังนั้น ควรต้องมีการประเมินค่าความเสียหายจาก บริษัท ประกันเสียก่อนจึงจะทำการจัดซ่อม ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเกินกว่าราคาที่บริษัทประกันประเมินไว้
โฆษณา