7 ก.ย. 2020 เวลา 01:22 • ความคิดเห็น
คนรุ่นใหม่กับอนาคตประเทศไทย
โดย อจ. ประเวศ วะสี
• คนรุ่นใหม่จะมาแทนคนรุ่นเก่า จึงเป็นอนาคตของประเทศไทย คนรุ่นใหม่ยิ่งเก่งยิ่งดี อนาคตประเทศไทยยิ่งรุ่งโรจน์
• คนรุ่นเก่าจึงควรถนอมรักคนรุ่นใหม่ และส่งเสริมให้เขาเก่งและดี เขาก็คือลูกหลานของเรานั่นเอง
• แต่ใหม่ไม่เหมือนเก่า เพราะสรรพสิ่งล้วนเป็นอนิจจังตามพระพุทธดำรัส ไม่มีอะไรอยู่คงที่หรือนิจจังโดยไม่เปลี่ยนแปลง
• ที่เปลี่ยนก็เพราะมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เปลี่ยน หรือความเป็นเหตุเป็นผลที่เรียกว่าอิทัปปัจจยตา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆโดยไม่มีเหตุ
• การที่ลูกหลานไม่เชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์เหมือนเดิม ไม่ใช่เขาเป็นคนเลว ถ้าคิดว่าลูกเลว พ่อแม่จะมีความทุกข์สูงสุด
• ทางพุทธศาสนาถือว่าทุกข์เกิดเพราะ “อวิชชา” คือความไม่รู้ ไม่รู้ความจริง ผมเคยอธิบายให้แม่ที่มีความทุกข์เพราะลูกหายทุกข์ทันทีเมื่อรู้ความจริง
• ความจริงก็คือมีเหตุให้เป็นเช่นนั้น ในสมัยโบราณ ผู้เยาว์ได้รับข้อมูลเฉพาะจากพ่อแม่และครู จึงเชื่อฟังพ่อแม่และครู
• สมัยปัจจุบัน ข้อมูลมาจากทุกทิศทุกทางอย่างหลากหลาย คนรุ่นใหม่จึงไม่เชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์เหมือนคนรุ่นเก่า
• ยิ่งยัดเยียด ยิ่งห้ามปราม ยิ่งอยากทำ เหมือนกันทั่วโลก มันเป็นเช่นนั้นเอง เพราะมีเหตุปัจจัยให้เป็นเช่นนั้น ตถาตา
• คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่มีจุดอ่อนจุดแข็งที่จะเสริมกัน คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ยาวแต่อนาคตสั้น คนรุ่นใหม่อนาคตยาวแต่ประสบการณ์สั้น
• มหาตมะคานธีกล่าวว่า ถ้าคุณเรียนจากตำราคุณได้ความรู้ แต่ถ้าคุณเรียนจากประสบการณ์คุณได้ปัญญา
• คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางปัญญาอย่างวิเศษ แต่อาจขาดพลังขับเคลื่อนสู่อนาคตที่คนรุ่นใหม่มีมากกว่า
• ฉะนั้น การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริงระหว่างเก่ากับใหม่จะตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และนำไปสู่ความสุขประดุจบรรลุนิพพาน
• คนรุ่นเก่าก็ได้ถนอมรักลูกหลาน และเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ก็จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของความล้มเหลวหรือสำเร็จของอดีต
• ที่สำคัญ สมองส่วนวิจารณญาณสูงสุด ที่เรียกว่า Prefrontal Cortex ของคนก่อนวัยเบญจเพสยังพัฒนาไม่เต็มที่
• คนรุ่นใหม่ที่ยังเยาว์วัยจึงถูกฮอร์โมนเร่งเร้าให้พุ่งทะยาน อาจขาดความยับยั้งชั่งใจ ก่อความรุนแรงได้ง่าย
• “การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ (Interactive learning through action) ในสถานการณ์จริง” เป็นเครื่องมืออันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ก้าวข้ามอุปสรรคและข้อจำกัดทุกเรื่อง
• ทิศทางอนาคตประเทศไทยและของโลกหลังโควิดจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทิศทางเดิมที่ล้มเหลวหมดยุคลงแล้ว
• ทิศทางใหม่ต้องเริ่มต้นการเห็น หรือทิฐิใหม่ ทิฐิแปลว่าเห็น การเห็นใหม่คือเห็น “ความจริง” ทิศทางเก่าของโลกเห็นผิดจึงล้มเหลว
• ที่ว่าเห็นผิดคือเห็นเป็นส่วนๆ หรือเห็นบางส่วน หรือเห็นแบบแยกส่วนความจริงคือธรรมชาติทั้งหมดเชื่อมโยงเป็น “องค์รวม” (Wholeness) หนึ่งเดียวกัน (Oneness)
• เมื่อเห็นแบบแยกส่วนก็ทำอะไรๆแบบแยกส่วน ซึ่งนำไปสู่การเสียสมดุล โลกเสียสมดุลหมดทุกมิติ จึงวิกฤต และโควิดจึงมา
• ทิศทางอนาคตคือการเห็นทั้งหมด และพัฒนาอย่างสมดุล การจัดการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนกับคน และระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อมในทุกระดับ
• ตั้งแต่ชุมชนขนาดเล็กที่คนอยู่ร่วมกันด้วยความสุข ไปจนถึงชุมชนขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ ตามสมรรถนะของจัดการให้มีความสมดุล
• การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริงระหว่างคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ หรือระหว่างทุกฝ่าย จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง (Transformation) ในทุกมิติ
• ที่ยิ่งทำยิ่งรักกันมากขึ้น ยิ่งไว้เนื้อเชื่อใจกัน (Trust) มากขึ้น ยิ่งเสมอภาคและมีภราดรภาพมากขึ้น ยิ่งฉลาดมากขึ้น ยิ่งฉลาดร่วมกัน (Collective wisdom) มากขึ้น ยิ่งเกิดนวัตกรรมและอัจฉริยภาพกลุ่ม (Group Genius) มากขึ้น ยิ่งสามารถหนีความยากไปสู่ความสำเร็จมากขึ้น ยิ่งมีความสุขมากขึ้นประดุจบรรลุนิพพาน
• แทนที่จะมีความทุกข์และคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นความสุขร่วมกันประดุจบรรลุนิพพาน เพราะความสิ้นไปของ “อวิชชา” โดยแท้"
โฆษณา