แล้วผมก็เอาต้นข้าวมาอธิบายโดยหันไปทางลูกชายแก ซึ่งเรายืนคุยกันใต้ต้นมะพร้าว พอผมหันหน้าจะคุยกับลูกขายป้า ป้าแกบอกกับผมว่า
" คุยกับป้านี่แหละ ลูกป้าเป็นใบ้คุยกับมันไม่รู้เรื่องหรอก เดี๋ยวป้าจะคุยกับลูกป้าเอง"
"ป้าครับ ข้าวของป้าเป็นโรคชนิหนึ่งเรียกอีกอย่างว่า พุ่มแจ้ แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า โรคจู๋ มีเพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวมันนำมา เหมือนกับยุงนำเชื้อไข้มาเลเรียจากคนหนึ่สู่อีกคนหนึ่งแหละครับ ถ้าเพลี้ยจั๊กจั่นตัวนี้เปรียบเป็นยุง ตันข้าวคือคน มันดูดี กินน้ำเลี้ยงข้าวที่เป็นโรค พอมันดูดน้ำเลี้ยงต้นอื่นข้าวต้นนั้นก็เป็นโรคตามไปด้วย "
" เอ แต่ว่าในนาป้าไม่ค่อยมีแมลงนะ "
"มันไม่ต้องมีเยอะหรอกครับ มีตัว สองตัว แต่ถ้ามันมีเชื้อโรคนี้อยู่มันก็ติดต่อได้ ตอนนี้นาข้าวของป้าเป็นโรคนี้แล้วละครับ "
"แล้วเราจะแก้ไขอย่างไรล่ะ "
" ถ้าเป็นโรคนี้ แก้ไขไม่ได้หรอกครับ มันจะเขียวแล้วแคระอย่างนี้แหละครับ แล้วไม่ออกรวง ป้าต้องไถทิ้งแล้วละครับ "
ป้ามีสีหนัาสลดเห็นได้ชัด แต่ผมจำเป็นต้องพูด ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวป้าไปซื้อปุ๋ยมาใส่ ซื้อยามาฉีดยิ่งเสียเงินกันใหญ่ บอกเรื่องจริงให้ทราบเพื่อหยุดค่าเสียหายก่อนจะมีมากกว่านี้