1.โกโก้พืชอนาคต-ต้นไม้ของพระเจ้า
ชาวยุโรปค้นพบประโยชน์จากเมล็ดโกโก้ในทวีปอเมริกากลางเมื่อปีคศ.1502โดยนักสำรวจชาวสเปนชื่อเฮอร์นานโด คอร์เตซและเกิดคำว่า”ช็อคโกแลต”ที่ทำจากโกโก้ในปีคศ.1528สมัยกษัติรย์คาร์ลอสที่1แห่งสเปน(ประมาณกลางสมัยอยุธยาของเรา)จากนั้นแพร่หลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกจนมีการกำหนดให้วันที่ 7 กรกฎาคม เป็นวันช็อคโกแลตโลก (World Chocolate Day)และมีการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนแอนนิเมชั่นเรื่อง ชาร์ลี ช็อคโกแลต แฟคตอรี่ (Charlie and the Chocolate Factory)ในปี2005จนต่อมามีร้านชื่อChocolate Factoryในเมืองไทยก็มีหลายแห่ง
ตามบันทึกประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 3,000 ปีพบว่าชนเผ่าโอลเมค (Olmec) ซึ่งเป็นชนเผ่าเเรกที่ครอบครองถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณป่าดงดิบเขตร้อนทางตอนใต้ของเวลาครูซ (Veracruz) บนอ่าวเม็กซิโกทำการเพาะปลูกต้นโกโก้เพื่อใช้เป็นอาหาร จากนั้นเป็นเวลาหลายร้อยปีภายหลังการล่มสลายของอาณาจักรโอลเมค ชนเผ่ามายา (Maya) ได้สถาปนาอาณาจักรของตนเองขึ้นมาบริเวณที่ราบกว้างใหญ่ ตอนใต้ของประเทศเม็กซิโกในปัจจุบัน ชนเผ่ามายาเรียก ต้นโกโก้ว่า “cacahuaquchtl” เเละเชื่อว่าเป็นต้นไม้ของพระผู้เป็นเจ้า เเละ ผลโกโก้ที่ออกบริเวณลำต้นเป็นของขวัญที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาให้มนุษย์

ปัจจุบัน แหล่งเพาะปลูกต้นโกโก้ที่สำคัญคือกลุ่มประเทศในแอฟริกาตะวันตก โดยร้อยละ 70 ของผลผลิตโกโก้ทั่วโลกมาจากแอฟริกา และกว่าร้อยละ 60 มาจากประเทศไอวอรีโคสต์ (หรือประเทศโกตดิวัวร์) และกานา(ประเทศนำเข้าข้าวไทยใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง)ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตโกโก้มากที่สุดสองอันดับแรกในโลกและในทวีปอเมริกากลางสามารถปลูกเติบโตได้ดีเช่นเดียวกับภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็เหมาะมากสำหรับปลูกโกโก้ เช่นไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น
จากผลโกโก้นำเมล็ดมาหมักแล้วตากแห้งก่อนกะเทาะเปลือกได้เนื้อโกโก้จึงนำมาแยกเป็นโกโก้ผง น้ำมันโกโก้ โกโก้บัตเตอร์มีผลิตภัณฑ์โกโก้ผงชงดื่มเป็นเครื่องดื่มสุขภาพช่วยบำรุงหัวใจและสมอง
มูลนิธิโกโก้โลก(WCF)รายงานปี2563ว่ามีความต้องการเมล็ดโกโก้(Cocoa bean)ปีละกว่า3ล้านตัน

2.ช็อคโกแลต ของหวานเบอร์1ของโลก
ช็อคโกแลตทำจากโกโก้แปรรูปมีแบบดาร์กช็อคโกแลต(Dark Chocolate)ผสมนมเรียกว่ามิลค์ช็อคโกแลต(Milk Chocolate)และช็อกโกแลตขาว(White Chocolate)หรือช็อคโกแลตที่ใส่ผลไม้ใส่ถั่วหรือเคลือบเวเฟอร์เป็นขนมในหลากหลายรูปแบบจัดเป็นประเภทของหวานอันดับ1ของโลกมีแบรนด์ดังๆระดับโลกเช่นLindt ,Ferraro Rocher, Guylian ,Toffifee, M&M ,Dcolse, Kinder Bueno ,Ducd’O, Maxinm เจ้าของยี่ห้อปังๆเหล่านี้ล้วนอยู่ในยุโรปและอเมริกาเหนือเช่นสวิตเซอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สหรัฐ ฯลฯซึ่งร่ำรวยมั่งคั่งจากโกโก้และช็อคโกแลตมาหลายร้อยปีทั้งที่ไม่มีต้นโกโก้แม้แต่ต้นเดียว ส่วนญี่ปุ่นมาทีหลังแต่มาแรงออกช็อคโกแลตหลายยี่ห้อเช่น
Meltykiss, Kitkat, Muji, Tea Chocolate Matcha7 และ Royceช็อคโกแลตนุ่มลิ้นถูกปากคนไทยมากๆ
คาดหมายว่าตลาดค้าขายช็อคโกแลตจะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 1.7แสนล้านดอลลาร์(กว่า5ล้านล้านบาท)ต่อปีภายในปี2026