8 ก.ย. 2020 เวลา 07:24 • การเกษตร
ตามหาเห็ดหลินจือป่า(ไผ่)
ภาพอ้างอิงจากแหล่งรับซื้อ
เห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีผู้นิยมใช้ในการบำบัด และป้องกันโรค ทั้งใช้บำรุงร่างกาย มานานกว่า 4,000 ปี หลินจือที่พบทั่วโลกมีกว่า 2,000 ชนิด แต่มีประมาณ 200 ชนิด ที่สามารถรับประทานได้โดยปลอดภัย และเป็นที่นิยมอย่างสูงในจีน ญี่ปุ่น อเมริกา ทั้งยังได้แพร่กระจายไปทั่วโลก
และหนึ่งใน 200 ชนิดนั้น ก็คือสายพันธุ์ ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และ มักจะขึ้นตามป่าไผ่เท่านั้น ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า "หลินจือป่าไผ่"
ดังนั้น วันนี้ผู้เขียนจะพาเข้าป่าไปดูเห็ดหลินจือสายพันธ์ที่ว่านี่กัน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย
เห็นภูเขาข้างหน้านั่นมั้ย? นั่นแหล่ะเราจะไปกัน
เรามาเริ่มต้นที่สวนของผู้เขียนก่อน จากนั้นก็วางแผน(คนเดียว) ว่าจะไปทิศทางใดดี
โอเค...พร้อมแล้ว เริ่มออกเดินทางเข้าป่าหาเห็ด
ใกล้ถึงแนวป่าแล้ว แฮก แฮก (เสียงหอบ)
ผู้เขียนใช้เวลาเดินลัดเลาะมาไม่นานก็มาถึงแนวป่า
ผักเหลียง ทำแกงเลียง หรือผัดใส่ไข่ก็อร่อยคือกัน
ที่สุดแล้วก็เข้ามาถึงจุดที่วางแผนใว้ เดินหาแล้ว ตามกอไผ่ กอแล้ว กอเล่า ก็ยังไม่มีวี่แวว งานนี้สงสัยจะเหลว การเดินต้องระวัง หูตาให้ใว ป่านี้ยังคงมีสัตว์ป่าจำพวก เก้ง กวาง ลิง ค่าง บ่าง ชนี แล้วก็ หมี แต่สิ่งที่ผู้เขียนเอ่ยมา ถ้าดวงไม่ซวยจริงๆไม่เจอมันหรอก เพราะผู้เขียนตั้งใจมา วางแผนดี ฉีดน้ำหอมมาฟอดใหญ่ อย่างน้อยๆมันจะได้กลิ่นเราแต่ไกล แล้วหนีไปก่อนจะพบเรา (คราวหน้าผู้เขียนจะพาไปแกะรอยหมี)
แต่กับเจ้างูจงอางนี่สิ ไม่ได้เลย เขตป่าของจังหวัดระนอง จงอางเยอะมาก
ไผ่ป่าชนิดนี้เห็ดไม่ขึ้น ส่วนหน่อไม้นำมาทำอาหารได้แต่คนท้องถิ่นไม่นิยม
ไหนๆ ก็มาหาเห็ดตามป่าไผ่กันแล้ว ก็ขอพูดเรื่อง ไผ่ป่าในแถบนี้ซะเลย
ไผ่ป่าที่นี่มีหลายสายพันธ์ุ จะมีไผ่หนาปล้องลาย ไผ่ปล้องเขียว ไผ่ป่าขนดำ(ความยาวระหว่างข้อห่างกัน1เมตร-1.50 เมตร) และก็ไผ่บาง หรือไผ่เกียบ (ชื่อไผ่ผมเรียกตามคนท้องถิ่น) ไผ่หนาเนื้อไม้มันหนามาก หนาประมาณ 1"-2"เลย ส่วนไผ่บางเนื้อจะหนาแค่1/2" คนนิยมนำมาใช้สานทำเข่งใส่ถ่านเพราะเนื้อไม้ไม่แข็ง ส่วนหน่อไม้ก็นำมาทำอาหาร อร่อยกว่าไผ่หนา (ไผ่หนารสชาดจะออกขม)
ไผ่หนาปล้องลาย
แต่ความน่ารักของไผ่ป่าที่นี่ เขาจะไม่มีหนาม
ไผ่บาง หรือ ไผ่เกียบ
ช่วงนี้หน่อไม้ไผ่ป่ากังลังโผล่จากดิน เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงอุบลฯ (บ้านเกิด)
อยากจะสับเอามาทำหน่อไม้ดองแล้วเอาไปฝากญาติๆ พี่ๆ น้องๆ ใว้แกงใส่ปลาช่อน(ใส่ผักกะแยงนำเด้อ)
หน่อไม้
ผมเดินมาสักพัก คอเริ่มแห้ง มีความรู้สึกว่ากระหายน้ำแล้ว เป็นความผิดพลาดของผู้เขียนเองที่ลืมนึกเรื่องน้ำดื่ม (จะกลับดีมั้ย)
เดินไปหาแหล่งน้ำกันเถอะ
หลินจ๋า หลินอยู่ไหน
แหล่งน้ำในป่า ผู้เขียนมีกฎอย่างเคร่งครัด ก่อนดื่มจะต้องต้มสุกก่อน ไม่งั้น มาลาเรีย หรือฉี่หนูถามหาแน่ งั้นตัดไม้ไผ่มาใส่น้ำแล้วต้มดื่มดีกว่า คิดได้ดังนั้น,,,อ๊ะ!?! ไม่มีไฟแช็คติดตัวมาเลย ( ฮ่วยยย มะส่างหว่า) เราไม่ใช่แบกิล หาวิธีที่ง่ายกว่านั้น
หวายเลา
แล้วที่สุด ผู้เขียนก็พบแหล่งน้ำบริสุทธิ์แล้ว นั่นไง "หวายเลา"
น้ำดื่มมันอยู่ตรงนี้
ผู้เขียนเดินตรงเข้าไปเก็บภาพ ก่อนจะใช้มีดดาบซามูไรฟันฉับ ฉับ ขาดเป็นท่อนๆ (ให้มันดูตื่นเต้นนิดนึงเนอะ)
จะมีน้ำใสๆไหลออกมา
ทัดใดนั้น น้ำใสๆ ก็ไหลออกมา จากลำหวายที่เราตัด
ต้องคัดเฉียงแบบนี้
ไม่ต้องคิดแล้ว ยกขึ้นดื่มเลย
ชื่นใจมาก
รสชาดจืด แต่เย็นชื่นใจได้พลังงานกลับคืนมา
แซบมาก
เอาล่ะครับทีนีก็ไปลุยกันต่อเลย เราจะต้องเจอสินะ ปรารถนาสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น
เห็ดหลินจือป่า(ไผ่)
แล้วที่สุด ผู้เขียนก็นำพาท่านผู้อ่านมาพบจนได้ เห็ดหลินจือป่าไผ่
ขอจับหน่อย
จากข้อมูลบอกว่า เห็ดหลินจือ สายพันธ์ุนี้ รับซื้อกันอยู่ กิไลกรัมละ 500-600 บาท เลยทีเดียว
ดอกเริ่มแก่มากแล้วดูจากสีที่ซีด
สำหรับทริปนี้ผู้เขียนก็ขอจบใว้เพียงเท่านี้ ใว้พบกันทริปหน้า
#อย่าลืมกดติดตามให้ครบ100 คนนะครับ ผู้เขียนจะทำคลิปแนวตะลุยป่าพาขึ้นเขา
บุกๆลุย
สวัสดีครับ
DiamondDDt.
โฆษณา