10 ก.ย. 2020 เวลา 06:01 • ไลฟ์สไตล์
[บทความที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ] รู้หรือไม่ จุลินทรีย์ Microbiome ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค วิตามินต่างๆ และยังปกป้องผิวหนังของคุณได้ด้วย
The Center for Ecogenetics and Environmental Health - มหาวิทยาลัยวอชิงตัน รายงานว่า จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีส่วนสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสารอาหารต่างๆที่จำเป็นสำหรับร่างกาย
งานวิจัย ชี้ว่า มนุษย์หนึ่งคน มีจุลินทรีย์อาศัยอยู่ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย อยู่มากถึง 100 ล้านล้านตัว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า จำนวนเซลล์ในร่างกายมนุษย์ถึง 10 เท่า โดยนักวิทยาศาสตร์เรียกจุลินทรีย์เหล่านี้ว่า “จุลินทรีย์ไมโครไบโอม" (Human Microbiome)
จุลินทรีย์ไมโครไบโอม (Human Microbiome) คืออะไร?
จุลินทรีย์ไมโครไบโอม (Human Microbiome) เป็นจุลินทรีย์ที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบทางพันธุกรรมทั้งหมดของแบคทีเรียและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
จำนวนยีนส์ของจุลินทรีย์ไมโครไบโอมที่พบในมนุษย์ มีมากกว่าจำนวนยีนส์ในจีโนมของมนุษย์ถึง 200 เท่า และมีน้ำหนักรวมกันถึง 2 กิโลกรัม
จุลินทรีย์ไมโครไบโอมอาศัยอยู่ทั้งภายในและภายนอกร่างกายมนุษย์ โดยอาศัยอยู่ทั้งบนผิวหนังและภายในเนื้อเยื่อ หรือในสารคัดหลั่งของอวัยวะต่างๆ ได้แก่ ต่อมน้ำนม รก น้ำอสุจิ มดลูก รังไข่ ปอด น้ำลาย เยื่อบุช่องปาก เยื่อบุตา ท่อน้ำดี และในระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่ปาก หลอดอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่
จุลินทรีย์เหล่านี้เกิดได้ตามธรรมชาติ และมีอยู่ในตัวของเราทุกคน มีทั้งที่เป็นแบคทีเรีย อาร์เคีย เชื้อรา โปรติสต์ และไวรัส
และจุลินทรีย์เหล่านี้ สามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้
แล้วจุลินทรีย์ไมโครไบโอมจำนวนมากมายขนาดนี้ ส่งผลต่อมนุษย์อย่างไร
มีงานวิจัยรายงานว่า แบคทีเรียบางชนิดที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร ควบคุมระบบภูมิคุ้มกันโรค ต่อต้านแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดโรคกับร่างกาย
นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน บี12 (Vitamin B12), ไทอามีน (Thiamine) ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) วิตามินเค (Vitamin K) ซึ่งมีผลต่อการเเข็งตัวของเลือด
ทำให้จุลินทรีย์ไมโครไบโอม มีส่วนสำคัญ ในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสารอาหารต่างๆที่จำเป็นสำหรับร่างกาย
แต่เนื่องจากจุลินทรีย์มีทั้งชนิดที่ดีและไม่ดีต่อร่างกายมนุษย์ หากร่างกายสูญเสียสมดุล จำนวนจุลินทรีย์ไมโครไบโอมลดลง และมีการเพิ่มขึ้นของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเป็นจำนวนมาก จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเกิดความผิดปกติ โดยภูมิคุ้มกันจะพยายามต่อต้านและทำลายจุลินทรีย์เหล่านี้ แต่เมื่อจุลินทรีย์เหล่านี้อาศัยอยู่ในร่างกายเรา ทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายส่งผลเสียของร่างกายของเราเสียเอง
มีการศึกษาพบว่า โรคในกลุ่มที่มีอาการแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เช่น โรคเบาหวาน (Diabetes) โรครูมาตอยด์ (Rheumatiod) โรคไขข้ออักเสบ (Arthritis) โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular dystrophy) โรคปลอกประสาทเสื่อมเเข็ง (Multiple Sclerosis) และ โรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) ความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร หรือแม้แต่โรคมะเร็งในลำไส้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ส่วนมากภายในร่างกาย มีสาเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดปกติของจุลินทรีย์ไมโครไบโอม
งานวิจัยชี้ยังว่า จุลินทรีย์ไมโครไบโอมในลำไส้ของคนอ้วน มีความหลากหลายน้อยกว่าจุลินทรีย์ไมโครไบโอมในลำไส้ของคนผอม และมีระดับเอนไซม์มากกว่า ซึ่งทำให้คนอ้วน สามารถย่อยอาหารและดูดซึมแคลอรี่ได้ดีกว่ามาก จึงมีความเป็นได้ว่า โรคอ้วน มีส่วนเกี่ยวข้องกับความไม่หลากหลายของจุลินทรีย์ไมโครไบโอมในลำไส้
และการทดลองโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในสัตว์ ชี้ให้เห็นว่า การขาดความหลากหลายชนิดของจุลินทรีย์ในลำไส้ คือหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคนี้
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ ยังพบว่า มีจุลินทรี​ย์ดีอาศัยอยู่บนผิวหนังมนุษย์ หรือ ที่เรียกว่า "Skin Microbiome" อีกด้วย
ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการและสร้างภูมิคุ้มกัน รวมทั้งทำหน้าที่เสมือนเป็น ‘เกราะป้องกัน’ ให้กับผิวของเรา ผ่านการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของของเชื้อโรคบนผิวหนัง พร้อมทั้งป้องกันการเกิดอาการแพ้และการอักเสบอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาสมดุลและความหลากหลายของแบคทีเรียบนผิว เพื่อช่วยป้องกันมลภาวะ หรือสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย
ยิ่ง สกิน ไมโครไบโอม (Skin Microbiome) แข็งแรงมากขึ้น ก็ยิ่งจะส่งผลให้ผิวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
พึ่งมีการค้นพบ Microbiome ในปี 1990 นี้เอง การศึกษาค้นคว้า ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมาก โดยนักวิทยาศาสตร์หลายท่านมุ่งศึกษาค้นคว้า เพื่อพิสูจน์ว่า มนุษย์ไม่ควรทำลายจุลินทรีย์ไมโครไบโอม ในทางตรงกันข้าม ควรรักษาจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้ไว้ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี
แต่ในความเป็นจริง ในชีวิตประจำวันในปัจจุบัน เราทำลาย Microbiome โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะ การรับประทานอาหารที่มีสารที่ก่อให้เกิดพิษสะสมในร่างกาย อาหารแปรรูปที่มีวัตถุกันเสีย (Processed Food) หรือการใช้สารเคมีทาบนผิวหนัง เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนทำให้เราสูญเสียจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไป
นี่คือหนึ่งในเหตุผลว่าทำไม แพทย์หลายๆท่านหันมารับประทานอาหารที่ไร้สารพิษ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย หรือใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ 100% เพราะมีส่วนช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและรักษาจำนวนจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายไว้ได้นั่นเอง
W.M. Thailand Super Avocado Oil for Skin Care ร่วมสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ 100%
.
เขียนและโพสต์ครั้งแรกโดย W.M.Thailand
Super Avocado Oil for Skin Care
โฆษณา