Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A
A major 🎶
•
ติดตาม
16 ก.ย. 2020 เวลา 14:09 • บันเทิง
คุณครูวัย 11 ปี :: เก่ง อธิป กับเรื่องเล่าความเป็นครูตั้งแต่วัย Teenager
คงจะไม่ใช่ภาพหรือเรื่องที่เราคุ้นชินกันมากนัก ที่จะได้รับรู้ว่า มีครูที่อายุน้อยกว่านักเรียนหรือผู้เรียนรู้
เก่ง อธิป หรือที่นักเรียนที่เรียนร้องเพลง เรียนกีตาร์ คุ้นหู คุ้นปากกับชื่อที่เรียกกันด้วยความสนิทสนม คุ้นเคยว่า ครูเก่ง… ครูเก่งของเด็กๆ และของพี่ๆ อีกหลายคน
จะมีใครสักกี่คนรู้ว่า ครูเก่งของทุกคน เป็นครูมาตั้งแต่วัย 11 ปี
เส้นทางการเป็นครูของครูเก่ง เป็นมายังไง วันนี้เราได้ชวนครูเก่งมาเล่าเรื่องราว “ความเป็นครู” ของเขาให้เราฟังกัน
การสัมภาษณ์เป็นไปแบบเรียบง่าย สบายๆ เราเริ่มคำถามเปิดกว้างว่า ขอให้เก่งเล่าให้ฟังหน่อยว่า เก่ง หรือ เด็กชายอธิป ในตอนนั้น เริ่มมาเป็นครูได้ยังไง
เก่ง อธิป หรือครูเก่ง ในวัย 11 ปี
เก่งเล่าย้อนอดีตไปถึงสมัยที่เขาเริ่มต้นเดินตามความฝันของเขาด้วยการเข้าไปเป็นนักเรียนก่อน
“เรื่องความเป็นครูของผมนี่ มันเริ่มตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลยครับ… ในช่วงชีวิต part ที่ผมได้รู้จักและเรียนร้องเพลงกับครูแอน นันทนา บุญ-หลงครับ”
“หลังจากที่ผมชนะการประกวดร้องเพลงที่โรงเรียนอัสสัมชัญ (บางรัก) อะครับ ผมก็เป็นนักร้องประจำของโรงเรียน และได้ประกวดร้องเพลงในหลายๆ ที่ แล้วคือผมก็เริ่มมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และฝันเล็กๆ ละครับว่าอยากจะฝึกร้องเพลงให้จริงจังมากขึ้น คือตอนนั้น ผมเริ่มหลงรักเสียงเพลง และเริ่มอยากจะเป็นนักร้องจริงๆ จังๆ ขึ้นมาบ้างละครับ”
ตอนนั้นอายุเท่าไหร่ เราถามเก่ง
“ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบครับ” เก่งตอบ พร้อมรอยยิ้ม
เราบอกเก่งว่า… การสัมภาษณ์ครั้งหน้า ขอให้เก่งเล่าเรื่องราวสมัยประถมที่เก่งเคยประกวดร้องเพลงที่โรงเรียนอัสสัมชัญให้ฟังหน่อย เก่งตอบตกลง (โปรดติดตามตอนต่อไป)
“คุณพ่อคุณแม่เลยส่งผมไปเรียนร้องเพลงในคอร์ส Star Camp ซึ่งเป็นคอร์สของแกรมมี่ (GMM Grammy) ที่สอนให้เป็นศิลปินครับ ในตอนนั้นแกรมมี่ยังอยู่ที่ตึกซีมิค ที่อโศกอยู่เลยครับ ผมได้เรียนร้องเพลงกับครูแอน นันทนา บุญ-หลง แล้วคอร์สที่ 2 ผมก็เรียนต่อเนื่องกับครูแอนอีกครับ คอร์สนี้ชื่อ Star on Stage ครับ พอจบคอร์สที่ 2 แล้ว ตอนหลัง ครูแอนเห็นแววผมครับ ก็เลยคุยกับคุณพ่อคุณแม่และชวนให้ผมไปเป็นลูกศิษย์ครูแอนที่บ้าน เรียนที่บ้านครูแอนเลยครับ แล้วพอเรียนไปได้ซักพักนึง ครูแอนก็เลยฝึกให้ผมสอนร้องเพลง ปั้นผมเป็นครูเลยครับ ตั้งแต่นันทนาสตูดิโอตอนแรกๆ เลยครับ”
“ชีวิตความเป็นครูของผมก็เลยเริ่มมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ สำหรับ ‘คำว่าครู’ อะครับ เป็นครูตั้งแต่ 11 ขวบเลยครับผม”
ครูเก่ง อธิป และกลุ่มเยาวชน Khao Yai Young Artist ร่วมขับร้อง “เพลงเพื่อพ่อ” ที่ปาลิโอ เขาใหญ่
“ตอนนั้นจำได้ว่า… เราต้องเดินทางจากบ้านซึ่งอยู่แถวเจริญกรุงไปที่บ้านครูแอนที่อยู่แถวโชคชัยสี่ครับ ก็ต้องจัดการเรื่องเวลาเรียน เวลาเรียนร้องเพลง เวลาสอนร้องเพลง เวลาซ้อมร้องเพลง ต่างๆ ให้ลงตัวน่ะครับ ก็คือเราต้องแบ่งเวลาให้ดีครับ”
เราอดที่จะชื่นชมในความมานะตั้งใจจริงของเก่งไม่ได้ แต่เก่งกลับตอบมาว่า
“ผมขอยกความดีทั้งหมดให้คุณพ่อคุณแม่ และพี่สาว น้องสาวผมครับ… ในตอนนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ได้ดูแลเอาใจใส่ และสนับสนุนผมอย่างเต็มที่เลยครับ ทั้งสองท่านจะสลับกันพาผมไปเรียนร้องเพลง ไปสอนร้องเพลง ไปทำธุระต่างๆ และท่านก็ยังต้องบาลานซ์เวลาในการทำงานของท่านด้วยครับ… ส่วนพี่สาว น้องสาวของผม ก็คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดมาครับ… ผมมีวันนี้ได้ เพราะความทุ่มเทของคุณพ่อคุณแม่ กำลังใจ และพลังจากทุกๆ คนในครอบครัวมากกว่าครับ”
“ในระหว่างที่เป็นครูที่โรงเรียนของครูแอน โอกาสในชีวิตต่างๆ ของผมก็เริ่มเข้ามาครับ ผมก็ได้รับการฝึกและ turn เป็นนักพากย์ด้วยครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็เริ่มเป็นนักพากย์ที่อายุเกือบจะน้อยที่สุดในประเทศไทยละครับ ได้มีโอกาสทำงานกับทีมพากย์ของช่อง 7, ทีมพี่แอน นันทนา บุญ-หลง ครับ”
[ติดตามอ่านเรื่องราวการเป็นนักพากย์ของเก่ง อธิปได้ใน Blockdit ตอน ‘เรื่องเล่าของ เก่ง อธิป :: ผู้พากย์เสียงตัวละคร 5 ตัวใน Harry Potter’ ตามลิ้งค์นี้
https://www.blockdit.com/articles/5f2a5ec4b3e8e1020b109b56
]
เราถามเก่งว่า นอกจากสอนที่นันทนา สตูดิโอแล้ว เก่งยังได้สอนร้องเพลงที่ไหนอีกบ้าง
เก่งตอบมาว่า เขาเคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนร้องเพลงให้องค์กรหลายองค์กร รวมถึงเป็นกรรมการตัดสินการประกวดร้องเพลงของบริษัท องค์กร และมหาวิทยาลัย อาทิ โรงเรียน
อัสสัมชัญ, คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, วิทยาลัยพระเชตุพน, ศูนย์การค้า Paseo Mall และอื่นๆ
แล้วเก่งก็เลยไล่รายชื่อสถาบันสอนร้องเพลงที่เขาเคยทำงานเป็นครูมาให้เราฟังดังนี้
- อาจารย์พิเศษ สอนร้องเพลงที่ Jc Center มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลักสูตรนานาชาติ (BUIC)
- สอนร้องเพลงที่ Superstar Academy (ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น Superstar College of Arts)
- สอนร้องเพลงที่สถาบัน Music-Practice ในเครือ Guitar Overdrive Group
- อาจารย์พิเศษสอนร้องเพลงที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
- เปิดหลักสูตรอบรมการใช้เสียงที่ถูกต้องให้กับแผนกลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (Muangthai Smile Club)
- เปิดหลักสูตรอบรมและสอนร้องเพลงให้กับนักข่าวและกลุ่มสื่อมวลชนสายเศรษฐกิจและธุรกิจประจำ
เก่ง อธิป ในปัจจุบัน
ในช่วงเวลาที่เป็นครูมายาวนานถึง 20 ปี มีความประทับใจอะไรที่อยากจะเล่า อยากจะแชร์บ้างมั้ย เราถามเก่ง
เก่งตอบกลับมาว่า “เรื่องราวประทับใจจริงๆ มีอยู่หลายเรื่องนะครับ แต่เดี๋ยวผมเล่าซัก 2-3 เรื่องละกันครับผม”
“เรื่องแรกคือมีอยู่ปีหนึ่งในวันครู มีลูกศิษย์กลุ่มนึงเค้าเซอร์ไพรส์ผมด้วยการซื้อพวงมาลัยมาไหว้ผม มาเหมือน… ทำพิธีไหว้ครูอะครับ… ผมก็…เฮ้ยยย! ตอนนั้นเราก็ยังอายุไม่เท่าไหร่ น่าจะ 22-23 เองมั้งครับ คือผมรู้สึกครับว่า เราเอง เรายังต้องไปไหว้ครูในวันครูตอนเด็กๆ อยู่เลย ตอนนี้… ในช่วงเวลาเดียวกันเราก็โดนไหว้ในฐานะครูด้วย… ตอนนั้นมันตื้นตันมาเลยนะครับ… ผมรู้สึกภูมิใจ และตื้นตันใจมากๆ และนี่คือแบบ… ความเป็นครูจริงๆ ครับ”
เราถามเก่งว่า ส่วนใหญ่ลูกศิษย์อายุเท่าไหร่ เก่งเลยตอบมาว่า
“ลูกศิษย์ของผมก็มีอายุหลากหลายครับ ตั้งแต่เด็กวัยประถม น้องๆ เด็กๆ ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น บางคนก็รุ่นราวคราวเดียวกันกับผม และก็มีอีกหลายคนที่อายุมากกว่าผม บางคนเป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจต่างๆ ก็มีครับ”
“พอผมเล่ามาถึงตรงนี้… มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องนึงขึ้นมาได้ครับ คือจะมีลูกศิษย์ส่วนหนึ่งเลยครับที่นอกเหนือจากการเรียนร้องเพลงกับผมแล้ว หลายต่อหลายคน ก็ยังมาปรึกษาปัญหาชีวิตด้วย… ซึ่งนี่มันคือเรื่องประทับใจของผมอีกเรื่องครับ”
“ด้วยความที่เพลงเป็นสื่อในการบรรยายอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ได้เป็นอย่างดีอีกสื่อนึง อย่างที่ทุกคนรู้นั่นแหละครับ แล้วเวลาผมสอนร้องเพลง ผมกับนักเรียนก็จะมีการตีความเนื้อเพลง ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาและความหมายของเพลงเพลงนั้นมากขึ้น แล้วพอเนื้อเพลงไหน ไปตรงกับความคิด ความรู้สึก หรืออารมณ์ของนักเรียน ก็จะมีนักเรียนหลายคนครับ ที่ได้แชร์หรือเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ได้ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา บางครั้งก็เล่าปัญหา และก็ได้ปรึกษาผมไปในตัวครับ ในบางเคส ผมสอนร้องเพลงไป ก็มีนักเรียนร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นครับ หลากหลายความรู้สึกมากๆ เลยครับ โดยมีเพลงนี่แหละครับเป็นสื่อกลาง”
“มีอีกเรื่องครับ… เคสนี้คือ ลูกศิษย์ที่เรียนร้องเพลงกับผม เค้ากำลังจะฆ่าตัวตายครับ ในวินาทีนั้น เค้าโทรมาหาผม“
เราตื่นเต้นและตกใจกับเรื่องที่เก่งเล่าในตอนนี้มาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เราปล่อยให้เก่งเล่าเรื่องต่อ เก่งเล่าต่อว่า
“เค้าบอกผมว่า ‘ครูร้องเพลงให้เค้าฟังหน่อย’ ผมก็พยายามที่จะยื้อเค้า และ ดึงสติเค้าให้กลับมา บอกเค้า ปลอบเค้า พูดกับเค้า จนสุดท้ายผมก็ร้องเพลงให้เค้าฟัง และ บอกเค้าว่า เมื่อเราฟังเพลงที่ครูร้องให้ฟังแล้ว ครูขอเรากลับบ้างนะ... ครูให้เวลาเราไปคิดหนึ่งคืนก่อน แล้วมา บอกว่าพรุ่งนี้ความคิดเรามันยังจะตัดสินใจเหมือนเดิมอยู่รึปล่าว??”
แล้วยังไงต่อ - เราทนรอไม่ไหว เลยเอ่ยปากถามออกไป
“พอรุ่งเช้าครับ เค้าก็โทรมาอีกครั้ง เค้าบอกกับผมว่า เค้ารู้สึกเสียดายชีวิตของเค้าแล้วครับ เค้าบอกว่า… เค้าเลือกที่จะไม่ตายดีกว่า เพราะเค้าคิดได้แล้วว่า คงจะมีอะไรดีๆ รอเค้าอยู่อีกเยอะ วันนี้มันอาจจะแย่ แต่ว่าพรุ่งนี้มันอาจจะดีกว่าวันนี้ วันที่เค้าคิดอยากจะตาย แล้วถ้าเกิดเค้าตายไปแล้ว เค้าอาจจะต้องมารู้สึกทีหลังว่า เค้ายังมีแรงที่จะทำอะไรๆ ได้อีกเยอะ ถ้าหากว่าเค้ายังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าเค้าเป็นวิญญาณไปแล้ว เค้าก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว และเค้าก็ย้อนเวลาให้ตัวเองกลับมาเป็นมนุษย์ไม่ได้ครับ… เค้ากลับกลายเป็นแบบ มองเห็นอีกมุมนึงของชีวิตจากเพลง และจากในชั่วโมงเรียนที่ผมสอนเค้าครับ”
“การสอนร้องเพลง ความเป็นครู มันพาเราไปเจออะไรๆ ดีๆ และมันก็เป็นพลังดีๆ มันพาเราไปได้อีกเยอะจริงๆ ครับ”
”สำหรับอาชีพและความเป็นครูของผม ผมไม่เคยคิดว่าผมเป็นครู และเค้าเป็นนักเรียนเลยครับ ผมกลับคิดว่าทุกๆ คนล้วนเป็นคนในครอบครัวของผม เราต่างให้ความสบายใจ ไว้เนื้อเชื่อใจ แลกเปลี่ยนกันด้วยเจตนาดีและความรัก จากความจริงใจที่เราให้เค้ามันก็จะทลายกำแพงทุกสิ่ง ทำให้หัวใจของเค้าเปิดรับสิ่งดีๆระหว่างกัน นี่แหละครับ ผมว่า นี่คือ ‘ความมหัศจรรย์ในอาชีพของผม’ และผมเชื่อว่าทุกอาชีพถ้าเราให้หัวใจกับสิ่งนั้นและให้ใจกับอีกฝ่าย มันจะทำให้ทุกสิ่งหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่เรียกว่า ‘ครอบครัว’ ครับ” เก่งพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ตั้งใจที่จะสื่อความคิด ความรู้สึกของตัวเองว่า “หัวใจสำคัญ” ของงานที่เขารักและเชื่อมั่นคืออะไร
ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ เก่งกล่าวไว้อีกว่า “การที่ผมได้เป็นครูตั้งแต่วัยเด็กมากๆ ตั้งแต่อายุแค่ 11 ปี ซึ่งผมได้มีโอกาสสอนคนที่อายุมากกว่าผม ไปจนถึงคนที่มีคุณวุฒิในระดับ ดร. มันทำให้ผมเรียนรู้ที่จะให้ การให้คือสิ่งดีๆ ที่เราทำได้ง่ายมากๆ เลยครับ เราให้ความรู้ ให้ในสิ่งที่เรามี ให้ไปแล้ว ความรู้ก็ไม่ได้หายไปไหนนะครับ ความรู้ก็ยังอยู่กับเราไปตลอด แถมในบางครั้ง ความรู้นั้นๆ กลับงอกเงยออกมาด้วยซ้ำ นี่คือความมหัศจรรย์ของความเป็นครูครับผม”
“และนอกจากนี้ การที่ผมได้เป็นครู มันทำให้ผมได้รู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของคนอื่น ภูมิใจที่ได้เห็นเค้าได้ทำในสิ่งที่เขารักและตั้งใจ และเราก็มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เค้าประสบความสําเร็จครับ”
“ที่สำคัญคือ… ผมยังได้พัฒนาตนเองอยู่เสมอครับ เพราะลูกศิษย์ทุกคน เปรียบเสมือนครูของผมครับ” เก่งก็ยิ้มเช่นเคย
เจ้าของเรื่องเล่า เรื่องราวดีๆ สร้างพลัง และแรงบันดาลใจ :: เก่ง - อธิป เจริญชัยสกุลสุข
Facebook Fanpage: Atip Official
https://www.facebook.com/atip.keng
Facebook: Atip Keng Charoenchaisakulsuk
https://www.facebook.com/keng.atip
YouTube: Atip Channel
1 บันทึก
5
7
1
5
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย