11 ก.ย. 2020 เวลา 04:37 • สิ่งแวดล้อม
ลูกหลานกองทหารเสือป่าแมวเซา
ในวันสำรวจพันธุ์ปลาป่าต้นน้ำ บ้านกะเหรี่ยงพุระกำ (๒)
เรื่อง นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
ในการสำรวจพันธุ์ปลาบริเวณธารห้วยไหลเซาะมาตามป่าต้นน้ำพุระกำ หมู่บ้านกะเหรี่ยงสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ระหว่างวันที่ ๔-๗ กันยายน ๒๕๖๓ ดร.ชวลิต วิทยานนท์ ได้ให้ความรู้ว่า ปลาที่พบในห้วยธารเขตป่าพุระกำนี้ โดยเฉพาะปลาดักแม่กลอง ที่หน้าตาคล้ายปลาดุก และปลาแขยงเขา ทั้ง ๒ ชนิดบ่งบอกให้รู้ว่าคุณภาพห้วยน้ำและพื้นที่ป่าพุระกำ เยี่ยมสุด ดีสุด
ปลาดักแม่กลองกับปลาแขยงเขา เป็นเสมือนดัชนีบ่งชี้ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์อย่างเยี่ยมยอดเป็นป่าชั้น ๑ เพราะถ้าป่าพัง น้ำจะพังตามมา ปลา ๒ ชนิดนี้ จะไปก่อนปลาอื่นๆ
ได้พบปลาดักแม่กลองในลำห้วยเขตป่าพุระกำ จึงบ่งชัดว่า คุณภาพน้ำที่นี่เยี่ยมสุด
ในการเก็บตัวอย่างปลาหลากหลายชนิดจาก ๓-๔ ห้วยน้ำ กับเดินป่าลึกเข้าไปที่น้ำตกพุระกำ ดร.ชวลิต วิทยานนท์ ได้บันทึกภาพและชนิดปลาต่างๆโดยเฉพาะปลาสำคัญเฉพาะถิ่นแม่กลองที่ได้พบ เอาไว้ดังนี้
“สิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น หรือ สิ่งมีชีวิตถิ่นเดียว (อังกฤษ: Endemic species, Endemism) หมายถึง สิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ชนิดที่แพร่กระจายพันธุ์ตามธรรมชาติในบริเวณเขตภูมิศาสตร์เขตใดเขตหนึ่งของโลก และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเขตกระจายพันธุ์ทางภูมิศาสตร์ค่อนข้างจำกัด ไม่กว้างขวางนัก เช่น อาจจะพบตามระบบนิเวศต่าง ๆ เช่น บนเกาะ, ยอดเขา, หน้าผาของภูเขาหินปูน, แอ่งพรุ เป็นต้น ถิ่นที่อยู่ดังกล่าวมีสภาพจำกัดของสิ่งแวดล้อมหรือมีสภาพดินฟ้าอากาศเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัว ที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
พบปลาและปูที่เป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นของลุ่มน้ำแม่กลอง 7 ชนิดคือ
ปลาแขยงเขา Batasio tigrinus
ปลาดักแม่กลอง Amblyceps variegatum
ปลาเลียหินสุรินบินนาน Garra surinbinnani
ปลาค้อเข็มขัดทอง Schistura crocatula
ปลาค้อปล้องแม่กลอง Schistura aurantiaca
ปูสวนผึ้ง Demanietta suanphung
ปูตะนาวศรี Thaipusa tennasserimensis
ปลาแขยงเขา แขยงลายเสือ Batasio tigrinus
ปลาดักแม่กลอง Amblyceps variegatum
ปลาเลียหินสุรินบินนาน Garra surinbinnani
ปลาค้อเข็มขัดทอง Schistura crocatula
ปลาค้อปล้องแม่กลอง Schistura aurantiaca
ในวันนี้ ดิฉันจึงขอนำภาพสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นทั้ง ๗ ชนิด ที่ดร.ชวลิตสำรวจพบและถ่ายภาพไว้ มาให้ได้ชมกัน
ทีมสำรวจป่าสำรวจพันธุ์ปลาของพวกเรา ดักช้อนปลาต่างๆ ด้วยสวิง ใช้เพียงเครื่องมือพื้นบ้านยังสามารถได้ปลาสปีชีส์เฉพาะถิ่นลุ่มน้ำแม่กลองในลำน้ำพุระกำ ต้นน้ำภาชี มาหลากหลายชนิด คิดดูเถอะว่าป่าพุระกำสมบูรณ์ขนาดไหน
ป่าสมบูรณ์ถึงเพียงนี้มิใช่จะมีเหลือได้ง่ายๆ ในแผ่นดินไทย ยังจะมาถูกกรมชลประทานยึดไปสร้างอ่างเก็บน้ำ ที่ข้าราชการไทยจะมาทำแบบนี้ใช้สมองคิดกันบ้างหรือเปล่า? หรือกำลังมี “วาระซ่อนเร้น” เช่นใดอยู่ล่ะนี่!
เพราะริมเขื่อนริมอ่างเก็บน้ำที่ไหนๆ สิ่งที่โหมกระหน่ำตามมาหลังการสร้างเขื่อนนั้นก็คือ นายทุนกระเป๋าหนักที่จะมากว้านซื้อพื้นที่รอบเขื่อน ชายเขื่อน สร้างรีสอร์ทไว้พักผ่อน ไว้เป็นช่องทางกอบโกยหาเงินเข้ากระเป๋าซะอีกแน่ะ
ปูตะนาวศรี Thaipusa tennasserimensis
ปูสวนผึ้ง Demanietta suanphung
ที่ไหนๆก็เป็นมันแต่แบบนี้ ตัวอย่างมีรอบตัว ทั่วประเทศ คนกินข้าวมีทั่วประเทศ เราไม่ได้กินฟางนะคะ เราเห็นทิ่มแทงลูกตามาตลอดหลายสิบปีแล้วค่ะ
อ้างแต่เรื่องการจัดการน้ำ จนป่าต้นน้ำพังไปทั้งประเทศ ฉิบหายมาเท่าไหร่แล้ว ยังจะสร้างความฉิบหายไม่ยอมหยุดอีกหรือ วัวควาย ไถนาเสร็จดำนาเสร็จ ชาวบ้านไทยโบราณยังต้อนขึ้นให้ให้ไปหากินบนภูเขา ไม่ไปเดือดร้อนลุยกินต้นข้าวอ่อนในนาของใคร เขาเอื้อเฟื้อดูแลชาวบ้านเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี ไม่มีไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
แต่ข้าราชการไทยนี้ “หิว” จนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะกูจะกิน จะเอาไม่เลิก จนป่าจะหมดประเทศแล้วยังไม่เลิก รุ่นพี่กูเคยกินมาก่อน รุ่นกูจะอด กูไม่ยอม
กระทั่งพื้นที่พระราชทานอย่างพุระกำ กระทั่งกะเหรี่ยงลูกหลานกะเหรี่ยงกองเสือป่าแมวเซาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่เคยร่วมตั้งชาติไทยมา จะเดือดร้อนแค่ไหน จะถูกเขี่ยกระเด็นระเนระนาด ไปมีชีวิตพังพินาศอยู่ชายขอบไหน คนเล็กคนน้อยติดขี้ดินขี้ทราย เป็นแค่เม็ดกรวดในรองเท้ากู ใครจะมาสนใจ !!
เรื่องนี้จึงน่าสนใจยิ่งๆๆ แล้วล่ะกระมัง น่าให้สื่อมวลชนสายต่างๆ เข้าไปขุดคุ้ยดูสุดๆ ว่า เรื่องนี้มีเบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องลึกอย่างไร
ข้าราชการคนไหนกำลัง “ฮั้ว” อยู่กับผู้ได้ประโยชน์ในการสร้างอ่างเก็บน้ำหนองตาดั้ง นี้ด้วยหรือไม่
เพราะแม้กระทั่ง บ้าน-ป่าพุระกำจะเป็นพื้นที่ที่สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานให้กะเหรี่ยงอยู่ดูแลป่า มีหลายโครงการพระราชดำริมาช่วยอุ้มชูชาวบ้านกะเหรี่ยงในพื้นที่นี้
ยังกำลังจะถูกยึด ถูกปล้น ถูกละเมิด จากความตั้งใจของ “ข้า-ราชการ” ได้อย่างหน้าเฉย-ตาเฉย!
สิ่งใดกำลังจะเกิดขึ้น ในแผ่นดินนี้ ต้องจับตาดูชนิด แทบไม่ต้องกะพริบ เลยล่ะกระมัง!
ทีมสำรวจพันธุ์ปลาจึงต้องเข้าไปดูสัตว์ในป่าพุระกำ เพราะโดยธรรมชาติของการเรียนรู้ด้วยจิตที่ฝึก “ดู” มาตลอด มันจะพาไปสู่การ “ดูสัตว์เห็นคน ดูคนเห็นสัตว์”
ใครเป็นสัตว์ ใครเป็นคน จิตไหนเป็นมนุษย์ จิตไหนเป็นสัตว์ บางทีกายที่สวมครอบดวงจิตไว้ มันปกปิดได้ไม่นานหรอก!
ในช่วง ๔-๕ วันของการสำรวจพันธุ์ปลา ทีมของเรายังได้เข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านพุระกำ เข้าไปในป่าต้นน้ำพุระกำ ไปเจอต้นสะปุง สูงใหญ่ในป่า มีรอยเล็บหมี ๕ เล็บข่วนแคว้กทิ้งหลักฐานเป็นเขตหากินของพี่หมี น้องหมี แม่หมี พ่อหมี เอาไว้
วันนี้ดิฉันจึงขอนำภาพต้นสะปุงเล็บหมีมาให้ดูกันก่อน รวมทั้งภาพอื่นๆ ที่ดิฉันกับคุณจารุปภา วะสี เพื่อนร่วมทีมสำรวจพันธุ์ปลา ได้บันทึกภาพเก็บเอาไว้ โดยเฉพาะภาพหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงพุระกำ
แบ่งปันมาให้ได้ชมกัน
พรุ่งนี้ค่อยเล่าเรื่องต่างๆ ลงรายละเอียดมากกว่านี้มาให้ได้เรียนและได้รู้-ไปด้วยกัน
(ยังมีต่อ-ติดตามตอน ๓ ทำไมถึงชื่อป่าพุระกำ ดูปลาเห็นป่า เห็นความสมบูรณ์ของป่าได้อย่างไร)
โฆษณา