12 ก.ย. 2020 เวลา 02:57 • ปรัชญา
พระพุทธเจ้าสอนอะไร? ( 3 )
โพสที่ผ่านมาพูดถึงระบบที่เราอยู่ และ กฏธรรมชาติ ที่ควบคุมระบบ( วัฏสงสาร ) นั้นอยู่ ซึ่งก็คือ กฏแห่งกรรม นั่นเอง โพส นี้ก็จะพูดถึงการทำงานของกฏแห่งกรรม กาทำงานของการเวียนว่ายตายเกิด
ผมจะอธิบายกฎนี้ในมุมมองของอริยะสัจสี่ ซึ่งว่ากันจริงๆแล้ว ที่พระองค์สอนมาทั้งหมดตอลดชีวิต ก็คือ อริยะสัจสี่ นั่นเอง ผมเชื่อว่า พุทธศาสนิกชน ส่วนใหญ่ เข้าใจว่า อริยสัจสี่ก็คือ
ทุกข์ คือ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ
สมุทัย คือ เหตุให้เกิดทุกข์
นิโรธ คือ ความดับทุกข์
มรรค คือ หนทางแห่งการดับทุกข์
ก็คงท่องกันอยู่แค่นี้ ไม่รู้รายละเอียดที่แท้จริง มันคืออะไร ท่านลองคิดดู 44 ปีที่พระองค์สอน จะมีแค่นี้อย่างนั้นหรือ
มันมีความละเอียด มากมายมหาศาลระดับจักวาลเลยทีเดียว
ผมจะค่อยๆ อธิบายจากหยาบไปจน ละเอียดที่สุด ( สุญญัตตา ) จนถึงขั้นที่ท่านจินตนาการ ไม่ได้เลยทีเดียว หรือ คิดตามไม่ได้เลย จะเอาให้งง จน เบลอไปเลย เอาให้สุดปลายทางเลยครับ ส่วนจะรู้ตามได้จริงๆ ต้องไปปฏิบัติธรรม ค้นหาด้วยตัวเองจริงๆ ถึงจะ รู้ตามได้ครับ ที่เรียกว่า ปัจจัตตัง ( รู้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น )
ขอย้ำอีกครั้ง นี่ไม่ใข่ทฏษฏี หรือ ปรัชญา มันคือสัจจะความจริง เป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติของทุกสรรพสัตว์ รวมถึงตัวท่านเอง ซึ่งจริงๆท่านก็อยู่กับมันตลอดเวลา ทุกวินาที ทุกภพ ทุกชาติ จนหาที่สุดเบื้องต้นไม่ได้ เบื้องปลายไม่มี
สรุป อริยะสัจสี่ คือ การทำงานของกฏแห่งกรรม คือ ความจริงของตัวเรา คือ ความลับของจักรวาล ที่พระพุทธเจ้าไปค้นพบมา นั่นเอง
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระคถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม
ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือ ความตั้งอยู่แห่งธรรมดา,
คือ ความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา,
คือ ความที่เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น.
ตถาคต ย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น;
ครั้นรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว, ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ
ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุดังนี้แล : ธรรมธาตุใด ในกรณีนั้น
อันเป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อวิตถตา คือความไม่ผิดไปจากความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อนัญญถตา คือความไม่เป็นไปโดยประการอื่น,
เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น ;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมนี้เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอันเป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น).
ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๔๓-๕๒
(ภาษาไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๒๒/๖๑.
โฆษณา