24 ก.ย. 2020 เวลา 04:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ประวัติศาสตร์หนี้สิน 100 ปีของอเมริกากับการบิดเบือนราคาทองคำ
ธนาคารกลางของแต่ละประเทศไม่ได้พิมพ์เงิน จากการศึกษาค้นคว้าของผู้เขียน
ธนาคารกลางพิมพ์หนี้สินขึ้นมา ก็คือกู้ยืมเงินในรูปพันธบัตร แล้วก็เพิ่มตัวเลขในบัญชีหนี้สาธารณะของประเทศ
สมัยก่อนถ้าจะเพิ่มเงินขึ้นมาต้องมีทองคำค้ำประกัน ซึ่งเรียกว่า gold standard
ราคาทองคำกับหนี้สินอเมริกาในรอบ 100 ปี
เมื่อร้อยปีที่แล้ว 1920 หนี้สินของอเมริกาอยู่ที่ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคาทองคำอยู่ที่ 20 เหรียญ
ปี 1944 ได้ประกาศให้ราคาทองคำอยู่ที่ 35 เหรียญสหรัฐ fix rate นี้ไว้เนื่องจากอเมริการวยมากมีทองคำเยอะที่สุดในโลกถึง 20,000 ตัน ทำให้เงินดอลลาร์เป็นที่น่าเชื่อถือที่สุด เพราะสามารถเปลี่ยนเป็นทองคำได้
ข้อตกลงนี้เรียกว่า bretton wood เป็นการชูดอลล่าร์สหรัฐขึ้นมาเป็น global currency
ตอนนั้นอเมริกามีหนี้สินเพิ่มมาเป็น 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นการควบคุมราคาทองคำ หนี้สินระดับนี้ ราคาทองควรจะสัก 200 เหรียญสหรัฐ
ในเวลาต่อมาจนกระทั่งถึงปี 1970 อเมริกาเกิดสงครามมากมายโดยเฉพาะสงครามเวียดนามและพิมพ์เงินขึ้นมาใช้เยอะมาก
ซึ่งราคาทองคำจะยัง fix อยู่ที่ 35 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ตอนนั้นอเมริกามีหนี้สิน 450,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
1
ทำให้นานาประเทศไม่เชื่อถือในเงินดอลลาร์ พากันแห่เอาดอลลาร์มาแลกเป็นทองคำกันยกใหญ่ จนทองคำเหลือแค่ 8000 กว่าตันจาก 20,000 ตัน
ทำให้ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสัน แห่งสหรัฐได้ยกเลิกข้อตกลง bretton wood นั่นหมายความว่า ไม่สามารถเอาทองคำมาแลกเป็นดอลล่าร์ได้
ต่อมาในปี 1980 ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึง 850 เหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับหนี้สินที่ 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
1
ราคาทองคำปี 1980 ขึ้นไปสูงสุด 850 แล้วก็เป็นขาลงไป 20 ปี สวนทางกับหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนั้นราคาทองคำก็ร่วงไม่เป็นท่า sideway down ไปอีก 30 ปี ไปต่ำสุดที่ 250 เหรียญสหรัฐ
แต่ทว่าหนี้สินของอเมริกาไม่เคยลดลงเลยในช่วง 30 ปีต่อมา ตรงนี้แหละที่เป็นข้อสังเกตุว่ามันมีการ manipulate บิดเบือน ราคาทองคำผ่านตลาดฟิวเจอร์ทองคำ
ในปี 2008 หนี้สินอเมริกาก็อยู่ที่ 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มมามากกว่า 10 เท่าแต่ราคาทองคำกลับมาอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งหนี้สินระดับนี้ ราคาทองคำควรจะประมาณ 10,000 เหรียญเลยทีเดียว
ไนปีนี้ 2020 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจซัพไพร์มขึ้น ซึ่งความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหลังจากนั้นหนี้สินของอเมริกาก็ค่อย ๆ เพิ่มจนกลายเป็น 20 ล้านล้านเหรียญฯในเวลาประมาณ 10 ปี
แต่ราคาทองคำขึ้นไปสูงสุด 1920 เหรียญแล้วค่อย ๆ ลดลงไปต่ำสุดที่ประมาณ 1050 เหรียญสหรัฐ อันนี้ก็น่าแปลกใจมาก เพราะหนี้สินเพิ่มขึ้นตลอด นี่ก็น่าจะมีการบิดเบือนราคาทองคำ อย่างมาก
ล่าสุดปี 2020 หนี้สินอเมริกาอยู่ประมาณที่ 26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถ้าเทียบเป็นราคาทองก็น่าจะ 26,000 เหรียญสหรัฐ แต่ราคาจริงตอนนี้อยู่ที่ 1,800-2,000 เหรียญสหรัฐ
จากวิกฤตเศรษฐกิจโควิดครั้งนี้ ความเสียหายของอเมริกาจะอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าหนี้สินจะเพิ่มขึ้นเป็น 80-100 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผู้เขียนถึงได้ถือทองคำมาเป็นสิบปี และยังแนะนำให้ซื้อทองคำติดพอร์ตไว้ตลอด ไว้ป้องกันความเสี่ยง ไม่เคยแนะนำให้ขายถือเงินสดไว้เลย
1
ราคาทองคำอาจจะมีขึ้น ๆ ลง ๆ บ้างก็ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าย่อลงมากก็ทะยอยสะสม ระยะยาวก็เป็นขาขึ้นอยู่แล้ว ถ้ามีเงินเย็น ๆ ก็ซื้อทองคำเก็บไว้บ้าง
3
เพราะว่าหนี้สินไม่เคยลดลงเลยแม้แต่นาทีเดียว มีแต่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ยิ่งวิกฤตโควิต เงินเฟ้อระดับสึนามิกำลังจะมาในอีกไม่ช้า
1
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป
อ้างอิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา