12 ก.ย. 2020 เวลา 12:17 • ประวัติศาสตร์
ตำนานญี่ปุ่น: คฤหาสน์ฮิมุโระ
คฤหาสน์ฮิมุโระเป็นตระกูลที่มีอายุมากกว่า 100 ปี และเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณอยู่มากมาย
คฤหาสน์ฮิมุโระ ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองโตเกียว ติดกับโซนภูเขา มีอาณาบริเวณที่ดินกว้างขวางเพราะเคยเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากในสมัยก่อน โดยคฤหาสถ์จะถูกล้อมไปด้วยศาลเจ้าถึง 5 แห่งที่อยู่บริเวณภูเขา ทั้งนี้ก็เพื่อจัดพิธีกรรมตามความเชื่อของตระกูล ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "พิธีกรรมรัดคอ"
ตระกูลฮิมุโระเชื่อว่า มีวิญญาณชั่วร้ายที่จะข้ามฝั่งมายังโลกมนุษย์ทุก ๆ 50 ปี ผ่านประตูที่เชื่อมต่อระหว่างสองโลกที่อยู่บริเวณใต้ดินของคฤหาสน์นั่นเอง เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นจึงมีการคัดเลือกเด็กสาวบริสุทธิ์มาเป็นตัวตายตัวแทนในพิธีปิดผนึกประตูวิญญาณ
เด็กสาวที่ถูกนำตัวมาทำพิธีจะคัดเลือกกันตั้งแต่ยังเล็ก แยกตัวนำไปเลี้ยงดูต่างหากโดยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกตลอดชีวิต เพื่อป้องกันเหตุใดๆ ก็ตามที่อาจส่งผลให้พิธีกรรมถูกขัดขวาง และรักษาไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของเด็กสาว
เมื่อถึงวันทำ “พิธีกรรมรัดคอ” หญิงสาวก็จะได้รับการแต่งตัวสวมชุดมิโกะ แล้วพันธนาการด้วยเชือก 5 จุด คือข้อมือทั้งสองข้าง ข้อเท้าทั้งสองข้าง และลำคอ ที่ปลายเชือกของทุกจุดจะผูกเข้ากับวัวตัวผู้ หรือม้าเพื่อฉีกร่างของเธอเป็นชิ้นๆ เสร็จแล้วจึงนำเชือกที่ชุ่มไปด้วยเลือดนั้นไปวางไว้หน้าประตูเชื่อมภพ ซึ่งตามความเชื่อเชือกนี้จะเป็นเชือกศักดิ์สิทธิ์ สามารถปิดผนึกไม่ให้สิ่งชั่วร้ายนั้นผ่านข้ามมาได้
กระทั่งพิธีกรรมในครั้งสุดท้ายอันนำมาซึ่งการจบสิ้นของตระกูลฮิมุโระก็มาถึง เมื่อเด็กสาวบริสุทธิ์นั้นแอบไปรักกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งบังเอิญได้เจอหน้ากันในคฤหาสน์ดังกล่าว ทั้งคู่แอบติดต่อกัน และเด็กหนุ่มวางแผนจะช่วยเธอให้รอดพ้นจากพิธีนี้ แต่ความลับนี้ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อมีบ่าวรับใช้แอบเห็นการติดต่อกันของ 2 คนนี้
ความทราบถึงเจ้าบ้านตระกูลฮิมุโระ เขาก็รู้ทันทีว่าพิธีกรรมครั้งนี้จะต้องล้มเหลวเป็นแน่แท้ เพราะการที่หญิงสาวมีความรัก มีความรู้สึกผูกพันกับโลกนี้ ส่งผลให้เลือด และจิตใจของเธอมีมลทิน จิตวิญญาณ และเลือดของหญิงสาวสกปรกเกินกว่าที่จะชำระได้ ความชั่วร้ายทั้งมวลจะเดินทางเข้าสู่โลก จึงตัดสินใจผ่อนหนักให้เป็นเบาด้วยการเริ่มทำพิธี ณ ตอนนี้เลย โดยการใช้ดาบสังหารสมาชิกทุกคนในตระกูล เพื่อขอขมาต่อสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย เมื่อจัดการทุกคนในตระกูลจนหมด ก็นำตัวเด็กสาวเข้าทำพิธีจนสำเร็จ ก่อนจะใช้ดาบเล่มดังกล่าวปลิดชีพตัวเอง เนื่องจากกลัวถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อพิธีกรรมพังพินาศ
หลังจากพิธีกรรมครั้งสุดท้ายนั้น คฤหาสน์นี้ก็ถูกทิ้งร้างต่อไปอีกยาวนาน แม้จะมีตระกูลอื่นย้ายเข้ามาอาศัยก็จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะต้องพบกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่างๆ มากมาย เช่น เห็นวิญญาณในชุดขาวกำลังเตรียมพิธี หรือจู่ๆ ก็มีรอยเลือดกระเซ็นติดอยู่ที่ผนัง บางคนก็พบตัวเองมีรอยถูกเชือกรัดตามร่างกาย ฯลฯ ประกอบกับภายในคฤหาสน์ก็มีห้องหับที่ชวนขนลุก แสงแดดส่องไม่ถึงแม้จะเป็นยามกลางวัน รวมถึงห้องใต้ดิน ห้องใต้หลังคาเล็กๆ แคบๆ อีกมากมายที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดตลอดเวลา จนปัจจุบันก็ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามาใกล้ที่นี่อีกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://travel.trueid.net/detail/weNbvWqVAade
#เจาะลึกตำนาน
โฆษณา