12 ก.ย. 2020 เวลา 12:54 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Blue Valentine บูลวาเลนไทน์ (9/10)......
..
- รีวิวภาพยนตร์ -
Blue Valentine (Derek Cianfrance, 2010)
ค่ำคืนนี้แอดอยากคุมโทนเพจให้เป็นเรื่องความรักไปให้หมดเลย , แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนังที่อยากจะเอามาพูดถึงในช่วงวาเลนไทน์กลับไม่ใช่หนังหวานแหววมุ้งมิ้ง (แม้จะชื่อวาเลนไทน์ก็ตาม) นั่นจึงเป็นที่มาของ Blue Valentine ในคืนนี้
1) กล่าวคือ Blue Valentine เป็นหนังรักที่ว่าด้วยชีวิตคู่ของพระนางในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ตัดสลับไปผ่านในช่วงที่ทั้งคู่เพิ่งเจอกัน รู้จักกัน รักกัน กับช่วงเวลาที่พวกเขาก้าวข้ามความรู้สึกนั้นไปแล้ว เป็นจุดที่กำลังใกล้จะแตกหักเลยทีเดียว , ซึ่งการนำเสนอเรื่องราวแบบนี้ มันย่อมทำให้ตัวหนังมี contrast กับคนดูและส่ง impact ได้ดีมากในตอนท้าย เมื่อเหตุการณ์สองช่วงเวลามันดำกับขาวสุดๆ
2) ถ้าจะพูดจากใจจริง , Blue Valentine เป็นหนังที่พูดชีวิตคู่ได้สมจริงที่สุดอีกเรื่องที่เกิดมาเคยดูหนัง แม้ว่าหนังจะไม่ได้ไต่ระดับความล้มเหลวของชีวิตคู่ ผ่านการรักกันช่วงแรก เลิกกันช่วงหลัง หากแต่หนังเล่าเรื่องการก้าวสู่เริ่มต้นชีวิต (แต่งงาน) พร้อมกับการเดินทางไปสู่จุดจบของชีวิตคู่ (แยกกันอยู่) ได้อย่างโศกนาฏกรรมสุดๆ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเราก็เสียน้ำตาให้ความชิบหายของตัวละครทั้งสองแบบบอกไม่ถูก
3) หนังพูดถึงเรื่องชนชั้นตัวละครเข้ามาอย่างน่าสนใจ ผ่านเรื่องเศรษฐกิจ , อาชีพ หรือแม้กระทั่งซีนแต่งงานที่แตกต่างกับหนังเรื่องอื่นๆโดยสิ้นเชิง ตัวละคร Ryan Gosling และ Michelle Williams ต่างเป็นตัวละครที่ไม่ได้เพอร์เฟ็คเลยสักนิด ทั้งคู่มีข้อผิดพลาดซึ่งกันและกัน ซึ่งการสร้างสถานการณ์คลุมเคลือแบบนี้ ทำให้เรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เวลาตัวละครต้องมาปะทะอารมณ์กันในตอนท้าย
4) แต่เอาจริงๆหนังก็หวานนะ ไม่ใช่ว่าจะระทมหม่นหมองอะไรแบบนั้น หนังมีซีนโรแมนติกดีๆ เรียลๆเต็มไปหมดเลย เอาจริงๆบทภาพยนตร์ของ Derek มันเรียลแดกมาก ตัวละครจะจีบกันมันยังเรียล จะเลิกกัน จะทะเลาะกันก็เรียล จริงๆต้องขอบคุณสองพระนางด้วยแหละ เราชอบ Ryan เล่นเรื่องนี้มาก ซีนท้ายกูร้องไห้เพราะมึงเลย
5) อนึ่ง ชื่อหนังน่าจะทำให้หลายๆคนเข้าไปดูในโรงแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่เราว่ามันเป็นหนังที่สะท้อนจุดพลิกผันชีวิตคู่ได้ดีเลย ใครที่พาแฟนไปดูก็ทำให้เราได้กลับมาทบทวนจุดๆที่เรายืนอยู่ และจุดที่เราจะก้าวต่อไปกับเขามันโอเคไหม , เหมือนตอนดู Eternal Sunshine of the Spotless นั่นแหละ เราว่าเรื่องนั้นดูจบก็ทำให้เรากลับมาทบทวนข้อเสียของกันและกันได้ดีมากๆเลย
ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา , Blue Valentine เป็นหนังที่พูดถึงความรักได้ดีที่สุดอีกเรื่องบนโลกใบนี้ มันไม่ใช่หนังมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งอย่างแน่นอน ที่สำคัญ มันพร้อมจะกระหน่ำคุณด้วยซีนดราม่า บีบหัวใจ และการแตกสลายแบบไร้การเยียวยา เป็นหนังที่เหมาะสำหรับวาเลนไทน์คืนนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะดูเพื่อเสียน้ำตา หรือเพื่อทบทวนความรักของตัวเองครับ
2
A+
โฆษณา