รอยบุญผืนป่า (EP.๑/๒) ลีลาพุทธศิลป์ เส้นทางธรรม “อรหันต์” แห่งมรรค ๔ ล้านนา สกทาคามี “วัดผาลาด”
วัดสกทาคามี (ผาลาด) เป็นวัดเก่าแก่กว่า ๖๐๐ ปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา แห่งราชวงศ์เม็งราย เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายสถานที่สร้างพระบรมสารีริกธาตุบนยอดสุเทพ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่เขตอุทยานแห่ง ชาติดอยสุเทพ – ปุย
มีความเกี่ยวเนื่องกับเส้นทางบุญเมื่อครั้งการสร้างถนนศรีวิชัยขึ้นสู่ยอดดอยสุเทพของครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยราว พ.ศ. ๒๔๗๗ ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ทำการบูรณะขึ้นอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของสงฆ์ จากเดิมในอดีตอารามแห่งนี้มีสถานะเป็นวัดร้างมาอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อครั้งสมัยเชียงใหม่อยู่ภายใต้การปกครองของพม่าด้วยความที่พื้นที่ตั้งโดยรอบของอารามแห่งนี้ มีลักษณะเป็นเชิงเขา และ ลานหินหน้าผามีความลาดชันเป็นทางยาว มีธารน้ำไหลและธารน้ำตกที่สวยงาม จึงเป็นที่มาของการเรียกนาม “วัดผาลาด” มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนคำว่า “ผาลาด”
วิหารพระพุทธบาทศรีวิชัยโภคา ราชประชาธรรม ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าวัด สร้างขึ้นราวพ.ศ.๒๔๗๗ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานการสร้างถนนของครูบาเจ้าศรีวิชัย และเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธเมตตาผาลาด
วิหารพุทธบาทพระเจ้าอุ่นเมือง หลังเดิมเมื่อครั้งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนาได้พังทลายลงเหลือแต่ส่วนฐาน ครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงได้สร้างพระวิหารหลังใหม่ขึ้นมาทดแทน และอยู่ห่างจากหลังเดิมไปเพียงเล็กน้อย อาคารรูปทรงศิลปะล้านนาผสมผสานการประดับตกแต่งในศิลปะพม่า หน้าบันด้านหน้าประดับไม้แกะสลักรูปนกยูง (สัญลักษณ์แทนพระอาทิตย์) หน้าบันด้านหลังไม้แกะสลักรูปกระต่าย (สัญลักษณ์แทนพระจันทร์) ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณก่ออิฐถือปูนปางมารวิชัยแบบชาวลัวะ
สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “ผะเลิด” ภาษาล้านนาหมายถึง “ลื่นล้ม”
ปูชนียสถานและปูชนียวัตถุภายในวัด ล้วนเป็นศิลปะร่วมสมัยแห่งการผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนา ศิลปะพม่า และศิลปะไทลื้อ พระพุทธรูปหน้าผา หอรูปทรงสี่เหลี่ยมหลังคาตัดศิลปะพม่าร่วมสมัย สร้าง ตามแนวชะง่อนหินผา และเคยเป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าเก็ดกา หรือ พระไล่กา” พุทธลักษณะแบบเชียงแสน คติความเชื่อของคนโบราณเชื่อกันว่าเป็น “กา” เป็นนกแห่งความชั่วร้าย จึงได้ลงอาคมไล่กาไม่ให้บินผ่านวัดและไม่ให้บินขึ้นไปยังบนดอยสุเทพได้ ต่อมาได้ถูกทำลายลงในสมัยสงครามพม่าเหลือเพียงส่วนฐาน และเมื่อชาวไทใหญ่อพยพเข้ามาอาศัยในบริเวณนี้จึงได้สร้างพระพุทธรูปศิลปะแบบไทใหญ่ขึ้นมาไว้สักการะ ปัจจุบันเป็นลานปฏิบัติธรรม และเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ในอีกหนึ่งมุมมองหอวิปัสสนา
อาคารก่ออิฐถือปูนหลังคาซ้อน ๓ ชั้น ประตูด้านหน้าจิตรกรรมลายคำ ภายในประดิษฐานพระ พุทธรูปพระพุทธเจ้า ๕ องค์ มีพระพุทธเจ้าโคตมะ ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน มีพระพุทธเจ้ากกุสันธะ และ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะประดิษฐานอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนพระพุทธเจ้ากัสสปะและพระพุทธเจ้าศรีอริยะเมตตรัยประดิษฐานอยู่ทางด้านขวา เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้อยู่ใกล้ชิดพระพุทธเจ้าทั้งหลายพระธาตุเจดีย์ รูปทรงศิลปะพม่ามีพืชตระกูลเฟิร์นและมอสขึ้นปกคลุมทั้งองค์ ฐานสี่เหลี่ยมทรงสูงรองรับฐานย่อเก็จหลายชั้นประดับประติมากรรมปูนปั้นสิงห์อารักษ์ศิลปะพม่า ๔ มุม และมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูป องค์เจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ส่วนยอดแหลม (ไม่ประดับฉัตร) มีประติมากรรมปูนปั้น “มอม” หมอบราบอยู่บริเวณฐานโขงทางขึ้นองค์พระบรมธาตุเจดีย์
ลานพระเจดีย์ และลานปฏิบัติธรรมภายในวัดสกทาคา (ผาลาด) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนทางใจสงบทางจิต รับรู้ได้ถึงความร่มเย็น เหลียวมองศิลปะปูนปั้นเทพยดา และพระพุทธรูปที่งดงาม อารามแห่งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งเส้นทาง “คนรักป่าท่องไพร” ได้ศึกษาธรรมชาติทางเดินป่าใกล้เมือง ถือเป็นมรดกนิเวศชั้นเลิศอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
การเดินทาง
o ถนนศรีวิชัย
ข้อมูลอ้างอิง
๑. แผ่นป้ายข้อมูลภายในวัด
๒. ข้อมูลบางส่วนจากรองเจ้าอาวาส
๓. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๙ กองพุทธศาสนา กรมการศาสนา
ร้อยเรียง เพื่อบอกเล่า : "ปริญญ์ทิพย์ "
แนะนำข้อมูลการปรับปรุงเพิ่มเติมได้ที่ email:harnggoon@gmail.com
มือถือ/ไอดีไลน์: 089 956 8234
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
