13 ก.ย. 2020 เวลา 04:40 • เกม
วันนี้เป็นวัน #NationalVideoGamesDay ของฝรั่งเค้า
บันทึกไว้ว่า FPS หรือ frame rate สำคัญอย่างไรกับการสร้างเกมๆ นึง
คุณเคยเขียนการ์ตูนภาพนิ่งในสมุดท้ายกระดาษหลายๆ หน้าแล้วคลี่หน้าเร็วๆ ให้มันดูเหมือนขยับเองไหม นั่นคือจุดเริ่มต้นของวงการอนิเมชั่น
หน้ากระดาษหนึ่ง (Canvas) ที่คุณวาด อะไรลงไป นั่นละคือ 1 Frame ทีนี้ในเวลาที่คุณคลี่กระดาษหรือที่เรียกว่าการ Render เร็วๆ ใน 1 วินาทีมีการเปลี่ยนเฟรมที่ตาคุณเห็นเท่าไร นั่นละเรียกว่า 1 FPS หรือ Frame per second อนิเมชั่นเนียนๆ จะมีการ Render 50-60 FPS ขึ้นไป
ผู้เล่นเกมที่เสพกราฟฟิกประจำและสายตาดีจะรู้สึกถึงการกระตุกจากเกมที่ FPS น้อยๆ แต่สายตาแบบผมไม่ได้ซีเรียสอะไรกะมัน หน้าที่ของ GPU หรือชิพประมวลผลสูงๆ จะ Render เร็วจนเรารู้สึกสมูธไปกับอนิเมชั่น แต่ในแง่คนสร้างเกม กว่าจะได้ 1 โมชั่นเคลื่อนไหวนั้นลำบากฝ่ายศิลป์มากๆ
ใน 1 วินาที มีอะไรเกิดขึ้นบ้างเวลา GPU ประมวลผล ก้อมีการรับคำสั่งจากคนเล่น เอาคำสั่งไป update สถานะต่างๆในเกม และแสดง action ของตัวละคร เกมในยุคนี้ให้ความสำคัญกะภาพที่สุด ยิ่งเหมือนหนัง ยิ่งเนียนยิ่งดี
ตัวละครหนึ่งตัว มีืื action หลายๆท่า แต่ละ action ก็ต้องถูกวาดทีละเฟรม จนครบ ถ้าตัวละครสองมิติก็ง่ายหน่อย แต่ถ้า 3มิติ ก็ต้องกำหนดค่ายกมือยกไม้แกน xyz ปรับรูปร่างกันตาย แต่เครื่องมือพัฒนาเกม (Game engine) ยุคนี้มีตัวละครสำเร็จมาให้ละ แค่เลือกตาหูจมูกปากผิวรูปร่างก็จบละ รอแค่สั่งงานให้เองว่าจะให้แสดงโพสท่ายังไงใน 1 เฟรม
เกมที่สเกลใหญ่ๆ วางตัวละครเยอะแยะมากมายทำท่าทางต่างๆกัน ก็ต้องคิดถึง screen view มุมไหน ใกล้ไกลซ้ายขวาหน้าหลังซูมเข้าออก แต่ละเกมถึงมีผู้กำกับ (Director) มาด้วย จะเห็นว่าการสร้างเกมๆ นึงสมัยนี้ ไม่ได้ต่างกับการสร้างหนังเลย หนังยังแค่ 2-3 ชั่วโมงจบ แต่เกมๆ นึงเป็นสิบชั่วโมงอย่างต่ำนะ
จากคนที่เห็นความเนียนระดับ 5 FPS ของ Mario 3 มาอยู่ในยุคนี้ ที่มีเกมระดับ hollywood อย่าง Final Fantasy 15 ก็แอบคิดว่า ภาพมันจะไปได้ไกลกว่านี้อีกไหม
สำหรับผม ภาพสวยแค่ไหนแต่เนื้อเรื่องไม่สนุกไม่มีความจูงใจให้เล่นต่อก็พอแค่นั้น แต่หลายๆคนอาจชอบไม่เหมือนกันนะ
บางคนเกมก็แค่ฆ่าเวลา สำหรับผมมันดีกว่าหนังสือ+หนัง ที่เรามีส่วนเล่นเอง
Happy Video Games Day ครับ
โฆษณา