ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 กันยายน ปี 2006 ทาง Soft On Demand หรือ SOD บริษัทผู้ชำนาญการด้านการผลิตภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นได้ทำการวางจำหน่ายสินค้าตัวหนึ่งที่มีทีม Natural High ซุ่มผลิตงานมาตั้งแต่ปี 2004 งานดังกล่าวก็คืออนิเมะที่ใช้ชื่อว่า Boku No Pico
.
งานอนิเมะดังกล่าวเป็นงาน Original Video Animation / OVA หรืองานอนิเมะที่ผลิตออกมาเพื่อขายแผ่นเป็นหลัก และงานชิ้นดังกล่าวยังเป็นงานตั้งใจผลิตออกมาเพื่อป้อนกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบงานแนวโชตะคอน ซึ่งทีมงานระบุว่าจับเอากระแสนี้จากการที่เกมแนวต่อสู้ช่วงนั้นมีตัวละครแนวเด็กชายแต่แต่งตัวแบบไม่ระบุเพศออกมาหลายตัว
.
ทางทีมผู้สร้าง Natural High ก็เลยตั้งใจสร้างตัวละครหลักอย่าง 'Pico' ให้มีความอรชรอ้อนแอ้นกว่าเพศชายปกติเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งเพศชายกับเพศหญิงมาทดลองซื้ออนิเมะสำหรับผู้ใหญ่เรื่องนี้ และทาง Soft On Demand ก็เป็นคนสนับสนุนทิศทางการสร้างอนิเมะแบบนี้
.
กระนั้นด้วยเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงแบบสุดๆ เพราะเป็นความสัมพันธ์กับเยาวชน ก็ทำให้ผลงานดังกล่าวมีเสียงต่อต้านทั้งจากภายในกับภายนอกประเทศญี่ปุ่น แต่สุดท้ายการพัฒนาผลงานดังกล่าวก็เสร็จสิ้น และได้วางจำหน่ายจริงในที่สุด ซึ่งตัวซีรีส์ Boku No Pico ก็ได้รับความนิยมพอสมควร จนมีการสร้างตอนต่อเพิ่มเติมออกมาอีกสองตอน ในปี 2007 และ 2008 รวมไปถึงยังมีการนำเอาตอนแรกของเรื่องนี้มาตัดต่อใหม่เป็นเวอร์ชั่นเด็กดี ไม่มีฉากอัศจรรย์ในปี 2007 จำนวนหนึ่งตอน, อัลบั้มเพลง และยังมีมังงะเล่มพิเศษพร้อมภาพการออกแบบตัวละคร รวมไปถึงเกมแนววิชชวลโนเวล อีกด้วย
.
แม้ตัวงานจะตั้งใจเจาะกลุ่มผู้ชมที่ชอบผู้ชาย หรือ สาว Y ที่อาจจะสนใจหนุ่มน่ารัก แต่ทีมงานที่เกี่ยวกับงานอนิเมะ Boku No Pico เท่าที่ยอมเปิดเผยชื่อต่อสาธารณชน กลับเป็นคนที่น่าจะอยู่ขั้วตรงข้ามกับสินค้าที่ออกขายโดยสิ้นเชิง ท่านหนึ่งก็คือ อาจารย์ Saiga-Dou นักเขียนมังงะซึ่งถนัดถนี่นักกับการวาดผลงานเอาใจชายหนุ่มกลัดมัน ทั้งบนดินและใต้ดิน ส่วนฝั่งผู้กำกับงานอนิเมะนั้นเป็นหน้าที่ของ คุณ Yatabe Katsuyoshi ที่ทำงานในอุตสาหกรรมอนิเมะมาอย่างยาวนาน รวมถึงการเป็นผู้กำกับอนิเมะสำหรับเด็ก Dianosaur King
.
Boku No Pico อาจจะไม่ได้วางจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น แต่การที่อนิเมะเรื่องนี้ไปเข้าตากระแสชาวเน็ตทั่วโลก ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นผลจากการที่มีผู้ใช้งานเว็บบอร์ด Boxden ชื่อ Young Buck ได้ตั้งกระทู้ว่า 'DON'T WATCH AN ANIME CALLED BOKU NO PICO' พร้อมกับสาธยายถึงความผิดพลาดที่เขารับอนิเมะเรื่องนี้มาดูจากเพื่อนโดยไม่หาข้อมูล
.
เวลาต่อมา ชาวเน็ตท่านหนึ่งได้เอากระทู้ของ Young Buck มาอ่านแบบใส่อารมณ์ แล้วทำเป็นคลิปโพสท์ในโลกออนไลน์ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การลากเสียงคำว่า 'YOOOOOOOOOOOOOOOO' และคลิปดังกล่าวมีการก็อปปี้ซ้ำไปมาหลายครั้ง ทำให้อนิเมะเรื่องนี้เกิดกระแสไวรัลแบบที่ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจไปในที่สุุด
.
แม้แต่ในประเทศไทยเอง ในช่วงหนึ่งก็มีหลายเว็บไซต์ที่ทำคอนเทนท์ล้อกระแส ‘YOOOOOOOOOOOOOOOO' อยู่เช่นกัน จนทำให้ช่วงหนึ่ง Boku No Pico กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ลองภูมินักสืบออนไลน์หน้าใหม่
.
กระแสของ Boku No Pico กลับมาอีกครั้งในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2015 เมื่อ PewDiePie ยูทูปเบอร์ชื่อดังได้ทำคลิปรีแอคชั่นในการรับชมอนิเมะชุดดังกล่าว ที่มีรีแอคชั่นออกมารุ่นแรงไม่แพ้กับการ ‘YOOOOOOOOOOOOOOOO' และปัจจุบันคลิปรีแอคชั่นของ PewDiePie มียอดรับชมอยู่ราว 11 ล้านวิว
.
ด้วยกระแสสังคมในปัจจุบันนี้ รวมถึงการที่ประเทศญี่ปุ่นได้ปรับเปลี่ยนกฎหมายด้านสื่อลามกไปหลายครั้ง คงทำให้ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็คงไม่กล้าผลิตงานแบบ Boku No Pico อีกแล้ว จะคงเหลือไว้ก็แค่ตำนาน และความตกใจของผู้ที่ไม่เคยรู้จักมันมาก่อนก็เพียงเท่านั้น