17 ก.ย. 2020 เวลา 00:20 • ประวัติศาสตร์
10 เพลงประกอบภาพยนตร์สงครามเวียดนาม
สงครามเวียดนาม (The Vietnam War) นอกจากจะเป็นสงครามที่ส่งผลกระทบใน
หลายๆ เรื่องแล้ว การต่อสู้ในอุดมการณ์การปกครองระหว่างประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์ในครั้งนี้ ยังก่อให้เกิดวัฒนธรรมของดนตรีที่จะเป็นรากฐานให้กับดนตรีใน
ยุคต่อๆ มา
เราอาจจะคุ้นหูเพลงในภาพยนตร์บางเรื่องที่เกี่ยวกับสงครามเวียดนาม หลายคน
อาจจะชอบเพราะมันไพเราะหรือมีจังหวะที่สนุกเร้าใจ
แต่ไม่รู้ว่าเพลงที่ได้ยินนั้นชื่ออะไร
บทความนี้จะนำรายชื่อ 10 บทเพลงที่คุ้นหูและเป็นอมตะจากยุคนั้น
มาให้ได้ศึกษากัน
1. The Track of My Tears - Smokey Robinson
ภาพยนตร์สงครามเวียดนามที่ตำนานเทียบเท่ากับเรื่อง 'Saving Private Ryan' ในภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 อันมีชื่อเรื่องว่า 'Platoon' ภาพยนตร์สงครามที่
กำกับโดยผู้กำกับมากความสามารถ โอลิเวอร์ สโตน (Oliver Stone)
เขานำประสบการณ์ส่วนตัวของเขาที่เคยพบเจอตอนที่ยังเป็นพลทหารธรรมดาๆ
คนหนึ่งที่ต้องเอาชีวิตตนเองให้รอดไปวันๆ ในป่าดงดิบอันห่างไกลของเวียดนาม
เพลง The Track of My Tears ขับร้องโดย สโมคกี้ โรบินสัน
(Smokey Robinson) แห่งวงเดอะมิราเคิล (The Miracle) ก็ช่วยบอกเล่าเรื่องราว
ความระทมทุกข์ของทหาร ที่จำต้องกัดฟันอดทนและฝืนยิ้มให้กับโชคชะตาที่ไม่แน่
นอนในสนามรบ
ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Platoon เราจะเห็นคริสตัวเอกของเรื่องและเพื่อนๆ ทหาร ทั้งดื่มและสูบพร้อมกับกอดคอกันร้องเพลงนี้ในบังเกอร์ เพื่อลืมความทุกข์ที่มี สมกับท่อนหนึ่งของบทเพลงที่ว่า
“ลองมองดูหน้าฉันให้ดีๆ คุณจะเห็นรอยยิ้มแสดงออก แต่เมื่อมองใกล้ๆ ใจช้ำชอก มันบ่งบอกรอยน้ำตาให้ปรากฏ”
(So take a good look at my face, You know my smile looks out of place,
If you look closer it's easy to trace, The tracks of my tears)
ฟังเพลงได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=rNS6D4hSQdA&feature=youtu.be
2. HANG ON SLOOPY - The McCoys
เพลงจังหวะสนุกๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์สงครามแนวตลกคอมเมดี้ที่ได้แรง
บัลดาลใจมาจากเรื่องจริง 'Operation Dumbo Drop'
ภาพยนตร์เรื่องนี้หามีฉากการรบเลือดท่วมหรือดราม่าของสงครามเฉกเช่น
ภาพยนตร์สงครามเวียดนามเรื่องอื่นๆ ที่เคยทำ แต่มันเป็นปฏิบัติการส่งช้างทั้งตัว
กระโดดร่มลงสู่พื้นดิน ทหารกลุ่มหนึ่ง เด็กคนหนึ่งและช้างตัวหนึ่ง ร่วมเดินทางไป
ด้วยกันเพื่อทำภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจนได้
รอยยิ้มและเสียหัวเราะที่มากับมุขตลกที่ไม่ลึกมากและชวนหัวได้ง่ายๆ จึงเหมาะสม
กับเพลงจังหวะสนุกๆ ของวง The McCoys ที่ชื่อ HANG ON SLOOPY เสียงกลองและเบสชวนให้ผู้ฟังลุกขึ้นมาส่ายสะโพกตามสไตล์เพลงแนวป๊อปร็อคของยุคนั้น
ช่วยสร้างสีสันในการดำเนินเรื่องราวของภาพยนตร์สงครามแบบเบาสมองเรื่องนี้
ให้ชวนน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/Nuw8GJbqx94
3. All Along the Watchtower - Jimi Hendrix
เพลงอันเป็นตำนานที่ขับร้องโดยนักร้องผิวสีอย่าง จิมมี่ เฮนดริกซ์ ที่พกพาความเป็นดนตรีแนวกรันจ์ โดยมีการโซโลเสียงเพลงให้ชวนเข้าสู่ภวังค์จากเสียงของกีตาร์ที่
บาดลึกต่ออารมณ์ เนื้อเพลงที่แสดงให้เห็นถึงการเสียดสีสังคมจากความเหลื่อมล้ำ
ของชนชั้น เข้ากันดีกับชีวิตทหารที่ไปรบในเวียดนามซึ่งส่วนใหญ่มาจากชนชั้นล่าง
และชนชั้นกลางบางส่วน ขณะที่ชนชั้นสูงลูกคนรวยทั้งหลายเสพสุขอยู่บ้าน ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาตัวเองไปรบในป่าดงดิบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง 'Forrset Gump' ฉากที่ฟอเรสและเพื่อนๆ ทหาร
ต้องเดินลาดตระเวนลุยไปในพื้นที่ต่างๆ ทั้งบนถนน ในนาข้าว ลุยป่าฝ่าดง หรือมุด
อุโมงค์ โดยมีเพลงจิมมี่ เฮนดริกซ์ ประกอบฉาก มันช่วยแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของทหาร ที่ต้องจากบ้านมารบในสงครามที่พวกเขาเองก็ไม่เคยเข้าใจ
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/TLV4_xaYynY
4. Ride of the Valkyries - Richard Wagner
ภาพยนตร์สงครามเวียดนามที่หลายคนมักจะบ่นว่าดูไม่รู้เรื่องในรอบแรก ต้องดูมากกว่าหนึ่งครั้งถึงจะเข้าใจ นั่นคือ 'Apocalypse Now' ฝีมือกำกับของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา
เรื่องราวของหน่วยรบพิเศษของอเมริกันกลุ่มหนึ่งถูกส่งเข้าไปล่าสังหารนายทหาร
อเมริกันคนหนึ่งซึ่งหนีทัพ การเดินทางที่แสนยาวไกลและต้องฝ่าสมรภูมิรบอัน
ดุเดือด พร้อมๆ กับคำถามในบทภาพยนตร์ที่ยิ่งดูยิ่งลึกลับในเรื่องราว และชวนให้ผู้ชมที่ยังไม่หลับไปเสียก่อนได้ติดตามต่อไปจนจบ
แม้ภาพยนตร์อาจจะอืดอาดในการดำเนินเรื่อง แต่ทว่า ฉากการรบในภาพยนตร์
กลับทำได้อลังการและยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฉากการโจมตีทางอากาศ
ต่อหมู่บ้านที่มีข้าศึกซ่อนตัวอยู่ภายใน ซึ่งมาพร้อมกับเสียงเพลงซิมโฟนีชื่อ Ride of the Valkyries โดยคีตกวีเอกชาวเยอรมันแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 นามว่า
ริชาร์ท วากเนอร์
เสียงเพลงที่ประกอบในฉากนี้ทำความอลังการของฉากภาพยนตร์นั้นสมบูรณ์ ภาพ
ของฝูงบินเฮลิคอปเตอร์อเมริกันแบบต่างๆ บินเกาะกลุ่มมุ่งตรงเข้าหาเป้าหมาย
ระดมยิงจรวดอากาศสู่พื้นและตามด้วยการยิงถล่มจากปืนกลประจำเครื่อง รวมทั้ง
ทหารที่ถูกลำเลียงมาบนเครื่องก็ใช้อาวุธประจำกายร่วมระดมยิงข้าศึกเช่นกัน
การระเบิดของสิ่งปลูกสร้างบนพื้นดินรวมถึงการทิ้งระเบิดนาปาล์มใส่ที่มั่นข้าศึก มันแสดงให้ผู้ชมได้เห็นและเร้าอารมณ์ไปกับฉากของสงครามล้างผลาญที่เกิดขึ้นใน
ฉากนี้
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/GGU1P6lBW6Q
5. These Boots Are Made For Walkin - Nancy Sinatra
นี่อาจจะเป็นฉากที่คนทั่วไปมองว่าล่อแหลมและส่อไปในเรื่องขายบริการทางเพศ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง 'Full Metal Jacket'
ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตเกรียนๆ ของเด็กหนุ่มอเมริกันที่แปรเปลี่ยนชีวิตตนเองมาเป็นทหาร
ฉากตอนที่ทหารอเมริกันสองนายนั่งอยู่ริมถนน และมีหญิงสาวเวียดนามเดินมาหา
พร้อมกับเสนอราคาค่าตัวในการร่วมหลับนอนกับเธอ เสียงดนตรีประกอบที่มีเพลง These Boots Are Made For Walkin ขับร้องโดย แนนซี ซินาตรา ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกที่แทบแยกกันไม่ออกระหว่าง 'ความรัก' กับ 'ความใคร่'
ชายหนุ่มหญิงสาวที่มาพบกัน พวกเขาก็มีจุดประสงค์ในความต้องการที่มีอยู่ใน
ตัวของอีกฝ่าย
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/SbyAZQ45uww
6. What a wonderful world - Louis Armstrong
ฮอลลีวู้ดนำทีมงานมาถ่ายทำภาพยนตร์สงครามเวียดนามในเมืองไทยหลายเรื่อง
หนึ่งในภาพยนตร์ที่เป็นอมตะอย่างภาพยนตร์เรื่อง 'Good Morning Vietnam' ก็
เป็นหนึ่งในนั้นและยังมีนักแสดงชาวไทยอย่าง จินตหรา สุขพัฒน์ ร่วมแสดงคู่กับ
โรบิน วิลเลี่ยม ตัวเอกของเรื่องนี้
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของนักจัดรายการวิทยุที่ชื่อเอเดรียน โครเนอร์ ที่มาทำหน้าที่เป็นนักจัดรายการวิทยุในกรุงไซ่ง่อนประเทศเวียดนามใต้ โดยเขามีหน้าที่จัดรายการวิทยุเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทหารอเมริกันที่ปฏิบัติการรบในเวียดนาม รายการของโครเนอร์เป็นที่ชื่นชอบของทหาร และเขากลายมาเป็นดีเจที่ได้รับ
ความนิยมเป็นอย่างมาก
ฉากหนึ่งในภาพยนตร์โครเนอร์มอบเพลงนี้ให้ทหารอเมริกันทุกคน ในเช้าตรู่วันหนึ่งโดยในฉากนี้แสดงให้เห็นกิจวัตรและความเป็นไปของทหารและวิถีชีวิตของ
ชาวเวียดนาม ที่มีทั้งความสงบและความรุนแรงปะปนกันไป โดยมีเพลงของนักร้อง
อันเป็นตำนานอย่างหลุยส์ อาร์มสตรอง ที่ชื่อ What a wonderful world
ประกอบฉากนี้
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/CWzrABouyeE
7. For What It's Worth - Buffalo Springfield
เพลงดังจากวง Buffalo Springfield ที่เคยประกอบฉากในภาพยนตร์หลายๆ
เรื่องร่วมถึงฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump ตอนที่กัมป์และเพื่อนๆ เดินลุยป่าท่ามกลางสายฝนออกมาจากป่า แล้วจู่ๆ ฝนที่เคยตกแบบไม่ลืมหูลืมตามา
ตลอดหลายวันพลันหยุดลงราวกับมีคนกดปุ่มปิดมัน แต่ทันใดนั้นข้าศึกก็เปิดฉากยิงใส่หมวดของกัมป์อย่างหนัก เพื่อนๆ ของเขาถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวน
มาก
เพลง For What It's Worth เป็นเพลงช้าที่มีความหมายดีและมันกลายเป็นเพลงที่
เหล่าบรรดาผู้ประท้วงต่อต้านสงครามนำมันไปเปิดในการชุมนุมแทบทุกแห่ง
โดยเนื้อเพลงที่พูดถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นและตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่หยุดความ
รุนแรงที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ ซึ่งชื่อเพลงนี้หากแปลตรงตัวก็จะได้ความหมายตรงๆ
นั่นคือคำว่า “สำหรับสิ่งที่คุ้มค่า” อันหมายถึงสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับชีวิตมนุษย์คือ
การอยู่อย่างสันติ
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/gp5JCrSXkJY
8. Gimme Shelther - The Rolling Stones
ในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์แอคชั่นคอมเมดี้เรื่อง 'Air America' ที่นำปฏิบัติการ
ลับของอเมริกันในประเทศลาวโดยฝูงบินลำเลียงของซีไอเอในภารกิจช่วยเหลือกองกำลังรัฐบาลลาว เพื่อรบต่อต้านพวกคอมมิวนิสต์ในประเทศ
เป็นฉากที่พระเอกของเรื่องทั้งยีน ไรแอค (นำแสดงโดย เมล กิ๊บสัน) และบิลลี
(โรเบิร์ต ดาวนี่ จูเนียร์) กำลังนำเครื่องบินที่บรรทุกปืนและยุทธภัณฑ์ต่างๆ
เพื่อเตรียมไปขาย แต่พวกเขาจำต้องนำเครื่องบินร่อนลงไปช่วยเหลือผู้อพยพที่กำลังตกอยู่ท่ามกลางการรบระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลและพวกคอมมิวนิสต์อย่างไม่เต็มใจนัก โดยมีเพลงของสุดยอด
วงร็อคแห่งยุคอย่างวง The Rolling Stones ขับขานบทเพลงอันมีเนื้อเพลงที่บ่งบอกถึงอันตรายต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวบนโลกที่มีแต่ความโหดร้ายรุนแรง โดยหวังว่า
จะมีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วย ซึ่งเหมาะกับฉากนี้เป็นอย่างมาก
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/RbmS3tQJ7Os
9. Freedom Again - Ron Bloom
เชื่อเหลือเกินว่าเพลงนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่ หรือแม้แต่เอ่ยชื่อภาพยนตร์
เรื่อง 'Missing in Action' ภาพยนตร์ที่เพลงนี้ถูกนำไปประกอบก็ยังแทบจะไม่มีใครรู้เลยในเมืองไทย แต่หากเอ่ยชื่อพระเอกนักบู๊ที่แสดงเป็นตัวเอกของเรื่องอย่าง
ชัค นอริส ก็คงจะมีคนรู้จักกันบ้าง
โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้มีด้วยกันทั้งหมดถึง 3 ภาค และในภาคที่ 3 พันเอกแบรด
ด็อค ซึ่งแสดงโดยชัค นอริส กับภารกิจลุยเดี่ยวบุกเข้าไปในเวียดนามเพื่อช่วยเมีย
และลูกออกมาจากที่นั่นให้ได้ จากเดิมที่เขาหวังจะนำพาครอบครัวตัวเองกลับมา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องช่วยเด็กๆ ลูกครึ่งอเมริกันเวียดนามนับสิบชีวิตให้รอดพ้น
จากการถูกจองจำ
เพลง Freedom Again ขับร้องโดย รอน บลูม ถูกเลือกมาประกอบฉากแรกของภาพยนตร์ โดยเนื้อเพลงนั้นบอกเล่าถึงความโดดเดี่ยวของทหารผ่านศึก ที่ผ่าน
สมรภูมิเพื่อประเทศชาติและหลั่งเลือดมาแทบเอาชีวิตไม่รอด เขาเป็นยอดทหารกล้าในสมรภูมิ แต่เมื่อมาถึงบ้านเขากลายเป็นคนไร้ค่าไม่มีใครเหลียวแล
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/1xev6tAxc7w
10. Fortunate Son - Creedence Clearwater Revival
นี่คือเพลงที่เป็นที่สุดของที่สุดและมันคือเพลงของสงครามเวียดนามโดยแท้จริง ภาพยนตร์สงครามทั้งยุคเวียดนาม หรือยุคถัดมา หรือแม้แต่ภาพยนตร์แอคชั่น ก็ยังนำ
เพลงนี้ไปประกอบภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน เนื้อหาของเพลงก็เฉกเช่น
เพลงร็อคในยุคนั้นที่เสียดสีสังคม โดยคำว่า Fortunate Son เมื่อแปลตามความ
หมายก็จะแปลว่า 'ลูกเทวดา' ขับร้อง
โดยวงร็อคแห่งตำนาน Creedence Clearwater Revival เพลงนี้ได้รับการจัด
อันดับไว้ในลิสต์ 500 Greatest Songs of All Time โดยเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่
ชัดเจนมากในเรื่องการแซะ คือท่อนที่ร้องว่า It ain't me, it ain't me, I ain't no senator's son หมายถึง “กูไม่ใช่ กูไม่ใช่ ลูกชายท่าน ส.ว.”
หลายคนเมื่อฟังเพลงนี้ในยุคนั้นก็คิดไปตามๆ กันว่า ลูกชายตาสียายสาถูกเกณฑ์ถูกส่งไปรบในเวียดนาม แต่ลูกชายผู้ดีผู้มีอำนาจกลับนอนอยู่บ้านสบายๆ
ฟังเพลงได้ที่ : https://youtu.be/ec0XKhAHR5I
เรื่อง : ปัญญาณัฏฐ์ ณัธญาธรนินน์
ภาพประกอบ : ชุติมณฑน์ ปทาน
โฆษณา