เรื่องราวของริดซี่ (ใครเพิ่งกินข้าว....ไม่แนะนำให้อ่านนะ)
ริดซี่
บล็อคแรกของเรื่องขรี้ๆเยี่ยวๆ
**ริดซี่...เรื่องที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน**
วันนี้อยากกจะมาเล่าแบบหมดเปลือกในเรื่องลับๆของริซซี่
ใครที่เคยเป็นเหมือนกันมาพูดคุยกันได้นะคะ
เรากับริดซี่เป็นเพื่อนกันมากว่า 20 ปี สาเหตุคือเป็นคนท้องผูกมาตั้งแต่เด็ก
ล่วงเลยมาจน 7 ปีที่แล้ว
รักษาด้วยตัวเองมาทุกวิถีทาง ตั้งแต่ กินยาระบาย (อันนี้ยิ่งทำให้เป็นเยอะนะ) นั่งน้ำร้อน ตรวจกับหมอแผนปัจจุบัน
เริ่มเป็นหนักมากขึ้นเรื่อยๆ คือถ่ายเป็นเลือดสดๆ ย้ำว่าเลือดสดๆ ไหลไม่หยุด จนต้องใส่ผ้าอนามัยตลอด
พบแพทย์ด่วนสิค่ะ หมอเห็นแผลปุ๊บ ให้ยาแก้ปวด ลดบวมกับแก้อักเสบมา นัดคิวผ่าออกอีก 1 เดือน หมอบอกว่าผ่าริดซี่ไม่น่ากลัว ไม่ใช่ผ่าตัดใหญ่ แป๊บเดียวก็หาย
คุณแม่เราเคยก็เป็นริดซี่เหมือนกัน แต่ผ่าออกไปแล้ว คุณแม่เล่าว่า ผ่าแล้วดีขึ้น แต่ผลข้างเคียงคือ เราจะควบคุมเวลาที่ปวดข** ไม่ค่อยได้ และมีโอกาสกลับมาเป็นอีก ถ้าท้องผูกเป็นอีก ก็ผ่าใหม่
พอรู้ว่าต้องผ่าตัด ก็กังวลมากนะ ใจก็อยากจะผ่าเลย เพราะเลือดออกเยอะจนน่ากลัว อีกใจก็ กลัวเจ็บ เริ่มหาข้อมูล เผื่อมีทางเลือกอื่น
อีก 2 วันก่อนผ่าตัด....
สวัสดีค่ะ! แพทย์ทางเลือก
หมอ Claim ว่า รักษาด้วยยาสมุนไพร! ขับรถไปปรึกษาทันที
หมอเอา Reference ทั้งก่อน-หลัง ที่เคยรักษาคนไข้มาให้ดู บอกถึงการดูแลตัวเองหลังรักษา แล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ต้องรีบก็ได้ (แต่อิชั้นอีก 2 วัน ต้องผ่าตัดละจ้า)
หมอบอกว่า รักษากับหมอไม่ต้องผ่าตัด ทำแล้วโอกาสกลับมาเป็นอีกน้อยมาก เพราะจะทำให้น้องริดซี่ที่อยู่ข้างในหลุดด้วย เจ็บนิดเดียว รักษาเสร็จแล้ว จะมียาสมุนไพรให้มา แล้วก็นั่งในน้ำร้อน (อ๊าา..งงอะดิ ... ตอนจะทำก็งงเหมือนกัน)
ถามหมอกลับไปว่า ทำได้เลยไหม ต้องเตรียมตัวก่อนยังไง หมอบอกว่า ตัวไม่ต้อง เตรียมใจอย่างเดียว ทำได้เลย (แอบสงสัย ทำไมต้องเตรียมใจวะ ก็หมอบอก ไม่เจ็บ ไม่ได้ผ่าตัด)
และวันนั้น ตัดสินใจ ทำเลยจ้าาา
เอาละโว๊ยยย!...ขึ้นเขียง
หมอให้นอน หันก้นให้หมอ และหมอก็พูดว่า แผลอักเสบมาก จะไหวไหมเนี่ย (ในหัวตอนนั้น ก็หมอบอกไม่เจ็บ เริ่มหลอน จริงปะวะเนี่ย)
หมอบอกว่า เจ็บนิดนะ ทนหน่อย แต่รับรองไม่เจ็บเท่าผ่าตัด และ หายเร็ว ไม่มีผลข้างเคียง
หมอพูดจบป๊าบบบบ จี๊สสสสสเลยจ้าาาา น้ำตาไหลทันที
ถามหมอทันทีว่า หมอทำอะไรเนี่ย คือทั้งร้องไห้ทั้งกริ๊สจ้าา
หมอบอกว่า นิดเดียวๆ คือเหมือนเอาเข็มฉีดยาชาฉีดไปที่น้องริด
หมอรักษาอยู่ประมาณ 20 นาทีได้ หมอบอกตลอด อดทนนะ เดี๋ยวหาย
เราก็ รักษาไปกริ๊สสไปจ้าา น้ำตาไหลพรากกก เจ็บที่สุดในชีวิต
พยาบาลก็ซับเลือดตลอด (ในหัวตอนนั้น ไหนหมอบอกไม่เจ็บบบบบบบ)
จบสิ้น
รักษาเสร็จจ้า หมอให้ยา แก้ปวด ลดบวม แก้อักเสบ
และ ยาเป็นผงๆ สมุนไพร (อ๋อออ นี่ไงรักษาสมุนไพร)
มันคือผงด่างทับทิม (อันนี้คือที่สุด ช่วยหยุดเลือด)
หมอให้เอาผงด่างทับทิม ผสมน้ำร้อน แล้วให้นั่งในน้ำร้อนประมาณ 10 วัน หรือ นั่งจนกว่าจะหายบวม
เราถามหมอว่า เลือดออกก็นั่งได้หลอ หมอบอกว่า นั่งได้เลย น้ำด่างทับทิม ช่วยหยุดเลือด นั่งเถอะ สัก 3-4 วัน จะดีขึ้น นั่งบ่อยๆ แผลที่ทำ จะหลุดไปเอง
เราก็เห้ยย จริงหลอ!!
หมอ Claim ว่า ริดซี่ มีทั้งข้างในและข้างนอก วิธีรักษาสมุนไพร จะทำให้น้องริดข้างในหลุดออกมาด้วย และไม่ทำให้ หูรูดเรามีปัญหาจนควบคุมไม่ได้
ปัจจุบัน เราไม่เป็นท้องผูกแล้ว และ ไม่มีปัญหาเรื่องการควบคุม**ด้วย
ที่ตัดสินใจเลือกแพทย์ทางเลือก เพราะขอลองดูก่อน ยังไม่อยากผ่าตัดจริงๆ
กลัวเป็นแบบคุณแม่ พออายุเยอะแล้วหูรูดมีปัญหา
มาเล่าให้ฟัง เผื่อเป็นทางเลือก สำหรับคนเป็นริดซี่เหมือนกับเรา
ตอนนั้นก็กลัวนะ แต่ก็เอาวะ ก็มีคนเคยทำ แต่ถ้าหาข้อมูล ไม่ค่อยมีใครมาเปิดเผยว่าทำยังไง แม้กระทั่งหมอเอง ยังไม่บอกเลย ว่ารักษาต้องจิ้มอะไรบ้าง
รู้กันหน้างานเลยจ้า แต่ขอบคุณที่ตัดสินใจถูกวันนั้น
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
