Eigen Vectors กับ Ritz Vectors แตกต่างกันยังไง ? คิดว่าหลายๆ คนคงจะงง ในการวิเคราะห์ทางพลศาสตร์เพื่อหาคาบธรรมชาติของโครงสร้างนั้นเราเรียกว่า Eigen Value Analysis ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของปัญหาทางคณิตศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับหาคาบธรรมชาติเพียงอย่างเดียว เช่น ปัญหาของการโกร่งเดาะของเสา (Buckling Analysis) ก็เป็นรูปแบบปัญหาคณิตศาสตร์แบบ Eigen Value Form เหมือนกัน
สมการทางคณิตศาสตร์แบบตรงตัวของปัญหา Eigen Value จะอยู่ในรูปแบบสมการ Polynomial ยิ่งจำนวนโหมดมากเท่าไร จำนวนดีกรีของสมการ Polynomial ยิ่งสูงขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือ Eigen Value ซึ่งคือ ความถี่หรือคาบธรรมชาติ และ Eigen Vectors หรือคือรูปแบบหรือโหมดการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง
ถ้าสิ่งที่เราต้องการคือ Eigen Vectors แล้วทำไมถึงมี Ritz Vectors ด้วย ?
เนื่องจากจำนวนโหมดที่เป็นไปได้ของโครงสร้างนั้นขึ้นกับจำนวน Degrees of Freedom (DOFs)ในโครงสร้าง ดังนั้นยิ่งโครงสร้างขนาดใหญ่ ยิ่งมีจุดต่อและ DOFs สูงตาม ทำให้ปัญหา Eigen Value มีขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถที่จะแก้สมการ Polynomial ที่มีดีกรีหลักหลายร้อยหรือหลายพันได้ จึงมีเทคนิคมากมายในการแก้ปัญหา เรียกรวมๆ ว่า Matrix Iteration ซึ่ง Subspace Iteration และ Lanczos Iteration ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่พยายามจะแก้ปัญหาเพื่อหาค่า Eigen Value และ Eigen Vectors ออกมา
ยิ่งปัญหาใหญ่มากยิ่งสูญเสียทรัพยากรและเวลามาก คำถามจึงกลับมาว่า เราจะประหยัดได้อย่างไร ? จึงกลับมาที่ปัญหาหลักคือ เราต้องการ Eigen Values และ Eigen Vectors ทั้งหมดจริงหรือไม่ ?
คำตอบ คือ ไม่ การวิเคราะห์ปัญหา Free Vibration เพื่อให้ได้ Eigen Values และ Eigen Vectors นั้นจะได้ทุกคาบและโหมดเชพที่เป็นไปได้ออกมา แต่มันมีบางคาบและโหมดเชพที่เราไม่ต้องการ หรือ ไม่รู้ก็ไม่ได้ทำให้คำตอบของปัญหาผิดพลาดไปแต่อย่างใด
เช่น แรงพลศาสตร์กระทำในแนวแกน X สิ่งที่เราต้องการ คือ คาบหรือความถี่ธรรมชาติที่สั่นในแนวทาง X เนื่องจากมันสามารถที่จะถูก Amplified หรือ De-amplified แรงที่กระทำได้ ในขณะที่คาบหรือความถี่ธรรมชาติที่สั่นในแนวทาง Y ที่ตั้งฉากกับแรงพลศาสตร์ที่กระทำนั้น ไม่ได้มีผลอะไรกับปัญหานี้ ดังนั้น จึงรู้ก็ได้ ไม่รู้ก็ได้ จึงนำมาซึ่งคอนเซปของ Ritz Vectors
เนื่องจากการแก้ปัญหา Eigen Values ปกตินั้น ไม่สนใจว่ามีแรงกระทำทางไหน แต่หาทุกความเป็นไปได้ของการสั่นออกมาทั้งหมด มันจึงติดบางโหมดที่ไม่จำเป็นออกมาด้วยทำให้เสียพื้นที่และเวลาในการจัดเก็บข้อมูล