14 ก.ย. 2020 เวลา 16:36 • ประวัติศาสตร์
"เรื่องหลอน ผีเฝ้าเรือกำปั่นโบราณ..!! จ.บึงกาฬ"
.
เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนมีข่าวนึงซึ่งน่าสนใจ เป็นข่าวการพบเรือกำปั่นโบราณที่จมอยู่ในแม่น้ำโขงมานานหลายสิบปี ซึ่งในอดีตชาวบ้านก็เคยคิดจะกู้เรือลำดังกล่าวมาแล้วแต่ว่าไม่สำเร็จ แต่เพิ่งจะมาทำสำเร็จก็ครั้งนี้เอง
โดยเสียงเล่าลือของชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น มักจะพูดตรงกันว่าจุดที่เรือกำปั่นโบราณจมนั้น มักจะเจอเรื่องราวแปลกๆ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้แทบไม่มีใครกล้าพายเรือผ่านไปตรงนั้น
 
จากการสันนิษฐานเรือกำปั่นโบราณลำที่จมอยู่นี้ เป็นเรือโบราณจมอยู่ในแม่น้ำโขงมากว่า 69 ปีแล้ว ตัวเรือขับเคลื่อนด้วยพลังไอน้ำ ซึ่งบรรทุกสินค้าจำพวกไวน์จากจังหวัดนครพนมเพื่อนำไปขายยัง นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เมื่อราวเดือนสิงหาคม พ.ศ.2490 เรือลำดังกล่าวได้ล่องผ่านมาทางแม่น้ำโขงภายในเรือมีฝรั่งที่เป็นคู่สามีภรรยากัน พร้อมกับลูกเรือซึ่งเป็นคนพื้นที่ แต่เคราะห์ร้ายที่เรือมาเกิดอุบัติเหตุล่มที่นี่โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
โดยว่ากันว่าในช่วงที่เรือล่ม ลูกเรือต่างพากันกระโดดหนีตายหมด เหลือเพียงฝรั่งคู่สามีภรรยาเท่านั้น ที่ยอมตายเป็นผีเฝ้าเรือกำปั่นของตนเอง โดยปิดประตูห้องขังตัวเองแม้เรือกำลังจะล่มจมน้ำโขง..!!
ทั้งนี้ในอดีตเคยมีการพยายามกู้ซากเรือดังกล่าวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ด้วยกัน แต่ไม่สำเร็จ จนล่าสุดเมื่อ 4-5 ปีก่อน ชาวบ้านพร้อมหน่วยงานราชการได้ตัดสินใจมากู้เรือกำปั่นที่ว่านี้อีกรอบ
ด้าน นายวีระชัย แก้วเทพ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การกู้เรือกำปั่นครั้งที่ 3 นี้ ได้รับความร่วมมือจากทั้ง นาวาเอกสุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข. เขตหนองคาย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองบึงกาฬ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ตลอดทั้งชาวบ้านบ้านท่าไคร้ โดยได้ว่าจ้างบริษัทอู่เล้งเซอร์วิส เป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท เพื่อที่จะนำเรือกำปั่นโบราณลำนี้ขึ้นมาไว้เป็นสมบัติของชาวบึงกาฬได้ชื่นชม
โดยก่อนหน้านี้เคยมีการกู้เรือลำนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ในสมัยที่เรือล่มใหม่ๆ ในเดือนสิงหาคม 2490 และในเดือนเมษายน 2491 แต่กู้เรือขึ้นมาได้ไม่สำเร็จ จึงต้องมีความพยายามอีกเป็นหนที่ 3..
โดยเรือลำนี้มีความยาวประมาณ 25-30 เมตร ความกว้าง 4-5 เมตร ลึกหรือสูงประมาณ 5 เมตร ก่อนกู้ขึ้นมานักปะดาน้ำได้ลงไปดูใช้เวลาสำรวจ 30 นาทีพบว่าเรืออยู่ในสภาพดี แต่มีทรายอัดแน่นเต็มลำเรือ เรือจะเกยอยู่บนก้อนหินทรายขนาดใหญ่ เอียง 30 องศาและขวางทางน้ำไหล หัวเรือหันไปทางฝั่ง สปป.ลาว ท้ายเรือติดตลิ่งฝั่งไทย
จึงใช้สลิงมัดเรือและให้รถแบ็คโฮลองลากให้ตึง แล้วยกขึ้นทีละน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เรือเสียหายมาก ใช้เวลา 4-5 วัน จึงกู้เรือกำปั่นได้สำเร็จ
ด้านชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นเล่าให้ฟังว่า อยากให้ทางการกู้เรือลำนี้นำไปไว้ที่วัด เนื่องจากเชื่อว่าเรือลำนี้มีอาถรรพ์ วิญญาณสามีภรรยาฝรั่งน่าจะยังสิงสถิตอยู่ เพราะทั้งคู่หวงสมบัติของตนเอง โดยที่ผ่านมาชาวบ้านและคนหาปลาต่างเล่าลือถึงการพบเจอเรื่องราวชวนหลอนอยู่ตลอดเวลา
**..ชาวบ้านออกหาปลาตอนค่ำเล่าว่า เวลาที่ล่องเรือผ่านจุดที่ว่ามีเรือกำปั่นโบราณจมอยู่ มักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวน เป็นเสียงผู้หญิง เหมือนกับต้องการให้ช่วยอะไร..!!
**..ชาวบ้านบางคนขนาดถูกดวงวิญญาณตามไปเข้าฝัน โดยมาทั้งดีและไม่ดีบ้าง แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าวิญญาณมาขอให้ช่วย เนื่องจากดวงวิญญาณติดอยู่กับเรือมาหลายสิบปีแล้ว ไม่ได้ไปผุดไปเกิดสักที..!!
**..หรือเคยมีชาวบ้านที่เจตนาไม่ค่อยดีเท่าไร คิดว่าเรือกำปั่นลำนี้ที่จมอยู่น่าจะมีทรัพย์สมบัติไม่น้อยอยู่ในลำเรือ จึงได้พากันลงไปดำน้ำงมหา แต่กลับพบเรื่องราวชวนหลอนใต้ผิวน้ำ จนไม่มีใครกล้าไปงมหาอีก..!!
**..หรือกระทั่งช่วงที่มีการกู้เรือกำปั่นขึ้นมา ขณะที่กำลังเอาเรือไปไว้ที่วัดแห่งนึงในหมู่บ้าน ได้เกิดเหตุการณ์ปาฎิหารย์ขึ้น คืออยู่ๆ ท้องฟ้าจากที่ว่ามีแดดเปรี้ยงๆ กลับกลายเป็นมืดครื้มเหมือนฝนจะตก แล้วก็มีเสียงฟ้าร้องคำรามมาเป็นระยะๆ ด้วย
นอกจากนี้ผู้ขับรถขนเรือกำปั่นไปไว้ที่วัดยังเล่าให้ฟังอีกว่า เขารู้สึกว่าสิ่งที่บรรทุกมาหนักมากจนรถวิ่งแทบไม่ไป ทั้งที่เท่าที่ดูเรือก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น รวมถึงระหว่างทาง ยังได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังไปตลอดทางอีกด้วย..!!
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากความน่ากลัวสยองขวัญ ก็มีผู้คนพูดถึงการให้โชคลาภบ้างเหมือนกัน เพราะทันทีที่ย้ายเรือไปไว้ที่ "วัดโพธิ์ธาราม" ก็มีประชาชนที่ตามไปขอเลขเด็ดเป็นจำนวนมาก
ปรากฏว่าถูกหวยกันเป็นแถว ปัจจุบันจึงมีพ่อค้าแม่ค้านำอาหารไปขายกันอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน ไม่เว้นแม้คนขายลอตเตอรี่ที่ต่างพากันขายดี บางรายถูกหวยเป็นแสนบาทเลยก็มี..
เอาเป็นว่าถ้าใครได้มีโอกาส ลองแวะไปเยี่ยมชมเรือกำปั่นโบราณลำนี้ที่วัดดูนะครับ หรือถ้าใครจะลองเสี่ยงโชคดูสักนิดก็ไม่เลวเหมือนกัน.
โฆษณา