15 ก.ย. 2020 เวลา 14:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🤨🤨หุ้นอมตะ คู่ตลาดหลักทรัพย์🍃
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศเปิดดำเนินการเมื่อปี 2518 ตอนแรกเรื่มมีหุ้นซื้อขายในตลาดเพียง 17 ตัว ใช้ระบบการซื้อขายแบบเคาะกระดาน
ผู้เขียนพอจะทันเห็นการดค่ะกระดานในช่วงยุคช่วงปลายๆ
จำได้ว่าห้องเทรดหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์ตอนนั้นยุ่งเหยิงมาก เต็มไปด้วย จนท broker ที่รอคำสั่งซื้อ และรอราคาที่ต้องการ ก็จะวิ่งไปเคาะกระดานแข่งกัน ชนกันอุตลุตก็มี ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า เค้าจัดระบบกันอย่างไร แต่ออกจะเห็นใจคนทำงาน เพราะดูเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน
จนเปลี่ยนการซื้อขายเป็นระบบคอมพิวเตอร์ ทุกอย่างก็ดูทันสมัยขึ้น ตามห้องค้าของโบรกเกอร์ทุกแห่ง ต้องมีกระดานใหญ่มาก ให้นักลองทน เอ๊ย นักลงทุนนั่งเฝ้าหุ้น. ช่วงที่น้าชาติเป็นนายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายา เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า เศรษฐกิจตอนนั้นรุ่งเรืองสุดๆ ทุกอย่างบูมหมด คนแย่งกันไปจองคอนโดตั้งแต่ตี 5 มืดฟ้ามัวดิน การซื้อขายหลักทรัพย์ก็เช่นกัน คึกคักมากค่ะ
นักลงทุนจะมาห้องค้าแต่เช้า กินอาหารเช้าที่นี่เลยก็มี ก่อนเทรดจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน มีแม้กระทั่งการปล่อยกู้กันระหว่างลูกค้าด้วยกันเอง ลูกค้ามาเล่าให้ฟังว่ามีแขกมาปล่อยกู้ดอกเบี้ยร้อยละ7 ต่อวัน แล้วก็มีคนกู้ด้วยนะ แขกบอกว่าถ้าหุ้นซิลลิ่งก็ได้กำไรแล้ว 3% ฟังแล้วโอ! คิดได้เนอะ ช่วงต่อมา เพื่อนร่วมงานเรานี่แร่ะ ถึงกับกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาเทรดหุ้น เห็นว่ากำไรดี แต่ช่วงหลังก็ไม่รู้นะ ว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้เจอกันอีกเลย
กลับมาที่ภาพที่นำมาให้ดู ภาพที่ทำให้ผู้เขียนคิดไปถึงอดีตสักหน่อยนะคะ
หุ้น 5 ตัวที่อยู่คู่ตลาดทุนไทยมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ตามภาพก็คงจะคุ้นตากันอยู่นะคะว่า เป็นอะไรบ้าง ตัวสุดท้ายอาจไม่คุ้นสักหน่อยเพราะว่าเปลี่ยนชื่อ ชื่อเดิมเขาคือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ลีกวงมิ้งทรัสต์ ตอนนี้เป็นบริษัททุนธนชาติ
มองไปที่คอลัมน์สุดท้าย ที่แสดงถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นจะเห็นว่าอัตราผลตอบแทนมโหฬารเลยค่ะอันนี้คือผลตอบแทนในระยะเวลา 45 ปีนะคะ ลองคิดผลตอบแทนต่อปีแบบง่ายๆ BBL มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุดที่ 12.8% ต่อปี SCC ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดที่ 692.5% ต่อปี
ตัวเลขนี้บ่งบอกอะไร???
ในมุมมองของผู้เขียน เห็นว่า ภาพนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเลือกหุ้นให้ถูกตัว และถือหุ้นในระยะกลางถึงยาว จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี
ปกติโดยทั่วไปแล้ว หนึ่ง cycle ของหุ้นจะใช้เวลาประมาณ 5 ปี (นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกองทุน LTF ที่ถูกยกเลิกไปแล้วถึงบังคับให้ลงทุนในรอบห้าปี) แต่รอบที่ว่า มันก็ไม่เสมอไปค่ะ มีปัจจัยกระทบหลายอย่าง ก็ต้องพิจารณาตามเหตุการณ์ไปค่ะ
สุดท้ายจะบอกว่า การเล่นหุ้นต้องอดทนต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลาย ต้องมีวินัย ล็อคเป้าจะขายที่ราคาเท่าใด เมื่อราคาถึงก็ต้องขาย
ซื้อปุ๊บขาดทุนปั๊บ ก็ต้องอดทน ถ้าเราเชื่อมั่นว่า ‘หุ้นตัวนี้ดี’
แต่ถ้าเราซื้อตามๆ เขาอันนี้น่ากลัว เพราะเราจะขาดความเชื่อมั่น ทำให้มีโอกาสทั้งติดดอย ช้อนหัก ขายหมู เป็นไปได้หมดค่ะ 😂😂😂
♥️♥️ถ้าคิดว่าเพจนี้มีประโยชน์ ฝากกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกท่าที่แวะมาเยี่ยม และให้กำลังใจค่ะ♥️♥️
โฆษณา