16 ก.ย. 2020 เวลา 09:30 • สุขภาพ
“นอนไม่หลับ” ทำไงดี 8 วิธีง่ายๆ ช่วยให้คุณหลับสบายขึ้น
เชื่อว่า อาการ “นอนไม่หลับ” เป็นปัญหาที่หลายๆ คนมักจะเจอ
ไม่ว่าจะเป็นนอนหลับไม่เป็นเวลา ข่มตานอนก็แล้วก็ไม่สามารถจะหลับได้
หรือไม่ว่าจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วนอนต่อไม่ได้ มางัวเงียตอนเช้าไม่อยากตื่น
ซึ่งเมื่อปล่อยไว้นานๆ ก็จะทำให้เสียสุขภาพเอาได้
ปัญหาที่ทำให้เกิดการนอนไม่หลับนั้น เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน
ซึ่งเมื่อนอนไม่หลับจะทำให้กระทบต่อการนอนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เวลาตื่นมาแล้วไม่สดชื่น
และทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน การใช้ชีวิต และความสัมพันธ์ได้อีกด้วย
โดยการนอนไม่หลับนั้นก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น นอนหลับยาก นอนหลับ
ไม่สนิท นอนหลับไม่เป็นเวลา ถึงเวลานอนแล้วนอนไม่หลับ ตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่น ฯลฯ
ผลกระทบจากการ “นอนไม่หลับ”
- ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
- เสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตเวชเพิ่มขึ้น
- ทักษะการสื่อสารแย่ลง
- อารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่ายมากขึ้น
- เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น
- มีปัญหาสุขภาพ เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ไม่มีสมาธิ รู้สึกไม่สดชื่น ฯลฯ
- ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า จะทำให้มีความเสี่ยงต่ออาการและความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายมากขึ้น
ระยะของอาการ “นอนไม่หลับ”
ระยะของอาการนอนไม่หลับ แบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
🟢 อาการนอนไม่หลับชั่วคราว : พบได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวัน
หรือเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่อยู่ หรือเกิดอาการ Jet Lag
🟢 อาการนอนไม่หลับในระยะสั้น : จะเกิดขึ้นในช่วง 2 – 3 วัน ไปจนถึง 3 สัปดาห์ โดยอาจเกิดขึ้นได้เมื่อเราอยู่ในภาวะเครียด เช่น ผู้ที่ป่วยหลังผ่าตัด เป็นต้น
🟢 อาการนอนไม่หลับเรื้อรังเป็นเดือนหรือเป็นปี : อาการแบบนี้อาจเป็นผลที่เกิดจากการใช้ยา มีการเจ็บป่วยเรื้อรัง ไม่ว่าจะทางกาย หรือทางจิตใจ หรือเกิดขึ้นแบบที่ไม่ทราบสาเหตุก็ได้
8 วิธีแก้อาการ “นอนไม่หลับ”
1. จัดห้องนอนให้เหมาะแก่การนอน ควรปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป ไม่ควรให้มีเสียงแทรกรบกวนมาได้ ห้องนอนควรมืดสนิท เพื่อการนอนหลับที่ดีมีประสิทธิภาพที่สุด
2. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป
3. ดื่มนมอุ่นๆ สักแก้วก่อนนอน จะช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
4. ไม่ควรงีบหลับในตอนกลางวัน เพราะอาจรบกวนการนอนในตอนกลางคืน หรือถ้าง่วง
จนทนไม่ไหวจริงๆ ก็อย่างีบหลับเกิน 1 ชั่วโมงเป็นอันขาด
5. ปรับระยะการนอนให้เพียงพอ ไม่มากหรือน้อยเกินไป ตื่นนอนแล้วควรลุกจากเตียงทันที
6. เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดิมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเวลานอน
7. หากเข้านอนแล้วนอนไม่หลับภายในเวลา 15-20 นาที ให้ลุกจากเตียงแล้วมาทำกิจกรรมอย่างอื่นแทนเพื่อช่วยให้ง่วง เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงที่ผ่อนคลาย โดยไม่ควรเล่นมือถือ
หรือเล่นคอมพิวเอตร์ เพราะแสงจ้าจะกระตุ้นสมองให้ตื่น รบกวนการนอน
8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อลด
ความตึงเครียดของอารมณ์ โดยควรออกกำลังกายในช่วงเช้าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด
เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยบรรเทา แก้อาการนอนไม่หลับให้ดีขึ้นได้ เพราะการนอนหลับเป็นเรื่อง
สำคัญและส่งผลต่อสุขภาพอย่างมหาศาล การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยให้นอนหลับ
ได้ดีขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตของเราได้อย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
หากชอบบทความของเรา อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม คอมเมนต์ เพื่อช่วยให้เราพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยนะคะ 💙💙
ติดตาม The NA Group ผ่านทาง Facebook ได้ที่
หรือทางเพจ https://nathailand.com/
โฆษณา