18 ก.ย. 2020 เวลา 23:19 • ประวัติศาสตร์
กระแสไอ้ไข่มาแรงมาก ทั้งเรื่องความศรัทธาจากผู้คนทั่วสารทิศ ทั่งเรื่องข่าวคราวหน้าจอทีวีที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่
ณ วันนี้ชาวนครศรีธรรมราชได้ต้อนรับผู้คนที่ศรัทธาไอ้ไข่รวมๆแล้วนับล้านคน
แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าใึครคือ ผู้เปิดตำนานนี้
#หลายคนรู้จักไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์
แต่น้อยคนนักจะรู้จัก
#ผู้เปิดตำนานเด็กวัดเจดีย์(ไอ้ไข่)
"เที่ยง หักเหล็ก"
ผู้เปิดตำนาน "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์"
ตัวจริง!!!!!
#ผู้ใหญ่เที่ยงเมืองอินทร์
หรือ นายเที่ยง หักเหล็ก
ทวดเที่ยง หรือ ผู้ใหญ่เที่ยงเมืองอินทร์ ฉายา เที่ยง หักเหล็ก
ประวัติที่มาของ ทวดเที่ยง หรือ ผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอินทร์ ฉายา เที่ยง หักเหล็ก ท่าน คือ #จอมมนต์คนขลังขมังเวช
ทวดเที่ยง เป็นปูชณียบุคคลของท้องถิ่น เป็นที่เคารพ บูชา ของคนในพื้นที่ และ ศิษยานุศิษย์
ในครั้งหนึ่ง ทวดเที่ยง ได้รับการเลือกจากนายอำเภอ ให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่ ทวดเที่ยง ไม่อยากจะเป็น เลยหนีออกจากบ้านไป เพื่อให้นายอำเภอ เลือกตั้งคนใหม่ขึ้นมาแทน
 
แต่นายอำเภอไม่ยอม เลยจับเอา
ภรรยา ของ ทวดเที่ยง เอาไปเป็นตัวประกัน เพื่อให้ ทวดเที่ยง มาแลกตัว ทวดเที่ยง เลยยอมมาแลกตัวกับภรรยา และแล้ว นายอำเภอลงโทษ ทวดเที่ยง ขังตารางไว้ 3วัน ในข้อหา หนีราชการผู้ใหญ่บ้าน ในขณะที่อยู่ในตาราง
ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว และถูกจำกัด เสรีภาพ ก็เลยฉีกเหล็กห้องขัง ออกมานั่งตากลม เพื่อ บรรเทาความร้อน แล้ว เข้ากลับไปห้องขังหุบเหล็กกลับไปเช่นเดิม จนครบเวลา3วัน แล้วกลับบ้านแล้วมารับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน จนเกษียณ
 
ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่ ทวดเที่ยง ได้ทำให้เห็น ด้วยทวดเป็นคนอารมณ์ดี และอารมณ์ขัน เช่น ตอน ทวดเที่ยง ได้สร้างบ้านของท่านเอง จึงเดินทางไปซื้อตะปู ที่ตลาดสิชล คือ ร้านกิ้มฮ้วย พอไปถึง ทวดเที่ยง ไปหยิบตะปู เจ้กิ้มฮ้วย เลยถามว่าซี้อไปทำอะไร ทวดเที่ยง ว่า จะซื้อเอาไม่ทำบ้าน แต่ซื้อไม่ลง เพราะตะปูนิ่มนวลเหมือน ฝักถั่ว เด็ดก็ขาด เจ็กิ้มฮ้วย หัวเราะ และก็ได้พูดกลับไปว่า.. ถ้าเด็ดขาดช่วยเด็ดให้ดูสักที ถ้าเด็ดขาดจริงๆ ตะปูซื้อไปสร้างบ้าน เจ้จะไม่เอาเงินจนจะสร้างบ้านเสร็จ ทวดเที่ยง ยิ้ม แล้วก็หัวเราะ แล้วหยิบตะปูขึ้นมาเด็ดให้เจ้กิ้มฮ้วยดู ซึ่งเป็นที่มา เจ้กิ้มฮ้วย ต้องเสียตะปูให้ทวดไปทำบ้าน
แต่จริงๆ แล้ว ทวดเที่ยง เคยบอกเล่าลูกหลานให้คนใกล้ชิดฟังว่า เมื่อตอนท่านเป็นวัยรุ่น ท่านเป็นคนจิตอ่อน ขี้กลัว ขี้ตกใจ ไม่สมกับเป็นผู้ชาย ครั้งสุดท้ายที่น้อยใจตัวเอง อายเพื่อนฝูง ซึ่งทวดได้เล่นกับเพื่อนใน กลุ่มเดียวกัน แต่เพื่อนได้แกล้งทวด หลอกผี ทำให้ทวดตกใจ และกลัวมาก เป็นที่อายเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ชายด้วยกัน ซึ่งเป็นที่มาในหนีออกจากบ้าน ไปหลายสิบปี จนเป็นที่กล่าวขานว่าเสียชีวิตไปแล้ว และ ตอนหลังทวดเที่ยงเดินทางกลับมาบ้าน ซึ่งมีวิชาอาคม สรรพศาสตร์ มากมาย ได้มาใช้ช่วยเหลือผู้คน ชาวบ้าน และได้ถ่ายทอดตำรับวิชาสู่ลูกคือ ทวดทัศน์
ปัจจุบันพิธีปลุกเสกไอ้ไข่
ต้องมีทวดทัศน์เป็นเจ้าพิธี
ทวดเที่ยง ได้มีฝีมือในด้านศิลปะ ในการแกะสลักไม้ซึ่งเป็นสุดยอดฝีมือในขณะนั้น และ แกะสลักรูป ฤาษี(พ่อแก่) ให้ลูกๆ หลานๆ ลูกศิษย์ ไว้เคารพบูชา ซึ่งเป็นที่รัก และ หวงแหนของลูกหลาน และ ศิษย์กันมาก
#มาถึงเรื่องที่ท่านเกี่ยวข้องกับ
"ไอ้ไข่"
สมัยก่อนเขาเรียก "เด็กวัด"
ซึ่ง ปี ๒๕๒๕ ได้เข้าไปในนิมิต ( ฝัน)
ทวดเที่ยง บอกให้ ทวดเที่ยง แกะรูป
ให้ที ในนิมิต(ฝัน) เที่ยววิ่งเล่น แก้ผ้าล้อนจ้อน เลยนำนิมิต(ฝัน) มาบอกกล่าว
พระครูเจติยาภิรักษ์ (พ่อท่านเทิ่ม)
ทวดเที่ยง บอก พ่อท่านเทิ่ม ว่า..
หากเห็นเด็กวิ่งแก้ผ้าเล่น ก็เรียก "ไอ้ไข่" แหละ นั้นคือที่มานาม "ไอ้ไข่"
และต่อมาได้ไปหาไม้มาแกะสลัก
ซึ่งเป็นไม้ตะเคียนคู่ จากวัดพระโอน (ร้าง) เมื่อแกะสลักเสร็จ เลยตั้งชื่อว่า "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์"
และ รุ่งปีขึ้นมา พระครูเจติยาภิรักษ์
( พ่อท่านเทิ่ม) และ ทวดเที่ยง ได้ทำพิธีสร้างเหรียญ รุ่นแรก ปี ๒๕๒๖
ขึ้นมา จำนวน ๑,๐๐๐ เหรียญ ใส่ถุงพลาสติก ๑๐ ถุง ใส่บาตรพระสีดำ ๑ ใบ และทำการ พุทธาภิเษก ปลุกเสกพร้อมกันทั้ง รูปแกะสลักไม้ตะเคียน และ เหรียญ รุ่นแรก ปี ๒๕๒๖
ซึ่งมีพิมพ์เดียวเนื้อเดียวเท่านั้น
นี้คือที่มา ของเหรียญ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" ปี ๒๕๒๖
นายทิพย์วิมล เกลี้ยงขำ เป็นผู้รับมอบมือให้แกะสลักต้นตะเคียนต่อ และทวดเที่ยง เป็นผู้ควบคุม นายเขียน ชูเพ็งเป็นผู้นำใส่รถเข็นมาวัด เพื่อเข้าพิธีอัญเชิญวิญญาณ ปลุกเสก โดยขั้นตอนแรกทำพิธีสมโภชพระพุทธรูป มีพระเจริญพุทธมนต์ พ่อท่านใจนั่งปรกคุมพิธี เสร็จพิธีเป็นพิธีเสกรูปเหมือน "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" และเหรียญรุ่นแรก โดย พ่อท่านทวี และทวดเที่ยง โดยมีนายชำนาญ แก้วทอง เป็นผู้จุดเทียนนับคาบเสก
ก่อนหน้าที่จะมีการแกะรูปไม้ตะเคียน เคยมีรูป "ไอ้ไข่" อีกรูปหนึ่งที่เป็นไม้ แกะสลักด้วยไม้ทองหลาง แต่ผุพังไป เพราะไม้ไม่ทนทาน และถูกปลวกมอดทำลาย ไม่เหมือนอย่างไม้ตะเคียน แต่ก็เป็นรูปที่แกะจากความฝันของทวดเที่ยง ซึ่งแกะสลักเพื่อเอามาบูชาไม่ได้ทำพิธีใดๆ มากมาย
เคยมีคนบันทึกรูปเอาไว้ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๒๕ จึงแกะรูปไม้ตะเคียนต่อมา และเข้าพิธี ปี ๒๕๒๖ พร้อมเหรียญ
ข้อมูลนี้ส่วนหนึ่ง นายด้าว ใจห้าว
เป็นผู้ให้ข้อมูล(ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
 
เมื่อก่อนเคยมี รูปเหมือน "ไอ้ไข่" แต่มีเฉพาะส่วนศีรษะ ส่วนอื่นๆไม่ทราบว่าหายไปไหน ปัจจุบันน่าจะยังเก็บไว้ที่วัด สภาพเก่ามากๆ มีคนเห็นเป็นบุญตามาแล้วขนาดเท่าผลมะละกอบ้าน
อย่างครั้งที่มีการปลุกเสก ปี ๔๖
มีการนำมาตั้งเป็นประธาน
เวลามีพิธีปลุกเสกด้วย
_พลังผู้ศรัทธาไอ้ไข่มีมากขึ้นทุกวัน
หากแต่เดิมชาวบ้านเชื่อว่าไอ้ไข่มีจริง
จากประสบการณ์ตรงหลากหลายเรื่องราว สู่การนำชื่อเสียงเรียงนามไอ้ไข่และรูปปั้นกระจายออกไปทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามหากทำด้วยศรัทธา
และปรารถนาให้ไอ้ไข่ เป็นที่รวมใจ
ให้คนคิดดี ทำดี อยู่ในศีลธรรม
ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย
ทว่าผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น
ยังสามารถมีเงินทอนช่วยวัดต่างๆ
ช่วยสังคม ช่วยโรงพยาบาล
ช่วยชาวบ้าน ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ทั้งโรงแรม.ร้านอาหาร การท่องเที่ยวการขนส่ง การบริการ
นับว่านั่นเป็นบารมีไอ้ไข่
ยิ่งได้ช่วยเหลือมาก ไอ้ไข่ยิ่งมีบารมีมาก
ถ้าเห็นตรงนี้เป็นการช่วยเหลือกันไป
ไม่ใช่เห็นเพียงแต่ของข้าของกู
นั่นก็อยู่ที่จิตใจคนจะมอง
อย่างไรก็ตาม
ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร
หากศรัทธาไอ้ไข่
แล้วนึกความเมตตาและปรารถนาดี
ต่อส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ความขัดแย้งใดๆคงไม่เกิดขึ้น
#ไอ้ไข่
ขอบคุณข้อมูลจาก
FB: คเนศวรเศรษฐี พารวย
โฆษณา