22 ก.ย. 2020 เวลา 03:41 • ธุรกิจ
‘เอไอเอส’ องค์กร 30 ปี จาก1G สู่ 5G
30 วัน ตลอด ก.ย.นี้ “เอไอเอส” มีแคมเปญภายใน “30 วัน 30 ปี” บอกเล่าเรื่องราวกว่าจะเป็นวันนี้เป็นมาเป็นไปอย่างไร ฟันฝ่าอุปสรรค และเติบโตมาอย่างไร เพื่อนับถอยหลังไปสู่ 1 ต.ค.2563 วันที่บริษัทจะมีอายุครบ 30 ปีเต็ม
ตั้งแต่ 1 ก.ย. หน้าฟีดในเฟซบุ๊กผู้บริหาร และพนักงาน เอไอเอส จะแชร์ประสบการณ์การทำงาน ติดแฮชแทก #AIS30thAnniversary เล่าบรรยากาศการทำงานในอดีต พัฒนาการของระบบมือถือ และการสร้างแบรนด์ตั้งแต่ยุค 1G 2G จาก NMT 900 สู่ GSM 2 วัตต์ ...
 
ใครโตมาทันน่าจะพอจดจำโฆษณาทีวีที่มีนักร้องดัง “นิโคล เทรนิโอ”เป็นพรีเซ็นเตอร์ได้ หรือใกล้มาอีกหน่อยแต่ก็เกินสิบปี น่าจะเป็นหนังโฆษณาพรีเพด “วัน-ทู-คอล” ที่นำจุดขาย มาปรับเป็นภาพลักษณ์บริการภายใต้แนวคิด “ฟรีด้อม” หรือความเป็นอิสระ มีครูเคท และป๊อดโมเดิร์นด็อกซ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์
 
เทียบอายุคน 30 ปี อาจไม่มาก ถือเป็นช่วงวัยแห่งการเรียประสบการณ์ แต่เทียบกับอายุองค์กร
การอยู่มานานเท่านี้ได้ถือว่าไม่ธรรมดา ผ่านช่วงพิสูจน์ฝีมือมาแล้วว่าอยู่และแข่งขันได้ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่จัดได้ว่าแข่งกันดุเดือดที่สุดธุรกิจหนึ่ง
 
เทียบคู่แข่ง “เอไอเอส”ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในแง่ส่วนแบ่งตลาด และรักษาสถานะของตนเองไว้ได้เหนียวแน่น
 
อาจกล่าวได้ใน 30 ปี “เอไอเอส”เติบโตไปพร้อมกับเครือข่ายโทรคมนาคมของประเทศในฐานะหนึ่งในผู้ลงทุนหลัก จาก 1G มาถึง 5G ในปัจจุบัน
ใครเกิดทันยุคที่การขอโทรศัพท์บ้านเป็นเรื่องยากเย็นคงจินตนาการไปไม่ถึงวันนี้ วันที่ มือถือเป็นยิ่งกว่าปัจจัยที่หก
นั่นทำให้ 6 ปีก่อน “สมชัย เลิศสุทธิวงค์”ประกาศในวันแรกที่รับตำแหน่ง “ซีอีโอ”ว่าบริษัทจะเปลี่ยนไปสู่การเป็น “ดิจิทัล เซอร์วิส โพรวายเดอร์”
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ เอไอเอส
แม้จะรู้ว่าการขับเคลื่อน ผลักดันองค์กรให้เปลี่ยนแปลงในวันที่ยังประสบความสำเร็จมากเป็นงานยากที่ต้องใช้ความพยายามมาก
ในช่วงที่ผ่านมาจึงต้องทำหลายสิ่ง เปลี่ยนจากภายในสู่ภายนอก
“สมชัย”พูดเสมอว่า “ตอนเป็นซีอีโอใหม่ ๆ คนในองค์กร 99% รักผม วันนี้อาจเหลือ 80% เพราะการจะบอกให้คนที่ทำดีมานานเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงตัวเองไม่ง่าย “
แต่เป็นความท้าทายในฐานะ “ผู้นำ”
และเขาย้ำตลอดว่า “เอไอเอสเติบโตมาได้ทุกวันนี้ เกิดจาก คน” แต่ความเก่งอย่างเดิมไม่การันตีความสำเร็จในอนาคต จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตั้งแต่วัฒนธรรมองค์กรใหม่ จาก FIND U สู่วันนี้ที่ยึดโยงกับคำ 3 คำ คือ ต้อง FIT-FUN-FAIR
ปรับโครงสร้างการทำงานให้คล่องตัว ไม่เป็นอุปสรรคต่อการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่แสดงฝีมือในแบบที่ซีอีโอ “สมชัย”บอกว่า เป็นการสร้าง “เรือเล็กให้ออกจากฝั่ง” ไปแสวงหาโอกาส และสิ่งใหม่ โดยหวังว่าจะเป็นอนาคต
การโปรโมตตำแหน่งจะพิจารณาจากประสิทธิภาพ และผลงาน ไม่ใช่อายุงาน มีโครงสร้างเงินเดือนที่แข่งขันได้ดีขึ้น ประโยคที่คนเอไอเอสมักล้อกันเองสนุก ๆ ภายในว่า “คนเอไอเอส ทำงานหนักเงินเดือนน้อย”คงไม่ใช่อีกแล้ว
ที่จริงคำว่า “เงินน้อย” ก็ไม่ได้น้อยหากอยู่ในมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่อาจเทียบยากกับองค์กรเทคโนโลยีข้ามชาติหรือคู่แข่งบางรายที่ให้ค่าตอบแทนสูงเพื่อดึงคนจึงต้องปรับใหม่ให้เป็นองค์กรที่ครบ ทั้ง “เงินทอง โอกาส และแรงบันดาลใจ”
สำหรับภายนอก มีบริการใหม่ รูปแบบธุรกิจใหม่ และความร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายวงการ เช่น “บรอดแบนด์”ของ “เอไอเอส ไฟเบอร์” ที่มีลูกค้าทะลุล้านแล้ว มีบริการดิจิทัล เช่น “เอไอเอส เพลย์”, แรบบิทไลน์เปย์ และอื่นๆ เกือบทั้งหมดมาจากการมีความร่วมมือกับพันธมิตร
ตอกย้ำแนวทางธุรกิจที่เชื่อในแนวคิด “กินแบ่ง” มากกว่า “กินรวบ”
6 ปีที่ผ่านมา แม้จะเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่ ซีอีโอ “เอไอเอส”ยังรู้สึกว่ายังทำได้ไม่เร็วเท่าที่ตั้งใจไว้ และมีสิ่งที่ต้องขับเคลื่อน ผลักดันต่ออีกมาก
อย่างไรก็ตามในการประมูลคลื่น 5G เมื่อต้นปี ทำให้ “เอไอเอส”แข็งแรงขึ้นมาก เพราะจากนี้ไปจะไม่ต้องกดดันกับการบริหารจัดการคลื่น เหมือนที่เป็นมาในอดีตตลอด 30 ปี เพราะมีคลื่นน้อยกว่าคู่แข่ง แต่มีลูกค้าจำนวนมาก
อีกสิ่งใหม่ที่ “ซีอีโอ”ลุกขึ้นทำในสิ่งที่ไม่เคยทำด้วยตัวเอง โดยเจ้าตัวเปิดเผยในเฟซบุ๊กว่า คือการเขียนหนังสือ “30 ปี เอไอเอส ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” และว่า “ตั้งใจเล่าเส้นทาง 30 ปีของเทคโนโลยีสื่อสาร เรื่องราวบริษัท และการทำงาน”
จากพนักงานธรรมดาๆ สู่เก้าอี้ “ซีอีโอ” จะว่าไปก็น่าจะเป็นตัวอย่าง และภาพสะท้อนได้ดีที่สุดในการเป็นองค์กรที่เปิดโอกาสให้กับทุกคน
โฆษณา