สลิ่มตัวปู่คือกูนี่แหละ
ตอนสิบสี่ตุลาเผด็จการ ถนอม ณรงค์ ประภาส อยู่ ป.เจ็ด ตื่นหุงข้าวใส่เป้ให้พี่ชายไปสู้กับทหาร
หกตุลา รู้จักกับอภินันท์ ที่แสดงเรื่องแขวนคอแล้วโดนดาวสยามเอาภาพไปแต่งหน้าให้เหมือนฟ้าชาย ทั้งๆหน้าของอภินันท์ตัวจริงไม่มีเค้าใดๆใกล้เคียงเลย เป็นฝ่ายถูกกระทำ ช่วยกระจายข่าวว่าโดน บิดเบือนและฆาตกรรมหมู่กลางเมือง
พฤษภาทมิฬ เป็นบริษัทแรกๆที่สั่งปิดบริษัทให้พนักงานไปร่วมประท้วงได้โดยรับค่าจ้าง และ ประกาศรับ พลตำรวจบุญรักษ์ ทองอินทร์ ที่โดนลงโทษจากผู้บังคับบัญชา จากการเปิดรั้วลวดหนามให้ประชาชนเข้ายึดหน้ารัฐสภา เข้าทำงานที่บริษัท ให้เงินเดือนมากกว่าเดิมสามเท่า แต่ พลบุญรักษ์ ไม่มา
มีระบุไว้ในหนังสือ ร่วมกันสู้ ที่เขียนโดยพลตรีจำลองศรีเมือง มีภาพตัวเองขึ้นหน้าหนึ่งไทยรัฐในวันที่ พลตรีจำลองศรีเมืองประกาศ อดอาหารสู้เผด็จการ
เป็นคนกลุ่มแรกๆที่เลาะข้ามสะพานมัฆวานแล้วหาไม้มาพาดข้ามลวดหนามหีบเพลงไปเผา โรงพักนางเลิ้ง มีคนถามหาไฟแช็คไปจุดไฟ เฮ้ยเอ้ารับเอานี่ไป ไม่สูบบุหรี่แต่มีไฟแช็คไว้จุดยากันยุงตอนนอนในม๊อบ ที่วัดมหาธาตุ
วันที่โดนตีแตกจากราชดำเนิน ต้องตั้งขบวนหนีตายเดินไปรามคำแหงจากประตูน้ำ กินนอนอยู่ในรามทุกวัน และอาสาเป็นแนวหน้ากล้าตายไปเอาถังแก๊สกระกระสอบปูนเรียงขวางถนน ขวางเป็นแนวหน้าที่ หน้ามีสทีนหัวหมาก ถ้าสุจินดาบุกรามชุดแรกที่จะตายก่อนคือ พวกผมที่หน้ามีสทีน
จนในหลวง ร.9 เรียกพลตรีจำลอง กับ พลเอกสุจินดา เข้าพบที่สวนจิตร รุ่งขึ้นจึงได้กลับบ้าน
ต้องเดินออกจากรามไปขึ้นรถเมล์ที่แฮปปี้แลนด์ เดินยาวขนาดไหน จากประตูน้ำ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดไหน กว่าเหตุการณ์จะยุติ
มายุคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เข้าร่วมทุกวันตั้งแต่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกปลดจากผังรายการ เป็นอาสาสมัครหั่นผักอยู่ในเต้นท์สันติอโศก งานนี้ เริ่มภาระกิจ ประชาชนรักษาพระองค์ อย่างเป็นทางการ ผมไม่ได้ไปไล่ทักษิญ ผมไม่สนใจการเมือง ผมรู้สึกว่าในหลวง ร.9
ถูกคุกคาม อยู่บ้านเฉยๆไม่ได้แล้ว มันร้อนเร่า กระบวนการหมิ่นเจ้าล้มเจ้า เริ่มแตกยอดแตกใบเมื่อพระราชวินิจฉัย เรื่องผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ของพระองค์ท่านไม่ถูกใจนายก