22 ก.ย. 2020 เวลา 12:15 • การเมือง
สลิ่มตัวปู่ กูนี่แหละ
สลิ่มตัวปู่คือกูนี่แหละ
ตอนสิบสี่ตุลาเผด็จการ ถนอม ณรงค์ ประภาส อยู่ ป.เจ็ด ตื่นหุงข้าวใส่เป้ให้พี่ชายไปสู้กับทหาร
หกตุลา รู้จักกับอภินันท์ ที่แสดงเรื่องแขวนคอแล้วโดนดาวสยามเอาภาพไปแต่งหน้าให้เหมือนฟ้าชาย ทั้งๆหน้าของอภินันท์ตัวจริงไม่มีเค้าใดๆใกล้เคียงเลย เป็นฝ่ายถูกกระทำ ช่วยกระจายข่าวว่าโดน บิดเบือนและฆาตกรรมหมู่กลางเมือง
พฤษภาทมิฬ เป็นบริษัทแรกๆที่สั่งปิดบริษัทให้พนักงานไปร่วมประท้วงได้โดยรับค่าจ้าง และ ประกาศรับ พลตำรวจบุญรักษ์ ทองอินทร์ ที่โดนลงโทษจากผู้บังคับบัญชา จากการเปิดรั้วลวดหนามให้ประชาชนเข้ายึดหน้ารัฐสภา เข้าทำงานที่บริษัท ให้เงินเดือนมากกว่าเดิมสามเท่า แต่ พลบุญรักษ์ ไม่มา
มีระบุไว้ในหนังสือ ร่วมกันสู้ ที่เขียนโดยพลตรีจำลองศรีเมือง มีภาพตัวเองขึ้นหน้าหนึ่งไทยรัฐในวันที่ พลตรีจำลองศรีเมืองประกาศ อดอาหารสู้เผด็จการ
เป็นคนกลุ่มแรกๆที่เลาะข้ามสะพานมัฆวานแล้วหาไม้มาพาดข้ามลวดหนามหีบเพลงไปเผา โรงพักนางเลิ้ง มีคนถามหาไฟแช็คไปจุดไฟ เฮ้ยเอ้ารับเอานี่ไป ไม่สูบบุหรี่แต่มีไฟแช็คไว้จุดยากันยุงตอนนอนในม๊อบ ที่วัดมหาธาตุ
วันที่โดนตีแตกจากราชดำเนิน ต้องตั้งขบวนหนีตายเดินไปรามคำแหงจากประตูน้ำ กินนอนอยู่ในรามทุกวัน และอาสาเป็นแนวหน้ากล้าตายไปเอาถังแก๊สกระกระสอบปูนเรียงขวางถนน ขวางเป็นแนวหน้าที่ หน้ามีสทีนหัวหมาก ถ้าสุจินดาบุกรามชุดแรกที่จะตายก่อนคือ พวกผมที่หน้ามีสทีน
จนในหลวง ร.9 เรียกพลตรีจำลอง กับ พลเอกสุจินดา เข้าพบที่สวนจิตร รุ่งขึ้นจึงได้กลับบ้าน
ต้องเดินออกจากรามไปขึ้นรถเมล์ที่แฮปปี้แลนด์ เดินยาวขนาดไหน จากประตูน้ำ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดไหน กว่าเหตุการณ์จะยุติ
 
มายุคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เข้าร่วมทุกวันตั้งแต่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกปลดจากผังรายการ เป็นอาสาสมัครหั่นผักอยู่ในเต้นท์สันติอโศก งานนี้ เริ่มภาระกิจ ประชาชนรักษาพระองค์ อย่างเป็นทางการ ผมไม่ได้ไปไล่ทักษิญ ผมไม่สนใจการเมือง ผมรู้สึกว่าในหลวง ร.9
ถูกคุกคาม อยู่บ้านเฉยๆไม่ได้แล้ว มันร้อนเร่า กระบวนการหมิ่นเจ้าล้มเจ้า เริ่มแตกยอดแตกใบเมื่อพระราชวินิจฉัย เรื่องผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ของพระองค์ท่านไม่ถูกใจนายก
มายุค กปปส. เป็นคนส่งข้าวส่งน้ำม๊อบเวทีอนุเสาวรีย์ เวทีสวนจตุจักร เดินทางไปปะทะกับเสื้อแดงที่หลักสี่ แต่คนละกลุ่มกับป๊อบคอร์น ยอมรับว่ามีอาวุธ เพราะกูโดน m.79 ทุกวัน กูมือเปล่าไม่ไหวแล้ว โดนแก๊สน้ำตาที่แยกการเรือน เป็นการ์ดอยู่ทำเนียบประตูห้า เห็นคนบาดเจ็บล้มตายวันละศพสองศพทุกวัน เลยขอเจ้านายผลิตเสื้อเกราะและหาหมวกเหล็กมาให้การ์ดและหน่วยพยาบาลให้ม๊อบที่อยู่ชายแดน คือ ม๊อบแจ้งวัฒนะ ซื้อสเตนเลสแผ่นเกรดเอ มาเย็บเป็นเสื้อเกราะ ทดลองยิงด้วยสิบเอ็ดยิงไม่เข้า ทำได้สามสิบกว่าตัวเป็นงบประมาณส่วนตัวของนายแจกให้ การ์ดชายแดน
ผมรบกับเผด็จการมาตั้งแต่ยังไม่ขึ้นชั้นมัธยมศึกษาเลยครับ รบแบบรบเอาเรื่องไม่ได้รบขำๆ แดดมา ฝนมากลับบ้าน สู้แบบชีวิตเป็นเดิมพันทุกครั้ง มาวันนี้โดนเด็กวานซืนกำหนดนิยามตัวเองว่าเป็น "สลิ่ม" ถามหน่อยว่า ตอนที่คนรุ่นนี้สู้กับเผด็จการมายาวนาน พวกเอ็งไปอยู่ไหน เผด็จการยุคข้ายิงเป็นยิง และ ขึ้นค๊อปเตอร์ยิงจากฟ้า
ไม่ใช่เผด็จการหน่อมแหน่มแบบลุงตู่นี่หรอก
เอ็งตื่นโผล่หัวขึ้นมา อ่านโซเชี่ยลบรรทัดสองบรรทัด ก็ตามแชร์ ตามแห่ ไล่คนอื่นไปเป็นสลิ่ม ไปเป็นขี้ข้าเผด็จการกันหมดแล้ว
ตัวเองเคยทำอะไร เคยวางเดิมพันอะไรเพื่อสิ่งที่พวกเอ็งเรียกว่าประชาธิปไตยมาบ้าง พวกเอ็งจะมาครอบครองปรปักษ์ ยึดคำว่าประชาธิปไตยเป็นของตัวเอง ทั้งๆที่ไม่เคยได้ทำอะไรสักนิดเพื่อประชาธิปไตยจริงๆ ไม่เคยเข้าใจสักนิดถึง คำว่าประชาธิปไตยองค์ประกอบมันคืออะไร รู้จักแต่สิทธิ รู้จักแต่การเรียกร้อง แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแต่ไม่สนถึง อะไรที่จะเกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนแปลง
การมีกษัตริย์ นำพาประเทศชาติไทยเราอยู่รอดผ่านวิกฤติการณ์ ใหญ่น้อยมาครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดมาเกือบพันปี แต่พวกเอ็งกลับบอกว่าจะเลิกระบบกษัตริย์ ให้ได้ในยุคสมัยของพวกเอ็ง
เอ็งไม่เคยเห็น ไม่เคยผ่านตาประเทศที่ผ่านการล้างระบบเก่า แบบอีรัก แบบซีเรีย แบบลิเบีย มาบ้างเหรอะ ว่าหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น
2
รู้ว่ามันเท่ห์ เพราะเราก็ผ่านการเป็นคนที่เรียกว่า อยู่ในปีกซ้าย หัวก้าวหน้ามาก่อน ชื่นชมพวกเอ็งว่ากล้าหาญ และ ห้าวหาญที่ชูดาบวิ่งเข้าประตูวัง แต่พวกเอ็งหันไปดูข้างหลังบ้างว่า ไอ้บรรดาไอดอลของพวกเอ็งแต่ละคนสิว่า ชูดาบวิ่งตามพวกเอ็งมาบ้างไหม สลิ่มตัวปู่เอ็นดูลูกหลาน อย่างน้อยเมื่อตอนที่อายุเท่าพวกเอ็งข้าก็สู้มาก่อน อยากเห็นพวกเอ็งมีอายุยืนยาว ได้เห็นพวกเอ็งโดนลูกหลานรุ่นหน้ามันถอนหงอก แบบที่พวกข้าโดน
โฆษณา