23 ก.ย. 2020 เวลา 02:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ
FinCEN คืออะไร
FinCEN (Financial Crimes Enforcement Network) คือเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรม ทางการเงินของสหรัฐอเมริกา โดย FinCEN อยู่ในการกับกับดูแลของกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา เพื่อคอยตรวจสอบเรื่องของอาชญากรรมของอเมริกา
1
หากมีความผิดปกติในธุรกรรมการเงินที่ใช้สกุลเงินดอลล่าสหรัฐจะต้องถูกส่งไปยัง FinCEN แม้ว่าจะเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นนอกสหรัฐก็ตาม ธนาคารจะต้องแจ้งทางการสหรัฐฯ ถึงความกังวลต่อการทำธุรกรรมของลูกค้าที่อาจจะเข้าข่ายผิดกฏหมาย
เอกสารของ FinCEN ได้รั่วไหลถึงเครือข่ายนักข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ซึ่งพบการทำธุรกรรมการเงินที่น่าสงสัยของธนาคารใหญ่ระดับโลหหลายแห่งเช่น HSBC, Standard Chartered, J.P. Morgan, Barclays และ Deutsche Bank
จากเอกสารจึงมีความเป็นไปได้ว่า ธนาคารเหล่านี้อาจจะเปิดช่องให้โยกย้ายเงินผิดกฏหมายทั่วโลก ทั้งยังเป็นช่องทางหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากนานาชาติของผู้มีอำนาจอย่างประเทศรัสเซีย
FinCEN ประกอบด้วยเอกสารการเงินจำนวน 2,657 ฉบับ ที่ธนาคารต่าง ๆ ส่งถึงทางการ ในช่วงปี 2000-2017
ตามกฏหมายแล้ว ธนาคารจำเป็นต้องรู้ว่าลูกค้าของพวกเขานั้นเป็นใคร และต้องรายงานต่อทางการหากพบสิ่งผิดปกติ และหากธนาคารมีหลักฐานว่าเงินนั้นเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมก็ควรยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินเหล่านั้นทันที
เอกสารระบุ ธนาคาร HSBC อาจปล่อยให้นักต้มตุ๋น Ming Xu โยกย้ายเงินหลายล้านดอลล่าที่ที่หลอกลวงคนจากโครงการ WCM777ไปทั่วโลก แม้ว่าว่าจะรับรู้จากเจ้าหน้าที่สืบสวนสหรัฐ ก่อนว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งต่อมา Ming Xu ก็ถูกทางการจีนจับกุมในปี 2560 และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปี
ธนาคาร J.P. Morgan อนุญาตให้บริษัทหนึ่งเคลื่อนย้ายเงินเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลล่า ผ่านบัญชีในลอนดอนโดยไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของเงินก่อนที่ธนาคารจะตรวจพบภายหลังว่าบริษัทดังกล่าวอาจจะเป็นของสมาชิกแก็งอาชญากรที่อยู่ในบัญชี 10 บุคคลที่ FBI ต้องการตัวมากที่สุด
ธนาคารที่ Standard Chartered โยกย้ายเงินสดให้กับธนาคาร Arab Bank ในจอร์แดนมากกว่าทศวรรษ โดยบัญชีลูกค้าของธนาคารหลายบัญชีถูกพบว่านำไปใช้เพื่อการสนับสนุนกลุ่มก่อนการร้าย
พบหลักฐานว่า หนึ่งในคนใกล้ชิดประธานาธิปบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียอาจจะใช้ธนาคาร Barclays ในลอนดอนเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร
นอกจากนี้ ช่วงปี 2012 – 2016 มีธนาคารของไทย 4 แห่ง ประกอบด้วย
ธนาคารกรุงเทพ 52 ครั้ง
ธนาคารกสิกร 37 ครั้ง
ธนาคารกรุงไทย 2 ครั้ง
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) 1 ครั้ง
มีการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย คิดเป็นมูลค่า รวม 41,308,752 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,290 ล้านบาท) โดยเป็นการรับเงิน 9,558,752 ดอลลาร์สหรัฐ และการส่งเงิน 31,750,000 ดอลลาร์สหรัฐ
โฆษณา