25 ก.ย. 2020 เวลา 12:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
สะท้อนหนัง "สิ่งที่น่ากลัวกว่า อุกกาบาต
คือการเอาตัวรอดของ มนุษย์"
GREENLAND นาทีระทึก..วันสิ้นโลก
เรื่องย่อ : เมื่อดาวหางลูกใหญ่ที่มีชื่อว่าคลาร์กกำลังมุ่งตรงมาเพื่อถล่มโลก และรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือคนได้ทุกคน จึงเลือกคนที่มีอาชีพและความสามารถที่จำเป็นต่อมนุษย์เท่านั้น ที่จะได้เดินทางไปที่หลบภัยที่เป็นความลับขั้นสุดยอด โดยหนึ่งในนั้นคือครอบครัวแกริตี้ที่ประกอบด้วย จอห์น (เจอร์ราด บัตเลอร์) วิศวกรโครงสร้าง เอลลี (โมเรนา บัคคาริน) ภรรยาของเขา และ เนธาน (โรเจอร์ เดล ฟลอยด์) ลูกชายของพวกเขาที่เกิดมาเป็นโรคเบาหวาน ทั้งสามต้องฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อเอาชีวิตรอดจากมหาภัยพิบัติในครั้งนี้ให้ได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่แพ้เศษอุกกาบาตที่สามารถตกลงมาได้ทุกที่โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ก็คือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่พยายามจะรอดชีวิตจากอุกกาบาตลูกใหญ่ที่กำลังจะตกลงมาทำลายล้างทุกชีวิตในอีก 48 ชั่วโมง
รีวิว : สำหรับคนที่คาดหวังว่าจะได้ดูหนังภัยพิบัติที่มีฉากตื่นเต้นกับการหนีเอาชีวิตรอด อาจจะต้องผิดหวัง เพราะนี่ไม่ใช่หนัง มนุษย์ vs อุกกาบาต แต่เป็น มนุษย์ vs มนุษย์ โดยมีฉากหลังเป็นการนับถอยหลังสู่วันสิ้นโลก เรื่องจะเน้นไปที่การเล่นกับอารมณ์และความรู้สึกของคนดู ผ่านครอบครัวแกริตี้ที่พยายามเดินทางไปยังพื้นที่หลบภัยของรัฐบาล ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามเอาตัวรอด เราจะเริ่มเห็นถึงสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ที่ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด เลยกลายเป็นว่าหนังเน้นที่ดราม่ามากว่าลุ้นระทึก จนทำให้เรารู้สึกเศร้ากับสิ่งที่ตัวละครเอกต้องพบเจอ เลยอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่โปสเตอร์หนังหรือตัวอย่างหนังแสดงออกมา แต่นี่ไม่ใช่ข้อเสียเพราะเมื่อหนังเริ่มแสดงออกมาว่าจะเล่นกับความรู้สึกคนดู หนังก็ทำได้อย่างเต็มที่ จนออกมาดีเกินกว่าที่เราตั้งความหวังไว้
การดำเนินเนื้อเรื่อง แม้ว่าจะเป็นสูตรสำเร็จของหนังภัยพิบัติทั่วไปอย่าง ทราบข่าวภัยพิบัติ>พยายามเดินทางไปที่ปลอดภัย>พบกับอุปสรรค>ครอบครัวพลัดพราก>ฝ่าฟันจนมาพบเจอกัน>และสุดท้ายมีหรือไม่มีชีวิตรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้
(ฉากที่ต้องมีในหนังอย่างห้างโดนปล้น ร้านโดนเผา แน่นอนว่ามีในเราดูแน่นอน)
ถึงจะไปการดำเนินเนื้อเรื่องแบบเดิมของหนังภัยพิบัติส่วนใหญ่
แต่ด้วยการลำดับเนื้อเรื่องที่ดี มีเหตุมีผล ไม่พยายามยัดเยียดซีนเหล่านี้เข้ามามาก
จนเกินไป แต่เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมพอที่เราจะเข้าถึงและนึกภาพตามได้ว่ามีโอกาสที่สิ่งเรานี้จะเกิดขึ้นกับเรา ถ้าเรื่องราวในหนังเกิดขึ้นในโลกความจริง
หนังเรื่องนี้พยายามสื่อถึงสัญชาตญานการอยากมีชีวิตของมนุษย์ที่ดูแล้วจุก
สะเทือนใจอยู่หลายๆ ฉาก ทั้งการตัดสินใจที่จะไม่ช่วยเหลือเพื่อนบ้านของพระเอก
เอง หรือการที่คนอื่นพยายมแย่งสิทธิ์ในการเดินทางไปยังที่ปลอดภัยของครอบครัวพระเอกโดยไม่สนหลักการมนุษยธรรมใด ๆ เลยทำให้หนังเรื่องนี้มีความโดดเด่นมากกว่าหนังภัยพิบัติเรื่องอื่น
ในส่วนของสเปเชียลเอฟเฟกต์นั้น ตัวหนังเลือกใช้ออกมาได้อย่างพอดี โดยนอกจากพวกฉากอุกกาบาตพุ่งชนโลก ฉากเมืองหลวงสำคัญๆ ถูกทำลายด้วยเศษอุกกาบาตแล้ว ในด้านการทำหน้าที่ช่วยเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวของครอบครัวแกริตี้ ก็ทำออกมาได้ดีไม่เวอร์เกินไป ซึ่งมันสมจริงพอที่จะทำให้คนดูสามารถเอาตัวเองเข้าไปในหนังและนึกภาพตามได้ ว่าคนธรรมดาอย่างเราคงต้องพบเจอกับเหตุการ
ประมาณเดียวกันกับตัวเอกในเรื่อง
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้ดีเกินคาดก็คือการแสดงของตัวเอกทั้ง 3 คน แม้เจอร์ราด บัตเลอร์จะสร้างชื่อในฐานะดาราหนังแอคชั่นมากมาย แต่เรื่องนี้เขาได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นพ่อและสามีที่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลา แม้ในยอมที่จิตใจตัวเองอ่อนแอที่สุด และต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยากเพื่อให้ลูกและภรรยาของตัวเองมีชีวิตรอดให้ได้ และต้องอยู่กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงลงไป ซึ่งเจอร์ราด บัตเลอร์ แสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างดี ในส่วนของนางเอก โมเรนา บัคคาริน นอกจากความสวยแล้วฝีมือการแสดงของเธอก็ไม่ด้อยไปกว่าหน้าตาเลย เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นแม่ที่ทำทุกอย่างได้เพื่ออยู่ของเธอ สิ้นหวังเมื่อลูกของเธอต้องพลัดพลากจากกัน ดีใจเมื่อได้กลับมาพบกัน มีความสุขเมื่อได้พบเจอคนดีๆ และเสียใจเมื่อเธอไม่สามารถช่วยคนอื่นได้ เพราะเธอต้องปกป้องลูกที่เธอรัก โดยเฉพาะความรู้สึกเสียใจเธอแสดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง และสุดท้ายตัวลูกชายโรเจอร์ เดล ฟลอยด์ แสดงอารมณ์ออกมาได้ชัดเจนเข้าใจง่าย โกรธคือโกรธ เสียใจคือร้องออกมาได้เลย ดีใจก็ดูมีความสุขสุดๆ เรียกได้ว่าน้องเก่งมากจริงๆ และด้วยตัวบทที่ช่วยส่งทำให้เด็กคนนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชมของคนดูไม่น้อย (เพราะหนังภัยพิบัติส่วนใหญ่ตัวละครเด็กมักจะไม่น่ารำคาญก็ไม่ช่วยแถมยังสร้างปัญหาซะอีก)
ข้อเสียของเรื่องนี้ก็คือ คนดูอาจจะไม่ได้รับสิ่งที่คาดหวังเท่าไหร่ หลายคนอาจจะคิดว่ามันจะต้องตื่นเต้นหนีตายสุดมัน เพราะทั้งจากตัวอย่าง รายชื่อนักแสดงแล้วมันน่า
จะออกมาในแนวทางแอคชั่นหนีตาย ตรงกลุ่มผู้ชายที่รักหนังบู๊ แต่กลับกลายเป็นว่าหนังมีความดราม่าสูงมาก เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกคนดู ครอบครัวที่ฝ่าฟันร่วมกัน จากที่ดูมาหนังเรื่องนี้อาจจะทำให้ผู้หญิงไปดูเรื่องนี้น่าจะอินได้มากกว่าผู้ชายก็เป็นได้
คะแนน : 8/10 คะแนน ถึงแม้ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง แต่ตัวหนังก็ทำได้ดีเกินคาด
โฆษณา