๓๓ รัตนะ (ของที่ได้โดยยาก ๑)
๒๓ พฤษภาคม ๒๔๙๗ .
นโม ... ทุลฺลภญฺจ มนุสสตฺตํ ..
หลวงพ่อวัดปากน้ำแสดงพระธรรมเทศนา แก่พระภิกษุบวชใหม่และเจ้าภาพ พร้อมด้วยหมู่ญาติอันเนื่องด้วยสายโลหิต และด้วยความคุ้นเคยซึ่งถือเป็นญาติอย่างยิ่ง
บัดนี้เราได้มาอยู่พร้อมกัน ได้พบพระพุทธศาสนา ที่มีหลักคำสอน ๓ ประการคือ
๑. ละชั่วด้วยกายวาจาใจ
๒. ทําดีด้วยกายวาจาใจ
๓. ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส
ศีลมีทั้งศีลเบื้องต่ำและเบื้องสูง
ศีลเบื้องต่ำ คือ ศีลห้า เว้นให้ขาดจากใจ รักษาไว้ได้ เป็นอันรอดจากโทษภัย คุกตะราง
ศีลเบื้องสูง คือ ศีลของสามเณร และศีล ๒๒๗ ข้อ ให้บริสุทธิ์ตลอดสาย
อาจารโคจรสัมปันโน ถึงพร้อมแล้วด้วยมารยาท ดีทั้งกาย วาจา ไม่สะดุดตาสะดุดใจ ทั้งชนชั้นสูง กลาง ต่ำ ตำหนิไม่ได้เลย
“อโคจร” คือ เป็นพระเณรไม่ไปดูมหรสพ โรงสุรายาฝิ่น โรงขายเหล้า โรงนครโสเภณี ไม่ไปมาหาสู่ ในสถานที่ใดที่เขาติเตียนครหา
เห็นภัยทั้งหลายในโทษมีประมาณน้อย ขึ้นชื่อว่า ชั่วด้วยกาย วาจา ใจ ละขาดบริสุทธิ์สนิท
สมาทานศึกษาในสิกขาบท ไม่เคลื่อนพระวินัยแม้ปลายผม เหมือนน้ำในมหาสมุทรไม่ล้นฝั่ง
สมาธิมีเบื้องต่ำและเบื้องสูง
สมาธิเบื้องต่ำ คือ ปล่อยอารมณ์หลุดจากอารมณ์ทั้ง ๖ (รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ ธรรมมารมณ์) ใจหยุดนิ่งเป็นเอกัคคตา ไม่ไปกินหรือเอารสของอารมณ์นั้นมาพินิจพิจารณา
สมาธิเบื้องสูง คือ เข้าถึง ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน เข้าถึงฌานใดฌานหนึ่งได้
ปัญญาเบื้องต่ำและเบื้องสูง เกิดจากสมาธิ
ปัญญาเบื้องต่ำ เห็นชัดหมดซึ่งความเกิดดับ ปัญญาดำเนินถึงความสิ้นไปของทุกข์ อันเป็นเครื่องเบื่อหน่าย
ปัญญาเบื้องสูง รู้ตามความเป็นจริงในอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ขยายความตามพระบาลีเบื้องต้น ดังนี้
๑. ความเป็นมนุษย์เป็นของได้ยาก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่รับพญานาคที่มาขอบวช เพราะสัตว์เดรัจฉานไม่สามารถได้มรรคผล และตรัสไว้เป็นพระบาลีว่า
ทุลฺลภญฺจ มนุสฺสตฺตํ ฯ ความเป็นมนุษย์เป็นของได้ยาก ไม่ใช่ของได้ง่าย
เช่น น้ำคลองเดียว ตัวไรน้ำมากกว่ามนุษย์ในชมพูทวีป แล้วยังมีสัตว์ใหญ่ ๆ ที่เห็นได้ด้วยตาอีก การได้เกิดเป็นมนุษย์จึงยากนัก
จะเกิดเป็นมนุษย์ได้ ต้องมีธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ เรียก “มนุษยธรรม” เกิดได้ด้วยความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ
บริสุทธิ์กาย ๓ คือ เว้นจากการฆ่า ลักทรัพย์ ผิดในกาม
บริสุทธิ์วาจา ๔ คือ เว้นจากการพูดปด ส่อเสียด คำหยาบ เพ้อเจ้อ
บริสุทธิ์ใจ ๓ คือ เว้นจากการโลภ พยาบาท เห็นผิดจากคลองธรรม
ต้องเว้นขาดจาก ๑๐ ข้อนี้ รวมทั้งไม่ชักชวน ไม่ยินดีและไม่สรรเสริญผู้ประพฤติผิด เมื่อบริสุทธิ์หมดจด จึงจะเป็นมนุษย์ได้ ถึงได้กล่าวว่าเป็นของยาก
๒. ความบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า เป็นของได้ยาก
จะเกิดพระพุทธเจ้าได้ ต้องมีผู้เข้าถึงธรรมกาย
“พระบวชใหม่นี้เป็นคนรู้แล้ว เรียนแล้ว พอเป็นธรรมะเท่านั้น ก็เข้าใจแจก เพราะเป็นตัวประกาศเขา เขาสั่งให้มาเป็นมนุษย์ มาประกาศพระพุทธศาสนา ญี่ปุ่นรู้เรื่องธรรมกาย เรื่องพระพุทธเจ้าเข้าแล้ว ต้องบูชาประเทศไทย ไม่รบ ไม่ข่มเหง ไม่ต้องสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ ทำธรรมกายให้เป็นขึ้น ให้เข้าถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าได้แจกไป ไม่ต้องระวังเรื่องการเมือง ก็จะได้เอาเงินทองมาเลี้ยงครอบครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เลี้ยงได้ไม่หมดไม่สิ้น”
วิธีเข้าถึงธรรมกาย หรือ เข้าถึงพระพุทธเจ้า
ต้องเอาใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หยุดถูกส่วน เข้ากลางของกลาง ถึงดวงธรรม ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุตติ ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ ผ่านกายต่างๆ ถึงกายธรรมอรหัต หน้าตัก ๒๐ วา เกตุดอกบัวตูมใส เป็นกายพระพุทธเจ้า เรียกพุทธรัตนะ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกาย (พระพุทธเจ้า) คือธรรมรัตนะ ธรรมกายละเอียดกลางธรรมรัตนะ เรียกสังฆรัตนะ
เมื่อเข้าถึงพระพุทธเจ้าแท้ ๆ ก็เป็นวิราคธาตุวิราคธรรม เป็นธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้ เลิศกว่าสังขตธรรมและอสังขตธรรม เป็นธรรมลึกซึ้งทำได้ยาก แต่ถ้าเข้าถึงได้ จะเห็นชีวิตการครองเรือนเป็นเรื่องเด็กเล่นขายของ คอยทะเลาะ หึงหวงกัน
"พระบวชใหม่ท่านทำเป็นแล้ว ท่านจึงละสมบัติพัสถานได้ ท่านจึงบวชจริง ตั้งใจจริง ท่านไปสอนในประเทศญี่ปุ่นมาทั้งประเทศละนี่นะ เพราะท่านถึงนี่แล้ว ท่านถึงความเป็นพระพุทธเจ้าอย่างนี้แล้ว ถ้าไปถึงพระเข้าแล้ว แม้ใครจะมายอมเป็นภรรยา แกก็ไม่ยอม แกกล้วจะเล่นเรื่องเด็กกันอีก ต้องเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ นะ จึงจะเป็นพระพุทธเจ้าได้”
๓. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยขณะ ด้วยสมัย
ขณะนั้นมีพระพุทธเจ้า หรือ ธรรมกาย ปรากฏ
ขณะนั้นมีพระภิกษุ สามเณร ให้เห็น
เกิดในภพที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด เช่น ไม่เป็นอสัญญีสัตว์อยู่พรหมชั้น ๑๑ (พรหมลูกฟัก)
เป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล
เป็นมนุษย์ ไม่บ้าใบ้ ตาบอด
ไม่เป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
“พระบวชใหม่ถึงพร้อมแล้ว ด้วยขณะสมัย เพราะได้ธรรมกายแล้ว อยู่ใกล้พระพุทธเจ้า เขาจะเฝ้าพระพุทธเจ้าในพระนิพพานเวลาใดก็ได้ ให้พระพุทธเจ้ามาหาสู่เวลาใดก็ได้ ในขณะจิตนั้นไม่เคลื่อน ถึงพร้อมขณะสมัย เช่นนี้ไม่ใช่ของธรรมดา”
๔. สัทธรรมเป็นของได้ยาก
สัทธรรม คือ ธรรมที่ทำให้เป็นพระพุทธเจ้า เป็นธรรมดวงใหญ่ อยู่กลางกายพระพุทธเจ้า วัดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่ ๒๐ วา ลดหย่อนลงถึงฟองไข่แดงไก่ ดวงนี้เป็นสัทธรรม ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเดินไปในทางดวงธรรมนี้ผ่าน ๑๘ กาย จนถึงกายอรหัตละเอียด
สัทธรรม แปลว่า ธรรมเป็นเครื่องสงบ
เมื่อใจหยุดอยู่ในดวงธรรม เท่ากับหยุดความชั่วทั้งหลาย ไม่กระทบกระเทือนใคร เย็นตา เย็นใจ พูดดี ใจคิดแต่สิ่งดี จึงไม่เดือดร้อนตน ไม่เดือดร้อนผู้อื่น ทุจริตไม่มีทั้งกาย วาจา ใจ คือ อาการของสัทธรรม
สงบอย่างไร ?
สงบกาย กายหมดจากบาปกรรม ไม่ฆ่า ลัก ผิดในกาม
สงบวาจา เว้นส่อเสียด ปด หยาบ โปรยปราย
สงบใจ ไม่อยากได้ของเขา ไม่พยาบาท เห็นผิดคลองธรรม ให้ของคนอื่น
“เหมือนเจ้าของทานนี้ ให้ของแล้วยินดีชอบใจ เพราะถูกสัทธรรม สัทธรรมก็ช่วยให้ใจผ่องใส ให้บุญไหลมา ใจเอิบอิ่ม ไม่เสียดาย ทางหลังฉากก็ไหลมาอีก สัทธรรมท่านช่วยสงเคราะห์เมื่อใจสะอาดสะอ้านได้เช่นนี้"
บัดนี้เจ้าภาพได้สัทธรรม และบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ได้ชื่อว่าสนองคุณมารดาบิดา เพราะแม้ว่าจะให้มารดาขึ้นนั่งบ่าขวา บิดาขึ้นนั่งบ่าซ้าย ถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนนั้นเสร็จ จนหมดอายุของลูก จะชื่อว่าแทนคุณบิดามารดาก็หาไม่
ผู้ที่ได้ชื่อว่าแทนคุณมารดาอย่างแท้จริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า คือ ผู้ที่:-
ทำมารดาบิดาที่ไม่มีศรัทธา ไม่เชื่อในรัตนตรัย ให้มาเชื่อ
ทำมารดาบิดาที่ไม่มีศีล ให้มีศีลขึ้น
ทำมารดาบิดาที่ไม่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ให้เลื่อมใสขึ้น
ทำมารดาบิดาที่ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ให้ได้รู้จักบาปบุญ
ผู้หญิงก็สามารถแทนคุณได้ เช่น วันพระ พามารดาบิดาไปวัดรักษาศีล
อานิสงส์ที่ลูกชายบวช มารดาบิดาเป็นเจ้าภาพให้ลูกบวชเณรได้ ๘ กัปป์ รวมกับที่ให้บวชพระอีก ๑๖ กัปป์ รวมเป็น ๒๔ กัปป์
กัปป์หนึ่ง คือ ภูเขากว้างโยชน์สูงโยชน์ ๑๐๐ ปีมีเทวดาเอาผ้าทิพย์เนื้อละเอียดมาลูบลงที่ยอดนั้นครั้งหนึ่ง ทำเช่นนี้ทุก ๑๐๐ ปี จนภูเขาสึกด้วยผ้าถึงพื้นดิน อีกนัยหนึ่ง สระกว้างโยชน์ ลึกโยชน์ เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ทุก ๑๐๐ ปีมีเทวดาเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาทิ้งลงเมล็ดหนึ่ง จนกระทั่งเมล็ดพันธุ์ผักกาดเต็มสระ
ตัวอย่าง :-
พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช แม้สร้างเจดีย์ ๘๔,000 นับสมบัติ ๙๖ โกฏิ นับเป็นบุญที่ยังไม่มีพุทธศาสนูปถัมภ์ใดทำมากเท่า เพื่อจะได้ชื่อว่าเป็นญาติกับพระศาสนา แต่พอได้ทราบจากพระโมคคัลลานะว่า การที่จะได้เป็นญาติกับพระศาสนานั้น ต้องให้ราชกุมารและราชกุมารีบวชในพระพุทธศาสนา ก็ดีพระทัย เปลี่ยนพระทัยไม่ปรารภให้ลูกครองสมบัติ แต่ได้บวชเป็นอายุพระศาสนา ในที่สุดจึงได้เป็นญาติกับพระพุทธศาสนา
ส่วนพวกเราที่มาอนุโมทนาบุญ ก็เป็นญาติในพระศาสนาด้วยความคุ้นเคย
ตัวผู้บวชได้รับอานิสงส์มากมาย ตั้งแต่อานิสงส์ปัจจุบัน เรียกสามัญผล คือ ใคร ๆ ก็ต้องมากราบไหว้ เคารพเป็นกระถางธูป วิเศษประเสริฐนัก ในอดีตครั้งพุทธกาล ใครก็ไม่เอาผิดนักบวช ให้อภัยทีเดียว
ส่วนอานิสงส์ชั้นสูงเป็นอายุพระศาสนา ท่านกล่าวไว้ว่า มหิทฺธิโก มหานุภาโว มีฤทธิ์ศักดานุภาพ มีเดชมาก จะเนรมิตแผ่นดิน ฯลฯ ได้ ถ้าจะจารจารึกไปจนกระทั่งเขาพระสุเมรุเหี้ยนหดหมดไป ยังไม่หมดอานิสงส์
“ต้นธาตุท่านส่งสมบัติมาให้ผู้นี้เป็นตัวประกาศศาสนา ไม่ช้าหรอกจะได้รู้เรื่องกัน ในประเทศญี่ปุ่นกับไทย ผู้ที่จะเป็นที่พึ่งของเขาได้มาเกิดปรากฏขึ้นแล้ว เป็นภิกษุบวชใหม่นี้แล้ว”
อ้างอิงจาก หนังสือสาระสำคัญ พระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หน้า ๑๑๔ - ๑๑๗
โฆษณา