25 ก.ย. 2020 เวลา 11:43 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
วิธีฝึกฝันผจญภัยท่องเที่ยวตอนนอน
ความฝันคือการถอดจิตจากร่างกายเพื่อไปยังสถานที่ที่อาจมีอยู่จริงหรือเป็นสิ่งที่เกินกว่าจะจินตนาการ ความฝันช่วยให้คนเปิดประสบการณ์ความแปลกใหม่และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ได้ ซึ่งโอกาสในการฝันต่างมีหนทางหลากหลายแนวทาง โดยวิธีการดังต่อไปนี้มีส่วนช่วยให้คนหลับได้ฝันง่ายขึ้น
1.การจดจ่อกับกิจกรรม เช่น การเล่นเกมส์ การดูซีรี่ย์ติดต่อกัน หรือการหักโหมทำงาน ทุกกิจกรรมตัวอย่างมีเปอร์เซ็นต์อย่างมากที่จะทำให้มนุษย์เราเกิดความฝันในตอนกลางคืน โดยพฤติกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องเป็นเหมือนการฝังโปรแกรมในสมองให้จดจำจนขึ้นใจ จากผลดังกล่าวจึงทำให้ขณะหลับสมองดึงเอารูปแบบที่กระทำซ้ำ ๆ มาฉายภาพประมวลในความทรงจำอีกครั้ง เฉกเช่นเหมือนกับการปิดหน้าจอแสดงผลแต่ไม่ได้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างไรอย่างนั้น
2.ท่าในการนอน ในการที่จะหลับฝันท่านอนมีส่วนอย่างมากที่จะกระตุ้นให้สมองเกิดการทำงานระหว่างหลับ โดยแต่ละท่วงท่าอาจใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลระหว่างบุคคล เช่น หากใครถนัดมือขวาแล้วนอนหันข้างทับซีกซ้ายเป็นไปได้ยากที่จะหลับฝันเพราะสมองข้างที่ถนัดถูกกดทับทำให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพทว่าในทางตรงกันข้ามถ้านอนอีกฝั่งจะทำให้การทำงานของสมองเป็นไปอย่างเต็มที่
3.การแต่งเติมด้วยกลิ่น กลิ่นบางประเภทนอกจากจะมีผลทำให้นอนหลับง่ายแล้วยังมีอีกบางจำพวกที่ช่วยให้เกิดการฝันอย่างไม่ตั้งใจ จากผลการวิจัยมีหลายบทความที่ชี้ชัดถึงความสัมพันธ์ระหว่างกลิ่นกับการทำงานของสมอง ฉะนั้นการที่เวลาเราได้กลิ่นจึงกระตุ้นเซลล์ประสาทในสมองโดยตรงเป็นผลให้เกิดความฝันไปในตัว
4.การโดนกดทับ ระหว่างนอนหากเราถูกสิ่งของวางทับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นไปได้ว่าสมองจะตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้นเพื่อเตือนให้รับรู้เหตุที่ว่า ซึ่งการจะดึงสติให้มาสถิตย์มีเพียงแต่สมองต้องทำหน้าที่บังคับสร้างความฝันเท่านั้น
5.การวางเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไว้ไกลตัว ปัจจุบันการนอนโดยมีสมาร์ทโฟนใกล้ ๆ ถือเป็นวิถีที่คนทั่วไปล้วนทำกันจนเป็นนิสัย แต่การที่จะหลับฝันอย่างสบายใจเราควรวางของเหล่านั้นไว้ไกล ๆ จะดีกว่า เพราะคลื่นจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์นี้มีผลอย่างมากที่รบกวนการทำงานของสมองไม่ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเครื่องที่มีรูปแบบการทำงานที่หลากหลายย่อมหมายความว่าจะแผ่รังสีรบกวนการฝัน ซึ่งเมื่อลองเปรียบเทียบดูอดีตกับปัจจุบันมีกี่คนกันที่ฝันจำนวนเท่าเดิมก่อนการวางสิ่งของอิเล็กทรอนิกส์ไว้ใกล้ตัว
ความฝันเรียกอีกอย่างว่าการปลดเปลื้องพันธนาการความคิด แม้การหลับสนิทไม่ฝันจะสบายแต่ในความหมายทางจิตวิทยาตีความได้ว่าคุณเป็นคนขาดจินตนาการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ดังนั้นคนมีฝันย่อมดีกว่าไม่มีฝันจริงไหม ?

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา