25 ก.ย. 2020 เวลา 12:50 • ปรัชญา
"ผู้นำที่เก่งควรมีทักษะการเล่าเรื่องที่ดี"
หากเรากำลังตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่าง ทัศนคติที่มีต่อสิ่งที่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพ รวมไปถึงโอกาสประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นด้วย
ผมขอยกตัวอย่างเรื่องราวต่อไปนี้เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น
ย้อนกลับไปประมาณปี ค.ศ. 1887 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีชายหนุ่ม 3 คน ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเชื่อมเหล็กได้ถูกว่าจ้างให้ร่วมก่อสร้างหอไอเฟล
ทั้ง 3 คนได้รับมอบหมายหน้าที่เดียวกันคือการเชื่อมเหล็กจำนวนมากมายแต่ละท่อนให้ติดกัน
ชายคนที่ 1 เหมือนจะทำงานให้เสร็จ ๆ ไปในแต่ละวัน มีการแอบอู้งานบ้างตามแต่โอกาสจะอำนวย เมื่อมีคนถามชายคนที่ 1 ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จึงได้คำตอบว่า
"กำลังเชื่อมเหล็ก"
ชายคนที่ 2 ทำงานตามคำสั่ง หัวหน้างานสั่งให้ไปเชื่อมเหล็กตรงไหน เขาถึงจะไปดำเนินการให้ เสร็จงานก็กลับบ้านตามเวลา เมื่อมีคนถามชายคนที่ 2 ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จึงได้คำตอบว่า
"กำลังสร้างหอไอเฟล"
ชายคนที่ 3 ตั้งใจเชื่อมเหล็กทุกชิ้นอย่างละเอียดละออและคอยดูแลงานเชื่อมของช่างคนอื่น ๆ ด้วยโดยที่หัวหน้างานไม่ต้องออกคำสั่ง เมื่อมีคนถามชายคนที่ 3 ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จึงได้คำตอบว่า
"กำลังสร้างสถาปัตยกรรมที่จะถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์และอยู่คู่กับโลกใบนี้ไปอีกนานแสนนาน"
จากเรื่องเล่านี้ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนว่าทัศนคติที่คนเรามีต่ออะไรซักเรื่องหนึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การที่คนเราจะยอมทุ่มเทให้กับอะไรสักเรื่องหนึ่งนั้น...
"หากทำให้เขารับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่กำลังจะทำและมีส่วนร่วมแล้วล่ะก็ ความทุ่มเทต่อสิ่งนั้นจะมากมายมหาศาลกว่าคนที่ทำอะไรโดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน"
ซึ่งเรื่องนี้เราสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้หลายอย่าง
สมมุติว่าเราได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้างานซึ่งต้องคอยดูแลและกระตุ้นลูกน้องในทีมให้ทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย
ถ้าเรามีทักษะการเล่าเรื่องที่เก่งหรือการสื่อสารให้ลูกน้องในทีมได้เห็นภาพและเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำ
อย่างเช่น ที่มาของผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะวางจำหน่าย ลองเล่าให้เขาฟังว่าสิ่งนี้จะช่วยผู้คนยังไง ผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วมากมายกว่าจะสำเร็จออกมาเป็นสิ่งนี้
เพราะเรื่องเล่าเหล่านี้จะรวบรวมเป้าหมายของทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้ทุกคนเดินไปในทิศทางที่วางไว้ และสำเร็จตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้นครับ
#leaderคิดอย่างผู้นำ
โฆษณา