26 ก.ย. 2020 เวลา 04:46 • ความคิดเห็น
บนพื้นที่ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน
เราต่างเป็นความทรงจำของกันและกัน
การพบเจอกันแบบไม่อาจหลีกหนี
ไม่ว่าจะเป็นการแวะเวียนเข้ามาแล้วผ่านไป
หรือเป็นคนยึดพื้นที่ความทรงจำของเราไว้
ต่างคนต่างทำให้ได้จดจำ
จะเป็นชายแปลกหน้าเดินข้ามถนน
ป้าขายข้าวราดแกงแสนอร่อย
หรือสาวสวยในคาบสาวออฟฟิต
หลายคนพัดผ่านอาจทำให้เราจำหรือทำให้เราลืม
แต่มีความทรงจำบางประเภท
ทำให้เราไม่อาจหลีกหนี
คล้ายพื้นที่นั้นเป็นกรงขังใจเราไว้ไม่ให้ลืม
อาจจะเป็นเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่าง
คนที่รักลาจากแบบเจ็บปวด
สิ่งต่างๆ สร้างรอยแผลลึกจนยากจะรักษา
จนทำให้เราดำดิ่งสู่ก้นเหวลึกยากจะปีนกลับ
ความปวดร้าวจากความทรงจำแบบนี้ควรได้รับการแก้ไข
วิธีรักษาเยียวยาอาจมีเพียงหนทางเดียว
นั่นคือการเคลียร์พื้นที่ความทรงจำบางอย่างให้หายออกไป
ในเมื่อเราเป็นผู้ที่เก็บมันมาใส่ในใจเราได้
เราเท่านั้นที่จะเป็นคนปล่อยให้มันผ่านไปได้
ความเจ็บปวดจะไม่มีทางหาย ถ้าเราไม่ยอมรักษามันอย่างตรงจุด
การรักษาไม่ใช่การจงใจทิ้งความเลวร้ายนั้นไปอย่างไม่ได้รับบทเรียน
หากแต่เราได้รับบทเรียนนั้นอย่างเข้าใจและพร้อมที่จะปล่อยให้มันหายไป
ความทรงจำอาจเปรียบเสมือนดอกไม้ที่งอกเงยขึ้นในขณะที่เราเดินป่า
บางดอกเราสามารถจับมันขึ้นมาเชยชมกลิ่นหอม เมื่อเราจดจำมันแล้วเราก็ทิ้งมันให้อยู่กับผืนป่า
บางดอกเราทำได้เพียงเชยชมความงามของมัน
เพราะการเด็ดมันขึ้นมา ถือเป็นการทำลายความสวยงามในแบบที่มันควรจะเป็น
บางความทรงจำอาจไม่หอมหวานอีกต่อไปแล้ว
พื้นที่ในความจำควรได้รับการเคลียร์ออก
บางความทรงจำอาจจะยังสร้างบาดแผลอยู่ในใจ
แต่ซักวันแผลนั้นจะจางหายถ้าเราเดินผ่านมันมา
ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำรูปแบบไหน
ในเมื่อเราเป็นคนเก็บมันมา เราก็ต้องเป็นผู้ปล่อยมันไปด้วย
ดอกไม้ควรจะอยู่ในที่ของมัน
เราเป็นเพียงผู้เชยชมเท่านั้น
ThiNKNOTE
โฆษณา