26 ก.ย. 2020 เวลา 09:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เคย #เทรดเสีย หลายครั้งมาก เคย #เป็นหนี้ เยอะมาก ต้องยอมรับความจริง แล้วต้องทำอย่างไงต่อไปครับ?
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ คือ เรื่องราวใน #อาชีพ #เทรดเดอร์ ของผม ซึ่งเป็นประสบการณ์จริงที่มีทั้งขาขึ้นและขาลง จากเทรดเดอร์ธรรมดา ๆ ลองโน้นลองนี้จน #เป็นหนี้ หลักล้าน จนมาถึงการเป็น #ผู้อำนวยการ ส่วนภูมิภาคของ #โบรกเกอร์ GMI EDGE TH (ดูแลหลายประเทศ) อย่างทุกวันนี้ ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจให้ทุกคนไม่ให้พลาดแบบผม และลุกขึ้นสู้อีกครั้ง....
จุดเริ่มต้นในการตัดสินใจเข้าสู่การลงทุน เริ่มจากที่ผมได้ดูหนังชื่อ “Wallstreet" เห็นภาพ #นักลงทุน เท่ๆ ทำให้ผมรู้สึกอยากท้าทายตัวเองด้าน #การเทรด จึงตัดสินใจ #เปิดพอร์ต ที่ Maybank Kim Eng และ Finansia Syrus แต่ด้วยความที่ผมยังเป็นมือใหม่มาก ๆ จึงทำตามคำแนะนำของ #Marketing เป็นส่วนใหญ่ และติดดอยบ่อยครั้ง
หลังจากนั้น ผมก็อยากจะเอาชนะตัวเองด้านนี้ให้ได้อีกครั้ง จึงเริ่มหันมาเรียน #TechnicalAnalysis เช่น ตีเส้น ดู indicator และได้เรียนรู้ว่าก่อนทำอะไรควรคิดให้เป็นระบบ ถึงแม้ว่าผมจะมุ่งมั่นเรื่องการเทรดมากขนาดไหน แต่ผมก็ไม่เคยละทิ้งหน้าที่ ตั้งใจทำงานและโตใน #หน้าที่การงาน โดยตอนนั้นผมทำงานที่ #Agoda และได้เลื่อนขั้นจาก Call Center ไปเป็น Business Development ของทั้งทวีป Latin America แต่ด้วยความทะเยอทะยาน ผมจึงย้ายมาทำงานที่บริษัท #ลงทุน
ในขณะเดียวกันผมก็หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับสายงานและความต้องการด้าน #การลงทุน โดยลงเรียนวิชาด้าน #การเงิน และเปลี่ยนเป็นสายเทรด #VI แต่การ #เล่นหุ้น ได้ผลตอบแทนช้าและใช้เงินเยอะกว่า เลยลองวิ่งเข้าหาการลงทุน #DW สุดท้ายก็เสียเพิ่มขึ้น และหนี้ที่พอกพูน
"DW ก็ไม่ต่างจากโบรก Book B โบรกได้จากการเสียหายของพวกเรา"
หลังจากผิดพลาดมาหลายครั้ง ผมเริ่มมองหาวิธีอื่นเพื่อเอาชนะความล้มเหลวให้ได้ และคิดว่าค่าคอมต่ำอาจทำให้ผมได้ #กำไร หรือเสียน้อยลง จึงหันไปลองเล่น #TFEX กับโบรก #KTBST เพราะมี #ค่าคอมต่ำ สุดท้ายแล้ว จะค่าคอมต่ำหรือสูง เสียก็คือเสีย อย่างไรก็ตาม ผมก็อยากจะลองอีกสักตั้งและตั้งปณิธานไว้ว่าขอจบที่ตลาด #Forex (#ฟอเร็กซ์ #FX) เริ่มจากโบรกเกอร์ #XM เป็นต้นไป โดยลองทุกทาง ทั้งเทรดเอง ตาม #ซิกแนล #ก็อปปี้เทรด หรือใช้ #ระบบเทรดอัตโนมัติ (#EA) เพื่อให้ได้กำไร แต่ก็จบลงที่ #เจ๊ง และหนี้ที่เพิ่มขึ้นอยู่ดี
ประวัติการทำงานและการเทรด part-time ใน #ตลาดค่าเงิน เป็นที่จับตามองจาก #Exness ก็เลยเข้าไปทำงานที่นั่น ที่นี่ทำให้ผมเข้าใจการทำงานของโบรกเกอร์ เข้าใจคำว่า Zero Sum Game เข้าใจว่าบางทีเทรดเดอร์เสียแล้วโบรกเกอร์ได้ ผมได้เงินเยอะจากที่นี่ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ‘เพราะ Zero Sum Game ทำให้เทรดเดอร์หลายคนเป็นหนี้แบบผม’ ผมก็ลืมเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเองว่าอยากเทรดเก่งขึ้นและช่วยเหลือคนอื่น
หลังจากนั้นไป #HotForex เพราะได้เงินเยอะกว่าและได้เป็น #ผู้บริหาร ระดับประเทศ พออยู่ในวงการนี้ซักพักนึง จะรู้จักคนมากขึ้น เรียนรู้จากหลายคนทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็น #เทคนิคการเทรด #แนวคิด และการที่เอาวิธีต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ใน EA
สุดท้ายแล้วเจอเจ้าของ EA เจ้านึงที่ทำกำไรให้ผมจนปลดหนี้ได้
สิ่งที่ได้เรียนรู้มาหลังจากทำงานที่ 2 โบรกนี้ก็คือ: การตัดสินใจที่จะเทรดที่ไหน = การตัดสนใจที่จะเป็น #IB ที่นั่น = การตัดสินใจที่จะทำงานที่นั่น
จนมาวันนี้ ผมได้เข้ามาทำงานที่ GMI EDGE TH ในตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค บอกตรง ๆ เป็นการทำงานที่แรกที่บวกจริง ๆ หลังจากติดลบในชีวิตมาหลายปี เป็นที่นี่แหละที่ทำกำไรเพิ่มขึ้นมาอีกเท่ากับ 1.8 ลบ เงินเดือนอาจไม่เยอะ แต่โปร่งใสในเรื่องการจ่ายเงินครับ ไม่ว่าจะเป็นการจ่าย #เงินเดือน หรือค่าคอม หรือกำไร
จากพนักงานเพียง 4-5 คนเท่านั้น ตอนนี้มีเป็นครอบครัวที่แข็งแกร่งถึง 20 คน เติบโตอย่างต่อเนื่อง พัฒนาเพื่อเทรดเดอร์ที่แท้จริง
ถึงแม้ผมจะปลดหนี้ได้และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ก็ยังคงมีสิ่งที่อยู่ในความคิดและเป็นเป้าหมายของผมอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ
1. เพิ่ม 'earnings' ให้สำเร็จอย่างไร เช่น จาก 1,500 บาทต่อวัน เป็น 30,000 บาทต่อวัน
2. ช่วยแชร์ประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือคนอื่นอย่างไร
3. สุดท้ายแล้ว ทุกวันนี้ผมยังเพิ่มทักษะในการเทรดเองบ้าง เผื่อวันนึงผมอาจเก่งกว่า EA และไม่ต้องพึ่งพามันมากเกินไป
โบรกที่ตอบโจทย์ใน #การลงทุน เท่าที่ผ่านตามา คือ www.gmiedge.com (GMI EDGE TH) เพราะสามารถลงทุนทองแบบถือยาวได้ไม่มี Swap และมี Leverage สูงถึง 1:2000
อย่าลืม !! download line sticker มาใช้คุยกันด้วยนะครับ: https://bit.ly/2WLV3jr
#nbukkamana #ณพวีร์ #เปโดร #พุกกะมาน
Line Official: https://lin.ee/uIw3lu9
โฆษณา