26 ก.ย. 2020 เวลา 13:35
#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่7,
(26/9/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขออนุญาตส่งจันทร์เจ้าขา ให้เพื่อนๆได้อ่านกันให้เพลิดเพลิน ในคืนวันเสาร์นี้นะครับ 😇💚💚💚
สุขสันต์วันเสาร์ครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 7 เทพอชิรา-เมขลาพาริส(2)
#ณ.ห้องนอนคุณไกรสรในเรือนมหาดเล็ก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น..กันนะ
โหงพราย..”
คุณไกรสรเอ่ยถามโหงพราย..พร้อมกับลูบศีรษะที่ปูดโนนั้นอย่าง งงๆ..
โหงพรายกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเอื๊อกใหญ่
.. แล้วจึงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง..
ก่อนที่จะหลับตาลง ค่อยๆ นั่งนิ่ง นึกลำดับเหตุการณ์..แล้วเอามือลูบคางช้าๆครุ่นคิด อีกครั้ง..
“โป๊กกก!!!..” “ฟุ่บบบบ!!!”
แม่มดจ่ายใช้ไม้เท้าจตุรอาชา ตีโป๊กเข้าที่หัวโหงพรายแรงๆครั้งหนึ่ง.. จนไฟลุกโพลงขึ้นไหม้เส้นผมที่ขึ้น หรอมแหรมของโหงพราย
แล้วพูดบ่นโหงพราย ด้วยน้ำเสียง เหนื่อยหน่าย ว่า..
“จะเล่าก็รีบเล่า อย่ามาทำลีลาน่าหมั่นไส้ ให้ข้ารำคาญ..”
โหงพรายรีบเอามือปัดดับไฟที่กำลังไหม้เส้นผมของตน พลางร้องสะอื้นตอบ แม่มดจ่ายว่า..
“ฮือๆ เล่าแล้วขอรับ ฮือๆ”
“คือ คือๆ คือ คุณพีระ แบกคุณไกรสรที่เมามาย กลับมาส่งที่ห้องพร้อมกับคุณหนูน้อยซ์น่ะขอรับ..”
“อ้อ เป็นเช่นนั้นเอง หรอก รึ..” คุณไกรสรพูดตอบ แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ..
“เจ้าโหงพรายย!!! “ แม่มดจ่ายเรียกชื่อโหงพราย และจ้องเขม็ง..
“ขอรับ!!” โหงพรายก้มหน้าลงมองพื้น แล้วตอบรับเบาๆ..
“นี่เจ้ากำลังโกหกข้า กับไกรสร อยู่หรือไม่..
เจ้าโหงพราย”
แม่มดจ่าย ถามคาดคั้น..
โหงพรายจึงลุกยืนขึ้น และพูดตอบเสียงหนักแน่น ว่า..
“ทุกคำพูดที่โหงพรายพูดออกมา มิได้โกหกคุณไกรสร และแม่จ่าย เลยนะขอรับ..
ด้วยว่ากฏสำคัญของการเป็นโหงพรายผู้รอบรู้ครอบจักรวาลนั้น คือ ทุกคำพูดนั้นต้องไม่โกหกน่ะขอรับ..”
“แหมๆ แหม.. ทุกคำพูดนั้นไม่โกหก..แล้ว เจ้าพูดความจริงกับข้า และไกรสร ครบถ้วน หมดหรือไม่นะ เจ้าโหงพรายยย”
แม่มดจ่ายถามซ้ำ พลางจ้องหน้าโหงพรายนิ่ง..
“พูดไม่หมด ขอรับ..”
“แต่ แต่ๆ สิ่งที่พูดแล้วโหงพรายไม่ได้โกหกเลยนะขอรับ..”
“แค่ยังพูดไม่หมด น่ะขอรับ” โหงพรายก้มหน้าหลบตา ตอบแม่มดจ่ายเบาๆ..
“นี่ไงล่ะ พ่อไกรสร..เจ้าโหงพรายผู้สัตย์ซื่อของพ่อไกรสร.. ต้องโดนมะเหงกอาคมข้าอีกสักโป๊ก .. หน่อยกระมัง ถึงจะหายลีลา กระบิดกระบวน ..”
“กระผมขอเถิดขอรับ แม่จ่าย..
เจ้าโหงพราย รีบมายกมือไหว้ขอโทษแม่จ่ายเขาเสีย.. แล้วทีหลัง อย่ามาทำเล่นลิ้นเช่นนี้อีกนะ...
จำไว้เจ้าคือโหงพรายผู้รอบรู้.. มิใช่สาลิกาลิ้นทองจอมกะล่อน..”
คุณไกรสร เอ่ยขอร้องแม่มดจ่าย ให้เว้นโทษโหงพราย แล้วเรียกโหงพรายให้รีบมาขอโทษ พร้อมกับกล่าวตักเตือน..
“ฮื่ออ .. พ่อไกรสรก็มีเมตตาเช่นเจ้าอนุวงศ์ เสียอย่างนี้ละ..บ่าวหรือใครๆ ถึงได้รักพ่อไกรสร..
แต่ไม่ต้องให้มันมาขอโทษข้าหรอก พ่อไกรสร..
แค่จงระวังมันให้ดี อย่าให้กลายเป็นบ่าวสองนายไปเสีย.. หากเป็นเช่นนั้นแล้ว
ถึงวันนั้น หากข้าจักทำลายมัน..พ่อก็อย่ามาห้ามข้าเสียให้ยาก..”
แม่มดจ่าย ตอบคุณไกรสรด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ
จนโหงพรายที่ยกประนมขอโทษ ค้างนิ่งไว้.. ตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว..
“กระผมขอขอบคุณแม่จ่าย ที่เมตตา ผมและเจ้าโหงพรายเสมอมานะขอรับ..
ว่าแต่เจ้าทองดี มันหายไปไหน นะขอรับ แม่จ่าย..”
คุณไกรสรเอ่ยขอบคุณแม่มดจ่าย และเปลี่ยนเรื่องพูด พร้อมกับพยักหน้าขยิบตาให้โหงพราย รีบกลับเข้ากลักไม้ของตน..
โหงพรายยิ้มซาบซึ้ง ขอบคุณ คุณไกรสร.. ก่อนที่จะยกแขนลีบๆขึ้นปาดน้ำตา แล้ววิ่งกระโดดหายเข้าไปในเงามืดข้างตู้ไม้ใหญ่..
“ไอ่ทองดี มันมาลาข้า เมื่อหัวค่ำ..เพื่อออกเรือไปกับ นายห้างฝรั่ง ปาวี
แล้วยังบอกข้า อีกว่าเห็นพ่อไกรสร ยืนรำไหวๆ อยู่หลังงานเลี้ยงที่ตำหนัก.. กับเจ้าเด็กหญิงข้าหลวงตัวน้อยจากปักษ์ใต้..
มันจึงฝากลาพ่อไกรสร และให้ข้าช่วยดูแลพ่อไกรสรแทนมัน..ข้าถึงส่งผีจะกละ มาที่ห้องนอน พ่อนี่ละ..
แล้วผีจะกละของข้าก็พบกับชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังวิ่งออกจากเรือนของพ่อไกรสร..
เจ้าผีจะกละ จึงไล่ตาม หมายจะขย้ำกินวิญญาณ ของชาย และหญิงได้ที่มาส่งพ่อไกร และยังได้เห็นภายใน ห้องของพ่ออีก..
แต่ในที่สุดแล้ว เมื่อจวนตัวผีจะกละของข้า ก็ถูกนังข้าหลวงหญิงตัวน้อยคนนั้น ใช้อาคมไฟมณีเมขลา ทำลายเผาเสียสิ้น..
ฮื่อ...มันช่างน่าเจ็บใจนัก”
แม่มดจ่าย เล่าถึงนายทองดี และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ให้คุณไกรสรฟัง..
ด้วยอาการขัดใจ และอยากแก้แค้น..
“หึหึหึ..คุณหนูน้อยซ์..” คุณไกรสรทอดสายตายาวไปทางตำหนัก พร้อมรอยยิ้มบางๆ และเผลอเรียกชื่อเบาๆครั้งหนึ่ง แล้วจึงหันกลับไปพูดกับแม่มดจ่าย ด้วยเสียงจริงจัง ว่า..
“กระผมขออย่าถึงต้องเอาชีวิต ทุกคนเลยนะขอรับ แม่จ่าย..
คุณพีระและคุณหนูน้อยซ์ เป็นเพื่อนเรียนจากเรือนครูแม่ช้อย ที่คัดสรรมาพร้อมกับกระผมน่ะขอรับ และคงมาส่งกระผมที่เมามาย เท่านั้นน่ะขอรับ..
ส่วนสิ่งของในห้องที่กระจัดกระจาย และล้มระเนระนาด เหล่านี้.. ก็เห็นได้ชัดจากขนนกที่เกลื่อนกลาดเช่นนี้ ว่า เป็นลมจากการขยับปีกของปักษาวายุภักษ์.. พัดผ่านออกมาจากตู้ประตูวิญญาณ ที่กระผมลืมปิดล็อกให้แน่นหนา น่ะขอรับ..”
เมื่อคุณไกรสรพูดจบ ก็เดินมาล้วงหยิบซากงาวารีกุญชรออกจากช่องเปิดของผลึกอำพัน
พลางเอางาทั้งสองจิ้มเข้าไปในรูกุญแจที่ตู้ใหญ่วางโกศ พร้อมกับบริกรรมพระคาถาบางอย่าง..
แล้วปิดล็อกประตูตู้นั้น..
“ขอพ่อไกรสร อย่าคิดประมาท และมองแต่ด้านสว่างของมิตรภาพกับข้าหลวงในราชสำนักสยาม..แต่เพียงอย่างเดียว
เพราะในทุกๆความสว่างย่อมมีเงามืด ให้เหล่าหนอนแห่งอเวจี เข้าเกาะกุม กัดกร่อนในจิตใจของชาวสยาม ด้วยความอิจฉา พยาบาท แตกความสามัคคี..และเห็นชาติอื่นเป็นปฏิปักษ์..
และขอพ่ออย่าลืมหน้าที่ที่จักต้องกอบกู้เอกราชแห่งอาณาจักรล้านช้างให้กลับมายิ่งใหญ่ เกรียงไกร ต่อทั้งสยาม และเป็นที่ประจักษ์ต่อนานาประเทศ เช่นในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช..จงจำไว้ให้ดีนะพ่อไกรสร..”
แม่มดจ่ายกล่าวทิ้งท้ายไว้ ก่อนที่จะเดินถอยหลังกลืนหายไปกับความมืดด้านหลัง พร้อมกับเสียงนกฮูกที่ร้องรับ กันเป็นทอดๆ จนจางหายไปในที่สุด..
คุณไกรสร พยักหน้ายิ้มให้กับความมืดมิดในทิศที่ แม่มดจ่ายจากไป และพูดเสียงดังกังวานว่า..
“กระผม คือ ไกรสร.. มิใช่พระสุริยวงศา..เลยขอรับ..
การกอบกู้เอกราชของอาณาจักรล้านช้าง.. มิจำเป็นต้องเสียเลือดเนื้อ หรือจักต้องเข่นฆ่าชาวสยาม เหมือนเช่นในอดีต..แล้วไม่..
ด้วยว่าแผนการที่พวกเรากำลังเดินอยู่นี้..
ในที่สุดสยามเสียอีก อาจต้องกลับเป็นฝ่ายมาขอร่วมเป็นมหามิตรกับเรา เสียมากกว่านะ แม่จ่าย..”
..
..
..
#ณ.บริเวณด้านหลังงานเลี้ยงตำหนักในเขตพระนคร
“โอย.. ผีจะกละ ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้นะขอรับ ..”
คุณพีระ พูดกับคุณหนูน้อยซ์ ขณะที่จะยืนพิงกำแพงหอบ..
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ตอนแรกหนูน้อยซ์วิ่งจูงคุณพีระอยู่ดีๆ.. พอผีจะกละจะงับวานคุณพีระ..
คุณพีระก็พาหนูน้อยซ์วิ่งอร่อยเหาะราวกับพระพายเลยนะเจ้าคะ.. ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ”
คุณหนูน้อยซ์พูดไป ขำไปจนน้ำตาเล็ด..
“โอย คุณหนูน้อยซ์ช่างสมกับเป็นเพื่อนคุณหนูพาจริงๆนะขอรับ..
หน้าสิ่ว หน้าขวานเช่นนี้ ยังสามารถยิ้ม หัวเราะ ราวกับเป็นเรื่องสนุก ได้นะขอรับ ..” คุณพีระเริ่มยิ้มผ่อนคลาย แล้วเอ่ยตอบ คุณหนูน้อยซ์..
“นั่นใครยืนทำลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงนั้นน่ะ..” เสียงเจ้าคุณสันติ เอ่ยทักขึ้น..
“กระผมเอง พีระน่ะขอรับ”
คุณพีระ เอ่ยตอบ .. ขณะที่คุณหนูน้อยซ์ ท่าท่าจุ๊ปากขยิบตาให้ คุณพีระ รีบไปหาท่านเจ้าคุณ..
“ อ้อ พ่อพีระนั่นเอง รีบขึ้นมาที่ตำหนักเถิด พ่อคุณ.. เค้ากำลังหาตัวกันจ้าละหวั่น ด้วยว่า คืนนี้ มิสเตอร์เฮนรี อาลาบาศเตอร์ ได้พา มิสเตอร์เจมส์ เอฟ.แมคคาร์ธี มาหารือเรื่อง แผนที่สยาม กันในงานเลี้ยงด้วย”
เจ้าคุณสันติ ร้องเรียกคุณ
พีระ อีกครั้งให้รีบขึ้นมาหา..
“ขอรับท่านเจ้าคุณ.. กระผมมาแล้วขอรับ..”
คุณพีระก้าวขึ้นมา พร้อมกับยกมือขึ้นสวัสดีท่านเจ้าคุณ..
ก่อนที่จะหันกลับมายิ้มให้คุณหนูน้อยซ์อีกครั้งหนึ่ง..แล้วจึงรีบจ้ำเดินตามท่านเจ้าคุณ เพื่อไปเข้าร่วมประชุมสำคัญในครั้งนี้..
“ขอคุณพระคุ้มครองนะเจ้าคะ..” คุณหนูน้อยซ์ กล่าวลา แล้วเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง เพื่อเข้าไปยังซุ้มอาหารเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิก..
..
..
..
“จะรีบไปไหน ขอรับ คุณหนูน้อยซ์.. เรายังเดินหาคุณหนูพาไม่เจอเลยนะขอรับ..”
คุณหนูน้อยซ์หันกลับไปทางต้นเสียงนั้น ..และอุทานขึ้นอย่างตกใจ ว่า..
“คุณไกรสร..”
..
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 7
#เกร็ดเพิ่มเติม
#มิสเตอร์เฮนรี อาลาบาศเตอร์,
ผลงานสำคัญของมิสเตอร์เฮนรี อาลาบาศเตอร์พอสรุปโดยสังเขปได้ดังต่อไปนี้
* พ.ศ. 2404 รังวัดในการตัดและเป็นผู้สำรวจแนวถนนและเขียนแผนผังถนนเจริญกรุง ถนนรุ่นแรกที่ใช้เทคนิคการสร้างแบบตะวันตกของประเทศไทย
* พ.ศ. 2417 ออกแบบและก่อสร้างสวนสราญรมย์ นำกล้วยไม้แคทลียา เข้ามาในประเทศไทย
* พ.ศ. 2417 นำล็อตเตอรี เข้ามาออกในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อระดมทุนช่วยเหลือพ่อค้าต่างชาติที่นำสินค้ามาแสดงในการจัดพิพิธภัณฑ์ที่ตึกคองคาเดีย พระบรมมหาราชวัง โดยกรมทหารมหาดเล็กเป็นผู้รับผิดชอบ
* พ.ศ. 2418 ก่อตั้งกองทำแผนที่และเริ่มงานทำแผนที่สำรวจรังวัดเพื่อสร้างถนนต่างๆ
* พ.ศ. 2424 ถวายคำแนะนำให้จ้างนายเจมส์ เอฟ.แมคคาร์ธีมาดูแลกองทำแผนที่
* พ.ศ. 2426 ก่อตั้งกรมไปรษณีย์ และกรมโทรเลข
มิสเตอร์เฮนรี อาลาบาศเตอร์ สมรสกับคุณเพิ่ม สุภาพสตรีชาวไทย มีบุตรชาย 2 คนรับราชการในประเทศไทย ได้แก่มหาอำมาตย์ตรี พระยาวันพฤกษ์พิจารณ์ (ทองคำ เศวตศิลา) (บิดาของพลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี) และพระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง (ทองย้อย เศวตศิลา)
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
26/9/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา