26 ก.ย. 2020 เวลา 14:50 • อสังหาริมทรัพย์
Juzmatch แพลตฟอร์มการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่พัฒนาโดย แสนสิริ
Business model เป็นอย่างไร?
Juzmatch เป็นการจับคู่ระหว่างนักลงทุน และผู้เช่าซื้อโดยที่นักลงทุนจะใช้เครดิตในการกู้ซื้อสินทรัพย์ และผู้เช่าซื้อจ่ายค่าเช่าที่ราคาสูงกว่าค่าเช่าปกติและสูงกว่าดอกเบี้ยที่นักลงทุนจ่ายให้กับธนาคารเล็กน้อย
หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมผู้เช่าซื้อถึงไม่กู้ซื้อสินทรัพย์เอง ทำไมต้องเช่าซื้อผ่านนักลงทุน?
เหตุผลหลัก ๆสองข้อคือ
1.ผู้เช่าซื้อที่มีรายรับไม่แน่นอนอันเกิดมาจากการทำงาน เช่น Freelance หรือขายของออนไลน์ เป็นต้น นั่นทำให้ธนาคารไม่สามารถคำนวณรายรับที่ไม่แน่นอนของผู้กู้ได้ และผู้กู้ถูกปฏิเสธสินเชื่อในที่สุด
2.ถึงแม้ผู้เช่าซื้อมีรายได้ที่มั่นคงและเป็นพนักงานประจำ แต่ก็อาจกู้ธนาคารไม่ผ่านได้อันเนื่องมาจากผู้กู้อาจจะมีกำลังผ่อนน้อยกว่าที่ธนาคารกำหนด ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกำหนดกำลังผ่อนของผู้กู้เป็น 30%ของรายได้ทั้งหมด และผู้กู้มีรายได้ 2 หมื่นบาท ผู้กู้จะมีความสามารถในการผ่อนได้สูงสุดเดือนละ 6 พันบาท นั่นทำให้ผู้กู้รายนี้สามารถกู้ซื้อคอนโดหรือที่อยู่อาศัยได้เพียง 9 แสนบาท (คำนวณจากกำลังผ่อนล้านละ 7,000 บาท) แต่เมื่อผู้กู้เปลี่ยนสถานะเป็นผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้ออาจจะสามารถจ่ายค่าเช่าได้สูงสุด 14,000 บาท หรือ 70%ของรายได้ทั้งหมด ผู้เช่าซื้อรายนี้ก็จะสามารถซื้อคอนโด หรือที่อยู่อาศัยมูลค่าสูงถึง 2 ล้านบาทได้
ด้วยโมเดลนี้ Juzmatch เอื้อให้ผู้ที่มีรายได้ไม่คงที่สามารถซื้อสินทรัพย์ได้ และผู้ที่มีรายได้มั่นคงสามารถซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น
คำถามต่อมาคือ นักลงทุนได้อะไร?
1.นักลงทุนได้ส่วนต่างระหว่างค่าเช่าและดอกเบี้ย
2.ส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ (Capital Gain)
ถึงแม้ส่วนต่างของข้อแรกอาจจะไม่มาก แต่ Capital Gain จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้โดยการลงทุนเพียงแค่เครดิตหรือสลิปเงินเดือน และไม่ต้องใช้เงินลงทุนเนื่องจากค่าเช่าสูงกว่าดอกเบี้ย
ด้วยการตอบสนองของลูกค้าสองกลุ่ม แล้ว Juzmatch จะได้อะไรจากโมเดลนี้?... อย่าลืมนะครับว่า Juzmatch เป็นสตาร์ทอัพในเครือของ แสนสิริ บริษัทชั้นนำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และติชมของทุกท่านช่วยในการสนับสนุนและเป็นกำลังใจต่อผู้เขียนในการพัฒนาบทความให้ดียิ่งขึ้นไป
สามารถติดตามบทความของ แบ่งปัน ได้แล้ววันนี้ที่
โฆษณา