4 ก.พ. 2021 เวลา 04:50 • ท่องเที่ยว
เชียงใหม่ช่วงหน้าฝน มันดีจริงๆ นะ
ฝนตกเย็นช่ำ
หลังจากการทำงานที่เหนื่อยล้ามาเป็นเวลานาน ทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องการที่จะพักผ่อน เลยยื่นกดวันลาไป เพื่อที่จะนำกายและใจที่ห่อเหี่ยว ออกมาจากสถานที่ที่วุ่นวาย ไปยังเชียงใหม่ในช่วง Low Season
เรามาถึงเชียงใหม่ในช่วงเวลาเช้าตรู่ และมุ่งตรงไปรับประทานอาหารเช้าที่ร้าน โกเผือกโกดำ
ร้านโกเผือกโกดำเป็นร้านอาหารเช้าขนาดเล็กอยู่ริมถนน เข้าไปยังในซอย ลักษณะเหมือนร้านน้ำชาสมัยก่อน มีมุมถ่ายรูปมากมาย
เมนูที่นิยมสั่งกันนั้นคือขนมปังอบไอน้ำ และสังขยาหลากหลายสี กินคู่กับชาหรือกาแฟร้อนๆ ในตอนเช้า
มื้อเช้าที่โกเผือก โกดำ
ร้านต่อมาที่เราจะไปนั้นคือร้าน Cafe น่ารัก สไตร์ญี่ปุ่น มีชื่อว่า Transit Number 8
Transit Number 8 เป็น Cafe อยู่ในซอยเล็กๆ มีลักษณะเป็น Town House 2 ชั้น ตกแต่งออกมาได้สวยงาม เหมือนกับอยู่เมืองนอกเลย มีมุมถ่านรูปสวยๆ มากมาย แถมกาแฟที่นี่ก็อร่อยด้วย
เอาละ ต่อไปเราจะเดินทางมุ่งไปยังที่พักของเรากันเลยดีกว่า นั้นก็คือบ้านภูเมี่ยงคำ โฮมสเตย์ ที่บ้านแม่แมะนั้นเอง
ภูเมี่ยงคำ โฮมสเตย์
เราใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยรถยนต์ส่วนตัว ทางไปเชียงดาวยังดูดีนะ ถนนเป็น 4 เลน แต่ทางไปบ้านแม่แมะนี่สิ เอาเรื่องเลย ทางแคบ ชัน ถ้าใครจะมา ขับรถระวังๆ กันด้วยนะ
ทางเข้าโฮมสเตย์และยอดใบชา
จะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่เราได้มาพักแบบโฮมสเตย์ และจะบอกว่าชอบมาก
ลักษณะของบ้านภูเมี่ยงคำเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ อยู่บนเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นชา รับนักท่องเที่ยวได้วันละ 20 คน แต่ถ้ามาเกินกว่านั้น คงต้องมานอนที่ลานข้างนอกนะ
ลักษณะบ้านพัก
วันนี้มีคนเข้าพักแค่ 2 ห้องเองนะ และนี่แหละคือข้อดีของการมาท่องเที่ยวในวันธรรมดา
นั่งชมบรรยากาศได้สักพัก รู้สึกง่วง เพราะเมื่อคืนได้นอนไปแค่ 1 ชั่วโมงเอง (มัวแต่เก็บของ) เลยงีบหลับไป
ประมาณ 4 โมงเย็น ป้าเจ้าของบ้านมาปลุก แล้วชวนเราไปเก็บใบชากัน
ป้าพาเราไปเก็บใบชารอบๆ บ้าน ป้าบอกว่าเดี๋ยวเราจะนำใบชาส่วนหนึ่งไปทำอาหารเย็น และที่เหลือจะนำไปคั้วแล้วใหเราเอากลับบ้าน เอาละเรามารับบทเป็นชาวไร่กัน
บรรยากาศการเก็บใบชาในช่วงเย็น
อากาศเริ่มเย็นแล้ว เมื่อเราเก็บใบชาเสร็จ จึงลงไปเดินเล่นที่หมู่บ้าน จะบอกว่าเป็นหมู่บ้านที่เงียบ สงบมาก ตอนที่เราเดินไปตามถนน เราไม่เจอใครเลย เจอแต่น้องหมาเพียบ
ถึงเวลาของอาหารเย็น คือแบบว่าป้าทำมาเยอะมาก ที่กินกันแค่ 3 คนเองนะ ใบชาที่เราเก็บในช่วงเย็นนั้น กลายมาเป็นใบชาทอดกรอบ และยำปลากระป๋องใบชา อร่อยมาก
อาหารเย็น
เมื่อกินข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว ป้าเริ่มก่อไฟและตั้งกระทะ เพื่อที่จะนำใบชาที่เหลือมาคั่ว และเราก็มีโอกาสลงมือคั่วด้วยนะ
คั่วใบชาไปและปิ้งมันไปด้วย
บรรยากาศยามค่ำคืนมันดีจริงๆ นะ หลังจากนั่งคุยกันได้สักพัก ก็ถึงเวลาเข้านอน
สวัสดีตอนเช้าครับ
เราตื่นขึ้นมาในอากาศที่เย็นกำลังดี มาพร้อมขันโตกอาหารเช้าชุดใหญ่
อาหารเช้าที่ภูเมี่ยคำ โฮมสเตย์
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ ก็ถึงเวลาเดิทางกันต่อครับ และสถานที่ที่ต่อไปของเราก็คือไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
จากบ้านแม่แมะขับมาไกลกันเลยทีเดียว แต่ก็คุ้มกับบรรยากาศและอาหารที่แสนจะอร่อย นั้นคือเค้กจากชาเขียว และชาร้อนๆ นั้นเอง
เค้กชาเขียวและชาร้อน
บรรยากาศที่นี้ดีมากครับ ถึงขั้นถามพนักงานว่า ที่พักที่นี่เต็มหรือยัง (จะ Cancel ที่พักในเมือง แล้วพักที่นี่เลย) ถึงแม้เปอร์เซนต์ว่างช่างริบรี่เหลือเกิน และแล้วคำตอบก็คืออ
เต็มค่ะ
หลังจากรับประทานของหวานกันเสร็จแล้ว เราจึงเดินลงไปถ่ายรูปกันในไร่ชา
บรรยากาศไร่ชาลุงเดช
ถ่ายอยู่ดีๆ ฝนก็เทลงมา ทำให้เราได้รูปแบบนี้
หมอกเต็มเลย
กว่าจะได้รูปสวยๆ เปียกกันไปหมดเลย
เอาละถึงเวลากลับกันแล้วว
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และชมรูปภาพจากทริปนี้นะครับ
ไว้เจอกันใหม่ทริปต่อไป
สวัสดีครับ
ดูรูปเพิ่มเติมได้ใน Facebook Page ด้านล่างเลยนะครับบบบ
โฆษณา