27 ก.ย. 2020 เวลา 14:04 • ศิลปะ & ออกแบบ
[ เรื่องเล่าชมรมวิทย์ SPECIAL ]
EP 1 : Another World with You - อีกโลกหนึ่งกับใครคนหนึ่ง
“3a บวก 2a เท่ากับ 5a แก้สมการกราฟเส้นนี้แล้วถอดค่าความชันออกมา หาค่าคงที่”
“ซายน์ มากินข้าวเช้าได้แล้วลูก”
“หาค่าคงที่แล้วก็เอาไปแทนค่าในกราฟโมเดลอันนี้ เพื่อดูจำนวนประชากรสัตว์ที่กำลังลดลงในเขตอุทยาน”
“ซายน์! แม่เรียกไม่ได้ยินเหรอ”
ฉันชะงักมือที่กำลังกดแป้นพิมพ์เพื่อป้อนตัวเลขลงในโปรแกรมทันทีเมื่อคุณแม่เรียกซ้ำเป็นครั้งที่สอง และคราวนี้เหมือนจะเป็นของจริง
“ค่า ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่า”
หลังจากพับหน้าจอคอมให้เข้าสู่โหมดพัก ฉันรีบเดินลงไปห้องครัวชั้นล่างที่คุณพ่อกับคุณแม่นั่งรอทานข้าวอยู่
“เป็นไงมั่งลูก เห็นนั่งทำงานเงียบอยู่ในห้องมาหลายวันแล้ว คราวนี้เจอโจทย์หินเหรอ”
เสียงคุณพ่อถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมส่งยิ้มมุมปากเล็กๆมาให้ ท่านรู้ว่าลูกสาวคนนี้ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆอยู่แล้วยิ่งเป็นเรื่องยากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกท้าทายความสามารถ
คุณพ่อของฉันเป็นศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์นาโน ส่วนคุณแม่เป็นดอกเตอร์สาขาเคมีโพลิเมอร์ ก็เลยได้ชื่อ Science มาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ตัวฉันเองก็กำลังเรียนต่อปริญญาเอกด้านพฤติกรรมสัตว์และสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฉันชอบวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก และเป็นหัวหน้าชมรมวิทย์มาตลอดทั้งตอนเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย
“ซายน์ เดี๋ยวเอาข้าวขึ้นไปให้คุณปู่ด้วยนะลูก แล้วก็จัดยาให้ท่านด้วย แม่เตรียมกับข้าวไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คุณปู่ต้องงดของทอด ของมัน รสไม่จัด แล้วก็เพิ่มผักเยอะๆ คุณด้วยนะคะ กินเข้าไปอีก เข้าใจมั้ย” พูดจบคุณแม่ก็ตักผักใส่จานคุณพ่อจนพูน ทำให้ฉันอดอมยิ้มกับความน่ารักของทั้งคู่ไม่ได้
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“คุณปู่คะ ซายน์เข้าไปนะคะ”
ฉันเปิดประตูเข้าไปเห็นคุณปู่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตรงมุมห้องที่ตั้งหันหน้ามาทางประตู กำลังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ เมื่อฉันวางถาดอาหารลงบนโต๊ะเรียบร้อย คุณปู่ก็กวักมือเรียกให้ไปหา
“ซายน์ วันนี้หลานมีเวลาคุยกับปู่หน่อยไหม เห็นแม่เราบ่นว่าช่วงนี้กำลังทำงานสำคัญ เลยเก็บตัวอยู่แต่ในห้องหรือ”
ฉันเดินไปนั่งพับเพียบอยู่ที่เท้าของคุณปู่ พร้อมกับบีบนวดขาท่านไปด้วย
“ใช่ค่ะ ซายน์กำลังคิดโมเดลเพื่อคำนวณอัตราการลดลงของประชากรสัตว์ใหญ่ในเขตผืนป่าทางภาคเหนือค่ะปู่ แต่ซายน์รู้สึกว่ามันขาดอะไรไปสักอย่าง สมการที่คิดมาเลยใช้งานไม่ได้สักทีค่ะ”
“นี่ซายน์ หลานรู้มั้ย ว่าวิทยาศาสตร์ก็มีความสวยงามเหมือนกันนะ ไม่ต่างกับเวลาที่เราชื่นชมงานศิลปะเลยแหละ”
“คุณปู่หมายความว่ายังไงคะ”
“หลานลองมองภาพนี้ให้ดีสิ แบบตั้งใจนะ”
คุณปู่ชี้นิ้วไปที่กรอบรูปไม้สีเข้มที่ถูกแขวนไว้ข้างโต๊ะทำงาน ข้างในเป็นรูปภาพแปลกๆ ซึ่งฉันเห็นมาตั้งแต่จำความได้ แต่ก็ไม่เคยสนใจดูแบบจริงจังเลยสักที ฉันเดินไปหยุดอยู่หน้ารูปภาพ ค่อยๆมองไล่ไปทีละส่วน
“หลานเห็นอะไรบ้าง”
“ซายน์คิดว่าภาพนี้เป็น paradox ค่ะคุณปู่ ดูขัดแย้งกัน แต่ก็ดูเชื่อมโยงกัน แปลกมากเลยค่ะ”
“อืม หลานมีเพื่อนที่เก่งด้านศิลปะบ้างไหม วันไหนว่างๆ พามาพบปู่ทีนะ ปู่มีอะไรสงสัยอยากจะถามหลายอย่างเลย เพราะคนบ้านนี้น่ะ สนใจแต่วิทย์ ถามเรื่องงานศิลป์ทีไรส่ายหน้าหนีกันทุกคน หึหึ”
ฉันรีบตกปากรับคำ ก่อนที่จะโดนว่าไปมากกว่านี้ แต่ก่อนที่จะเดินออกมา คุณปู่ยื่นสมุดบันทึกปกหนังสีดำเล่มเล็กมาให้ พร้อมกับบอกว่าสิ่งที่ฉันกำลังตามหา อาจจะมีคำตอบอยู่ในสมุดเล่มนี้ก็ได้ หลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง แทนที่จะเปิดคอมฉันกลับรีบเปิดสมุดบันทึกเพื่อดูเนื้อหาข้างในด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หน้าแรกเป็นภาพร่างของรูปภาพที่ถูกแขวนไว้ในห้องของคุณปู่ แต่เหมือนเป็นลายเส้นที่ร่างขึ้นมาง่ายๆ แค่ให้พอรู้เรื่อง หน้าถัดๆไปก็เป็นภาพร่างเหมือนกัน แต่รูปต่างกันออกไป ฉันค่อยๆพลิกดูทีละหน้า พบว่าครึ่งเล่มหลังไม่มีภาพอยู่เลย แต่มีตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือหวัดอ่านยาก ส่วนใหญ่เป็นคำสั้นๆ คล้ายรหัสลับ และสองหน้าสุดท้ายถูกวาดต่อกันเหมือนเป็นแผนที่ขนาดใหญ่ หน้าสุดท้ายมีก้านขนนกสีสันสวยงามแปลกตา คล้ายขนของนกยูงแต่สั้นกว่ามากเหน็บอยู่ทั้งหมด 3 ก้าน
หลังจากนั่งหาความเชื่อมโยงของคำแปลกๆเหล่านั้นอยู่สักพักแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ฉันจึงเปิดกลับไปดูภาพร่างๆต่างๆใหม่ แล้วนึกถึงคำถามของคุณปู่ขึ้นมา
‘เพื่อนที่เก่งงานศิลป์น่ะเหรอ’
หึ! มีไหม? ก็มีอยู่หรอกนะ แต่ไม่รู้จะเรียกว่าเพื่อนได้หรือเปล่าน่ะสิ เพราะฉันไม่ถูกชะตากับอีตานั่นเอาเสียเลย เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอดตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย ฉันเป็นหัวหน้าชมรมวิทย์ นายนั่นก็เป็นหัวหน้าชมรมศิลป์เช่นกัน เราสองคนเหมือนอยู่คนละขั้ว แค่มองหน้าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่นี่ขนาดโตจนทำงานแล้วก็ยังวนเวียนมาเจอกันอยู่ดี เพราะบ้านของเราสองคนอยู่ตรงข้ามกัน!
‘แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม ฮือ!’
ตอนนี้นายนั่นดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ช่วยหาคำตอบให้ได้ ในเมื่อภาพร่างพวกนี้คือภาพอะไร ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ หลังจากถอนหายใจสิบรอบและคิดใคร่ครวญอย่างดีแล้วว่าไม่มีทางอื่นแน่ๆ ฉันจึงเปิดประตูบ้านแล้วรีบก้าวยาวๆไปหยุดอยู่หน้าประตูบ้านตรงข้าม ก่อนจะกดกริ่งอย่างรวดเร็วเพราะถ้าช้ากว่านี้อีกวินาทีเดียวอาจเปลี่ยนใจเดินหันหลังกลับได้
กิ๊ง ก่อง กิ๊ง ก่อง ~
‘แอ๊ดดดด’
คนในบ้านเปิดประตูออกมาแทบจะทันทีเมื่อเสียงกริ่งสิ้นสุดลง ผู้ชายผิวขาวเหลือง รูปร่างสมส่วน หน้าตาดี (พอประมาณ) ยื่นหน้าออกมาอย่างรวดเร็ว ท่าทางบ่งบอกว่ากำลังแปลกใจ
“อ้าว”
“เอ่อ”
“ครับ”
“เอ่อ อาร์ต”
“หืม?”
“เอ่อ”
“นี่ วันนี้เราจะรู้เรื่องกันมั้ยนะซายน์” เขาถามขึ้นมาดูเหมือนใกล้จะหมดความอดทนเต็มทีกับท่าทางอ้ำอึ้งของฉัน
“คือว่าซายน์มีเรื่องจะให้อาร์ตช่วยหน่อยเกี่ยวกับภาพศิลปะเป็นภาพของคุณปู่น่ะซายน์ไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้เลยแล้วอาร์ตก็เป็นคนเดียวที่ซายน์คิดว่าช่วยได้แน่ๆอาร์ตช่วยซายน์หน่อยได้มั้ยขอร้องล่ะ!”
‘สวรรค์ ช่วยเป็นพยานให้ทีว่าฉันพูดออกไปทั้งหมดนั้นโดยที่ไม่ได้หยุดหายใจเลยแม้แต่น้อย’ ฉันก้มหน้าหลับตาปี๋รอฟังคำตอบ
“เอ่อ ซายน์เงยหน้าขึ้นมาก่อนเถอะ เมื่อกี้อาร์ตฟังไม่ทันหรอกนะ แต่ถ้าซายน์มีเรื่องจะให้ช่วยอาร์ตก็ยินดี”
ฉันลืมตาขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นไปเห็นอาร์ตกำลังส่งยิ้มมาให้จึงรีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณนะ อ่ะ” พูดจบก็ยื่นสมุดบันทึกของคุณปู่ส่งไปตรงหน้า “อาร์ตช่วยดูนี่หน่อยสิ ข้างในมีแต่ภาพร่างงานศิลป์อยู่หลายรูปเลย แล้วก็มีประโยคแปลกๆอยู่เต็มไปหมด”
“เอ๊ะ ทั้งหมดนี่เป็นภาพของ M.C. Escher หมดเลยนี่ซายน์”
“คืออะไรเหรอ” ฉันถามพลางขมวดคิ้ว
“M.C. Escher เขาเป็นศิลปินที่ดังเรื่องการสร้างสรรค์ผลงานแนวนี้มาก ภาพของเขาจะมีมุมมองที่แปลกแต่ก็ได้สัดส่วนเหมือนผ่านการคิดคำนวณมาอย่างดี”
ฉันอึ้งไปสามวินาที เวลานี้เขาช่างเหมือนแสงที่ส่องสว่างอยู่ปลายอุโมงค์จริงๆ
“อาร์ตรู้ด้วยเหรอ”
“รู้สิ เรื่องแค่นี้เอง อาร์ตก็เหมือนซายน์นั่นแหละ เราสองคนแค่ถนัดและสนใจกันคนละด้าน แต่ความเก่ง อาร์ตไม่แพ้ซายน์หรอกนะ”
อาร์ตยิ้มมุมปาก ถึงจะดูน่าหมั่นไส้แต่เวลานี้ฉันจะปล่อยผ่านไปก่อน
“วันนี้อาร์ตพอมีเวลามั้ย ซายน์อยากชวนอาร์ตไปหาคุณปู่น่ะ”
“มีอะไรเหรอ”
“ตอนยื่นสมุดเล่มนี้ให้ คุณปู่บอกว่าวันไหนว่างๆให้พาเพื่อนที่มีความรู้ด้านศิลปะมาหาหน่อยน่ะ คุณปู่มีเรื่องสงสัยอยากถาม แล้วถ้าตอนนี้เราว่างทั้งคู่จะรออะไรล่ะ ซายน์ก็อยากรู้เหมือนกัน”
อาร์ตตอบตกลง ฉันจึงพาไปเขาเข้าบ้านไปหาคุณปู่ ตอนเดินผ่านห้องนั่งเล่น คุณพ่อคุณแม่หันมาทักทายตามประสาคนบ้านใกล้เรือนเคียง
ถึงหน้าห้อง ฉันเคาะประตูอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับ เลยผลักประตูเข้าไปเบาๆ คุณปู่นั่งงีบหลับอยู่บนเก้าอี้โยกตัวเดิม ฉันจึงพาอาร์ตเดินย่องไปหยุดอยู่หน้ารูปภาพแปลกๆนั้น แล้วกระซิบว่า
“นี่ไง ภาพนี้แหละที่คุณปู่บอกว่ามีเรื่องสงสัย ท่านบอกให้ฉันดูให้ละเอียดด้วยนะ”
“ภาพนี้คือภาพเดียวกับภาพร่างที่อยู่ในหน้าแรกของสมุด มีชื่อว่า Another world น่ะซายน์”
หลังจากนั้นอาร์ตก็อธิบายทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาพนี้ให้ฉันฟังอย่างละเอียด ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกทึ่งเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่างานศิลปะจะแฝงเบื้องหลังซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้ แต่ยิ่งจ้องนานๆ กลับยิ่งรู้สึกว่าภาพนี้มีอะไรแปลกๆ ขณะที่อาร์ตกำลังกวาดสายตามองไปทั่วรูปภาพ เขายิ้มเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันโพล่งถามออกไปก่อนว่า
“แล้วนกหน้าประหลาดตัวนี้ล่ะอาร์ต ซายน์ว่าคล้ายนกเป็ดน้ำเลยอ่ะ มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?”
“มีสิซายน์ นกตัวนี้พิเศษมากเลยนะ…มันมีชื่อว่า ซิเมิร์ก (Simurgh) เรื่องราวของมันในตำนานของเปอร์เซียเก่าแก่พอ ๆ กับนกฟินิกซ์เลยนะ"
พอฟังอาร์ตอธิบายว่านกตัวนี้มีความพิเศษอย่างไร อยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าข้างใต้ภาพร่างนี้ในสมุดบันทึกมีประโยคหนึ่งเขียนกำกับไว้อยู่ ฉันจึงอ่านออกเสียงให้อาร์ตฟัง
“Only those who attempt the absurd... will achieve the impossible.”
ทันใดนั้นนกซิเมิร์กตัวที่อยู่ตรงกลางในภาพก็ลืมตาขึ้น!
ฉันนึกว่าตัวเองตาฝาด เลยสะกิดถามอาร์ตว่าเห็นเหมือนกันไหม อาร์ตบอกว่าไม่เพียงแค่มองมานะ แต่มันยังสะบัดปีกอีกด้วย สิ้นเสียงอาร์ต นกซีเมิร์กตัวนั้นก็ขยับปีกบินแล้วพุ่งทะยานออกมาจากภาพ เราสองคนตกใจเอี้ยวตัวหลบไปคนละทาง หลังจากพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว มันก็หักปีกเลี้ยวอย่างสง่างาม ก่อนจะบินวนอยู่รอบๆพวกเราจนเกิดเป็นลมวนขนาดย่อมคล้ายพายุหมุน ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นมาจากอีกฝากว่า
“จับหางนกไว้ให้แน่นๆ”
ฉันกับอาร์ตเลยเอื้อมมือไปคว้าหางนกไว้ เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนแสบตา พอรู้ตัวอีกทีก็ลอยตัวตัวอยู่เหนือท้องฟ้า ด้านล่างเป็นภูมิประเทศที่ไม่คุ้นเคยเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสัดส่วนแปลกประหลาด ระหว่างที่กำลังมองเพลินๆ อยู่ๆนกตัวนั้นก็หันหัวลง กระพือปีกเพิ่มความเร็วมุ่งสู่พื้น ฉันร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจพร้อมๆกับเสียงนกตัวนั้นพูดขึ้นมาว่า
“Welcome to another world พร้อมไปผจญภัยกันหรือยัง?”
สวัสดีค่ะทุกคน ❤️
นี่เป็นซีรีส์ชมรมวิทย์นอกเวลา ตอนพิเศษ ที่เขียนร่วมกันกับเรื่องเล่าชมรมศิลป์นอกเวลานะคะ
ขอเชิญให้อ่านเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของตัวละคร ‘อาร์ต’ ได้ที่เพจ ให้เพลงพาไป หรือคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ ;)
References >>
โฆษณา