รีวิวหนังสือ 1984 : George Orwell
หนึ่งในหนังสือวรรณกรรมที่ดีที่สุดในโลกที่สะท้อนถึงแนวคิดทางการเมืองที่ทุกคนต้องอ่าน
รีวิวหนังสือ 1984 : George Orwell
ผู้เขียน : George Orwell
สำนักพิมพ์ : สมมติ
ราคา : 300 บาท
คะแนนรีวิว (GoodReads) : 4.18/5 ณ วันที่ 27/09/2020 (จากคนรีวิวกว่า 3 ล้านคน)
ความรู้สึกหลังอ่านจบ
โดยสำหรับผมแล้วหลังอ่านจบผมได้กลับมามองย้อนสังคมไทยในปัจจุบันหรือสังคมโลกในปัจจุบันนั้นแตกต่างจาก 1984 หรือไม่ คำตอบที่ผมได้นั้นคือ ไม่ต่างกันแต่ก็ไม่เหมือนกันไปซ้ะหมด โดย 1984 ได้ให้มุมมองผมในการมองโลกของสังคมในปัจจุบันให้กว้างขึ้นโดยอีกหนึ่งแง่คิดที่ผมได้จากหนังสือเล่มนี้ที่สำคัญทีสุดนั้นก็คือ “ อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณคิดนั้นถูกต้องเสมอแม้คนอื่นจะบอกว่ามันถูกต้อง ” เพราะสุดท้ายสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องนั้นมันอาจจะกลายมาจากสิ่งที่ไม่ถูกต้องและทำให้มันกลายมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องโดยที่คุณไม่รู้ตัว สำหรับโลกปัจจุบันหรือสังคมไทยที่เป็นอยู่นั้นมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายๆกับโลก 1984 ทั้งการกดขี่ แบ่งชนชั้น และส่วนที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ผมมองว่าโลก 1984 และโลกปัจจุบันของเราไม่ต่างกันเลยนั้นก็คือ การถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา แม้ใน 1984 นั้นทุกคนล้วนรู้ว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง แต่ต่างจากโลกปัจจุบันที่ความเป็นจริงทุกคนก็ถูกจับตามองในทุกๆพฤติกรรมโดยที่ทุกคนอาจไม่รู้ตัวซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายกว่า 1984 เสียอีก หนังสือเล่มนนี้คือวรรณกรรมที่เป็นเหมือนตำราเรียนทางการเมืองในโลกที่แสนโหดร้าย ทุกๆบทที่ผมได้อ่านผมจะพบความมหัศจรรย์ของนักเขียนที่สามารถคิดค้นหรือจิตนาการถึงวิธีการควบคุมโลกที่โหดร้ายให้ดูไม่โหดร้ายในสายตาของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกแห่งนั้น และอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ผมรู้สึกรักเล่มนี้คือการที่นักเขียนคิดค้นวิธีการควบคุมทาง ภาษาและความคิด ที่โลก 1984 ใช้ในการเปลี่ยนอดีตเพื่อควบคุมปัจจุบัน
เรื่องย่อ
หนังสือ 1984 ที่ George Orwell เขียนนี้คืออีกหนึ่งหนังสือที่เก่าอีกเล่มที่เป็นตำนานและจนถึงวันนี้ก็ยังมีการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดย 1984 จะเล่าเรื่องโดยสะท้อนให้เห็นถึงด้านลบของสังคมโดยผ่านมุมมองตัวละครเอกอย่าง วินสตัน สมิธ ที่เป็นอีกคนที่เริ่มมองเห็นความไม่ยุติธรรมของสังคมใน 1984 ซึ่งหนังสือจะแบ่งออกเป็นสามภาคหลักๆ
โดยภาคแรกนั้นวินสตันนั้นจะเป็นคนพาเราเข้าไปทำความรู้จักกับโลกของ 1984 ที่เราเองแทบจะนึกภาพไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นอย่างไร ผมจะเล่าคร่าวๆเพื่อทุกคนให้เข้าโลก 1984 แบ่งฉบับย่อๆ โลกของ 1984 นั้นจะแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่โดยทุกส่วนจะถูกปกครองโดยอำนาจแบบเผด็จเบ็ดเสร็จ ส่วนของการปกครองที่วินสตันอาศัยอยู่นั้นจะมีชื่อเรียกว่า โอชันเนีย(อเมริกา + อังกฤษ) โดยการปกครองของโอชันเนียจะมีผู้นำที่เราจะเรียกเขาว่า “ BIG BROTHER(พี่เบิ้ม) ” โดยที่ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของโอชันเนียจะมีรูปภาพ ภาพฉาย หรือแม้กระทั้งโปสเตอร์ที่เป็นภาพของพี่เบิ้มจ้องตามเราอยู่เสมอพร้อมมาด้วยคำพูดที่เป็นตำนานอย่าง
“ BIG BROTHER IS WATCHING YOU “
นอกจากพี่เบิ้มที่เป็นผู้นำสูงสุดแล้วส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับการปกครองของโอชันเนียและเป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่ทำให้คำว่า เผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ นั้นสมบูรณ์แบบก็คือ 4 กระทรวงหลักของ โอชันเนีย โดยรายละเอียดนั้นผมอยากให้ทุกคนเข้าไปอ่านผมกล้าฟันธงได้เลยว่าคุณจะต้องตกใจกับการได้รู้จักและการทำงานของทั้ง 4 กระทรวงที่นำมาซึ่งการปกครองที่โหดร้ายของ 1984 และอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่เป็นหัวใจของการปกครองในโอชันเนียนั้นก็คือ ชนชั้น โดยโอชันเนียแบบออกแบ่ง 3 ชั้นง่ายๆก็คือ ชั้นใน ชั้นนอก และแรงงานโดยมีพี่เบิ้มอยู่บนจุดสูงสุด คนชั้นในเปรียบเสมือนหัวหน้าหรือคนมีตำแหน่งใหญ่ๆในกระทรวง คนชั้นนอกเปรียบเสมือนคนชั้นกลางที่เป็นเหมือนพนักงานในแต่ละกระทรวง และแรงงานที่เป็นเหมือนทาส โดยทั้งสามชนชั้นนี้จะมีบทบาทความสำคัญของตนเองต่างกันไปและ 1984 จะอธิบายเรื่องนั้นและจะอธิบายว่าทำไมมีสามชนชั้นนี้ถึงสามารถปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ใช้ควบคุมโอชันเนียนั้นก็คือ “ การคิดสองชั้น ”และ “ นิวสปีค ” โดยผมจะอธิบายสั้นๆให้เข้าใจถึงทั้งสองสิ่งที่ควบคุมโลก 1984 การคิดสองชั้นคือกระบวนการที่ทางพรรคควบคุมและปลูกฝั่งความคิดที่สามารถเปลี่ยนความหมายที่แท้จริงไปได้โดยตัวอย่างที่สำคัญที่หนังสือเล่มนี้กล่าวเสมอนั้นก็คือ
สงความคือสันติภาพ เสรีภาพคือความเป็นทาส อวิชชาคือกำลัง
นี่คือคำขวัญของพรรคที่ใช้หลักการคิดสองชั้นคือทำให้ความหมายของคำขวัญพรรคนั้นถูกต้อง และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ นิวสปีค ที่ถ้าให้ผมอธิบายสั้นๆก็คือการคิดค้นภาษาขึ้นมาใหม่และมีการจำกัดการใช้คำเท่าที่พรรคต้องการเพื่อควบคุมภาษาในการสื่อสารของโลก 1984 โดยคำไหนที่พรรคมองว่าไม่มีประโยชน์หรือจะเป็นคำที่ส่งผลเสียต่อพรรคจะถูกตัดออก ทั้งสองวิธีคือสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญเพื่อควบคุมผู้คนที่จิตใจไม่ใช่พฤติกรรมโดยโลก 1984 ทุกๆคนที่อ่านจะเห็นว่าเด็กๆที่พึ่งเกิดและโตมาในโลก 1984 นั้นใช้ การคิดสองชั้น และ นิวสปีค เป็นเรื่องปกติพรรคสามารถควบคุมคนรุ่นใหม่ได้อย่างเบ็ดเสร็จจากคำกล่าวที่ว่า การเปลี่ยนแปลงอดีตคือการควบคุมปัจจุบัน
โดยภาคแรกวินสตันคือคนชั้นนอกที่ทำงานนกระทรวงแห่งหนึ่ง โดยเขาเองนี่แหละคือหนึ่งคนที่เริ่มรู้สึกว่าการปกครองที่เป็นอยู่นั้นช่างไม่ยุติธรรม ทุกการกระทำจะถูกจับตามองแม้แต่ในช่วงเวลาที่คุณฝัน การแสดงออกท่าทางหรือแม้แต่สีหน้าอารมณ์ที่บ่งชี้ถึงการต่อต้านจะมีการถูกลงโทษ และอีกหนึ่งหลักการที่ 1984 ปกครองนั้นก็คือ การอยู่อย่างสันโดษคือความผิด และแม้แต่การมีความรักก็ยังเป็นเรื่องที่ผิด ภาคแรกที่แหละคือส่วนที่จะทำให้เราเรื่องเข้าใจโลกของ 1984 มากขึ้นผ่านมุมมองที่ของวินสตันที่ดำเนินชีวิตในช่วงเวลาที่เขาเริ่มเห็นความไม่ยุติธรรม ความสนุกของภาคนี้คือการที่วินสตันเริ่มที่จะมีความคิดที่เป็นกบฎต่อโอชันเนียและเขาจะทำอย่างไร ?
ภาคสองคืออีกส่วนที่สำคัญและเป็นส่วนที่ทำให้ผมสนุกที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยภาคสองนั้นจะเป็นการกล่าวถึงบุคคลสำคัญอีกคนที่เข้ามาทำให้วินสตันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงและคิดที่จะลุกขึ้นสู้กับสังคมในปัจจุบัน โดยภาคสองนี้จะเป็นส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องความรักและการเมืองที่ลงตัวมากๆ โดยจะดำเนินเรื่องจากข้อห้ามที่ว่าการมีความรักเป็นเรื่องที่ผิด ไปสู่การลักลอบแอบมีความรักแบ่งปันความคิดของกันและกันและนำไปสู่การคิดที่จะต่อต้านสังคม 1984 โดยช่วงที่อ่านในภาคแรกนั้นผมไม่เคยคิดเลยว่าจะนำเรื่องความรักมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ แต่ George Orwell นั้นสุดยอดมากที่เขียนให้เรื่องการเมืองและความรักไปด้วยกันได้ดีมากๆ
ภาคที่สามจะเป็นเหมือนบทสรุปของเรื่องที่จะมีอีกหนึ่งตัวละครที่จะมีความสำคัญมากๆในภาคนี้ ถ้าให้ผมเปรียบว่าตัวละครนี้ผมนึกออกเพียงคำเดียวเท่านั้น นั้นก็คือคำว่า “ อำนาจ ” นี่คือบทสรุปที่เราจะได้เห็นผ่านมองมุมของวินสตันที่ต้องเผชิญโดยตรงกับคำว่า อำนาจ บทสรุปนั้นจะเป็นอย่างไรก็ขอให้ทุกคนลองไปอ่านกันดู โดยในภาคนี้เปรียบเสมือนการแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงให้วินสตันได้เห็นและอำนาจเองนั้นจะพยายามที่จะเข้ามาควบคุมวินสตันให้ได้ วินสตันเองจะทำอย่างไรเมื่อเจอกับอำนาจต้องไปลองอ่านกันดู
สุดท้ายนี้เรื่องที่ผมเล่าไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจริงๆ แต่ส่วนที่ทำให้หนังสือเป็นตำนานนั้นมีอีกมากมายเลยที่ผมไม่ได้กล่าวแต่ผมอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านมันเองจริงๆแล้วทุกคนต้องเคารพให้กับความสุดยอดของนักเขียนที่มีนามปากกาว่า
GEORGE ORWLL
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
